บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 24-31 สิงหาคม 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ......แม้สถานการณ์โรคระบาดในบ้านเรา ดูจะเบาบางลง แต่จากการที่เพื่อนบ้านข้างเคียงของเรา ดันมีสถานการณ์โรคระบาดที่วิกฤติยิ่งกว่า จนไม่อาจที่จะเบาใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับแถบๆชายแดน ที่มักจะมีพวกลักลอบเข้าประเทศอยู่เนืองๆ (+คนไทยเห็นแก่ตัวบางคน ที่สมคบคิด พาคนกลุ่มนี้เข้าประเทศแบบไม่ถูกกม.ด้วย) ซึ่งตรงนี้ฝากให้จนท.บ้านเมืองช่วยดูแลกันอย่างแข็งขันโดยเด็ดขาด เพราะทุกวันนี้ ก็ใช้ชีวิตทำมาหากินอย่างหืดขึ้นคอสุดๆ ประกอบกับ ช่วงนี้ฝนตกน้ำท่วม หลายพื้นที่ก็อยู่อาศัยลำบาก ขอให้ผู้ใหญ่บ้านเมือง ดูแลกันอย่างทั่วถึงด้วย เรื่องจะซื้อเรือดำน้ำ ช่วยกลับไปพักก่อน!!!!! แม้พวกท่านจะบอกว่า สิ่งนี้จำเป็นต่อยุทธศาสตร์ความมั่นคง แต่พอมาคิดถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเราหลายต่อหลายอย่าง ก็ต้องบอกว่า ยังมีเรื่องอื่นที่ควรทำอย่างเร่งด่วนยิ่งกว่า!!!!!!

สุดท้ายนี้ บ้านเราก็ได้วันหยุดชดเชยวันสงกรานต์กันอีก 2 วัน ช่วงต้นเดือน ก.ย. (ในที่สุด เดือน ก.ย. ก็มีวันหยุดกับเค้าแล้ว!!!) และในช่วงหยุดยาว 4 วันนี้ บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูน ตอนหน้า จะยังคงอัพลงตามปกติ แต่อาจลงดีเลย์หน่อย อย่างน้อย ไม่เกิน วันที่ 7 ก.ย. ครับ!!

 

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : บทสรุปเจ้าสาวตัวจริง และพี่น้องทั้ง 5 Move On กับ เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า 14

การ์ตูนออกใหม่ ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่กำลังผ่อนคลายลง เริ่มจาก

เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า เล่ม 14 เล่มสุดท้ายของซีรี่ย์แฝดห้าว้าวุ่น ป่วนหัวใจหนุ่มนักติว ที่ปล่อยให้คนอ่านลุ้นอวยมาตลอด 13 เล่มก่อนหน้า ..........กิจกรรมใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิตม.ปลาย "งานโรงเรียน" ปิดม่านแล้ว เส้นทางความรักของแต่ละคนจะเป็นเช่นไร!? แล้วเจ้าสาวตัวจริงของฟุทาโร่จะเป็นใคร ใน 5 พี่น้องฝาแฝดสาวสวยกลุ่มนี้ !!? จะตรงใจกับที่ผู้อ่านเชียร์หรือเปล่านะ!?

act-age ดารายอดอัจฉริยะ เล่ม 10 เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนวันแสดงรอบจริงของละครเวที [องค์หญิงพัดเหล็ก] ทุกคนกำลังซ้อมฉากไคลแมกซ์ ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันต่อวันแสดงรอบจริงที่ใกล้มาถึง และในเวลานั้น ผู้กำกับของทีมหนึ่ง ยามะโนะอุเอะ ฮานาโกะ ก็ได้สารภาพกับพวกโอกามิว่าเธอได้เตรียม บางสิ่งบางอย่างไว้เพื่อทำให้โยนางิสามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้

....อย่างไรก็ตาม จากข่าวที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การตัดจบอย่างไม่คาดฝันของเรื่องนี้....คาดว่า บ้านเรา น่าจะได้สัมผัสเล่มนี้ เป็นเล่มสุดท้ายล่ะ

Black humor เซลล์แมนทมิฬ + นักพนันไร้เดียงสา หนึ่งในผลงานมังงะเอกของ Fujiko Fujio A ที่เน้นหนักความดาร์กโดยเฉพาะ

สาวหมาป่ากับนายเครื่องเทศ ที่ออกเดินทางแลกเปลี่ยนเครื่องเทศกัน ทั้ง ฉบับมังงะ เล่ม 16 และ นิยาย เล่ม 13

สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง (Kusuriya no Hitorigoto) เล่ม 1 นิยายต้นฉบับของซีรี่ย์หมอยาท่าฉลอม.....ผิดๆๆๆ ซีรี่ย์หมอยาสาวในตำหนัก ที่บ้านเรา ต่างวางขายเวอร์ชั่นมังงะ 2 เวอร์ชั่นไปแล้ว ก่อนหน้านี้ (แถมมังงะแต่ละเวอร์ชั่นก็ดันอยู่คนละสนพ. แถมชื่อไทยก็ต่างกันอีก ซะจนนึกแล้วปวดหัว)
.... ณ อาณาจักรใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางทวีป เด็กสาวนางหนึ่งผู้ทำงานเป็นหมอยาในสถานเริงรมย์ย่านโคมแดงอันมีนามว่า ‘เมาเมา’ บัดนี้เกิดจับพลัดจับผลูต้องมาทำงานรับใช้อยู่ในวังหลัง เธอทำได้เพียงเฝ้ารอให้หมดวาระการทำงานอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ไม่สะสวยจึงมั่นใจเป็นนักหนาว่าตนจะไม่มีวันโดนจักรพรรดิเรียกไปเป็น ‘คู่นอน’ อย่างแน่แท้ แต่ในขณะนั้นเอง โอรสธิดาของจักรพรรดิกลับมีเหตุให้อายุสั้น พอรู้ว่าสองทารกน้อยที่ยังเหลือรอดกำลังป่วยหนัก เมาเมาจึงลงมือขุดคุ้ยหาสาเหตุ—

นิยายน่าอ่านอื่นๆ : อาเรียกระสุนแดงเดือด เล่ม 17 , กินทามะ - Gintama ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ กลับมาแล้วจ้ะ RETURN อีกรอบ , เอวานเกเลียน ANIMA เล่ม 3

การ์ตูน-นิยาย น่าสนใจเรื่องอื่นๆ : หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก เล่ม 11, หน่วยผจญคนไฟลุก เล่ม 20 ,ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Mars Chronicle ภาคลำนำดาวแดง เล่ม 5 , P TO JK ป่วนหัวใจนายโปลิศ เล่ม 13, PEACE MAKER KUROGANE ภาคใหม่ เล่ม 11,ฮิโนะมารุ ซูโม่กะเปี๊ยกฟัดโลก เล่ม 20 ,PARASYTE ปรสิต เล่ม 2,Pokemon Special เล่ม 10,MASTER KEATON เล่ม 8,JoJoNIUM เล่ม 13 ,overlord คอมิกอะลาคาร์ต เล่ม 1

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp


Wakanda Forever........มะเร็งร้ายคร่าชีวิต Chadwick Boseman นักแสดงนำจากหนังคนแสดง Black Panther

ประเดิมด้วยข่าวใหญ่อันสุดเศร้าของบรรดาคอหนังทั่วโลก ที่เกิดขึ้น เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 29 ส.ค. 2020 ตามเวลาในบ้านเรา เมื่อ Chadwick Boseman นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน ผู้เป็นรู้จักของใครต่อใคร จากบทบาทของกษัตริย์ T’Challa แห่ง Wakanda / Black Panther จากหนังคนแสดงของ Black Panther รวมถึง หนังซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel เรื่องอื่นๆ ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 43 ปี หลังจากต่อสู้กับอาการมะเร็งลำไส้มานาน ตั้งแต่ปี 2016

โดย Facebook Fan Page ของนักแสดงหนุ่มผิวสีผู้นี้ ได้ยืนยันการเสียชีวิตของเขา โดยระบุว่า Boseman ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 3 เมื่อปี 2016 ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับโรคร้ายนี้มาตลอดระยะเวลา 4 ปีหลัง จวบจนกระทั่ง มะเร็งได้ลุกลามเข้าสู่ระยะที่ 4 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง ณ ที่บ้านพัก โดยมีภรรยา และ ครอบครัวของเขา คอยเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้าง

อีกทั้ง Fan Page FB ของ Boseman ยังได้ยกย่องความเป็นนักสู้ตัวจริงของเขา จากการที่เขาได้ทุ่มทั้งแรงกายและใจ ไปกับผลงานการแสดงภาพยนตร์มากมาย ในช่วงระหว่างเข้ารับการรักษา ตั้งแต่ Marshall จนถึง Da 5 Bloods แล้วก็ Ma Rainey’s Black Bottom ฯลฯ พร้อมกับยกย่องเกียรติอันสูงสุดในอาชีพนักแสดงของเขา ที่มีส่วนสำคัญทำให้ กษัตริย์ T’Challa สามารถโลดแล่นมีชีวิตชีวาในหนัง Black Panther

Boseman เกิดเมื่อ 29 พ.ย. 1976 ณ รัฐ South Carolina สหรัฐ โดยเขามีความสนใจในวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่วัยเยาว์ จนสามารถคว้าปริญญาตรี สาขาวิจิตรศิลป์ด้านการกำกับภาพยนตร์ จาก ม. Howard Washington D.C และ จบการศึกษาจากสถาบัน Digital Film Academy จากมหานคร New York โดย เขามีผลงานการแสดงครั้งแรก กับละครซีรี่ย์ทางทีวี เมื่อปี 2003 ก่อนจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่ Los Angeles เพื่อเดินตามความฝันอาชีพนักแสดงเต็มตัว โดยเขามักจะได้รับบทบาทเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์จริง ที่ปรากฏในหนังจำนวนหนึ่ง อาทิ Jackie Robinson ใน 42 (2013), James Brown ใน Get on Up (2014), และ Thurgood Marshall ใน Marshall (2017) ซึ่งจากบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ Black Panther ที่เขาได้รับ จากหนังฮีโร่ของ Marvel จำนวนหลายเรื่อง ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนสามารถคว้ารางวัล NAACP Image Award และ Screen Actors Guild Award ในเวลาต่อมา

ผลงานหนังเรื่องอื่นๆของเขา ประกอบด้วย 21 Bridges (2019) ที่เขาเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง, Da 5 Bloods (2020) และ Ma Rainey's Black Bottom ซึ่งถือเป็นผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของเขา ที่มีกำหนดฉายทั่วโลกบน Netflix


แหล่งข่าว : Chadwick Boseman FB Fanpage


ผู้วาดภาพประกอบ Act-Age ดารายอดอัจฉริยะ เปิดใจครั้งแรก กรณีมังงะถูกตัดจบ

อ.Shiro Usazaki ผู้วาดภาพให้กับมังงะ Act-Age ดารายอดอัจฉริยะ ได้ออกมาทวีตเปิดใจเป็นครั้งแรก กับ เคสที่เกิดขึ้นกับ Act-Age จนนำไปสู่ การที่ผลงานมังงะดังกล่าว ไม่ได้รับการตีพิมพ์-เผยแพร่ต่อ จากต้นสังกัด อีกต่อไป

เนื้อความบนทวีตนั้น หลักๆก็ เป็นการให้กำลังใจเด็กสาวม.ต้น 2 คน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อจากคดีล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่ง อ.Tatsuya Matsuki ผู้แต่งเนื้อเรื่องของ Act-Age เป็นผู้ก่อขึ้น โดย อ.Usazaki ได้กล่าวถึงผู้เสียหายว่า ต้องมีความกล้าหาญมากพอที่จะออกมาพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งๆที่ยังรู้สึกผวา หรือ หวาดกลัว อยู่ ........แม้คดีความจะยังไม่มีการตัดสินชี้ขาดในขั้นสุดท้ายตามกระบวนการยุติธรรม แต่จากการที่ผู้เสียหายได้ออกมาเปิดเผยสิ่งนี้ จนนำไปสู่การสอบสวน-จับกุมตัว จะต้องได้รับการดำเนินการอย่างถึงที่สุด

อ.Usazaki กล่าวต่ออีกว่า เธอยอมรับทุกมาตรการที่ทางบก. Shonen Jump ได้เสนอมา ซึ่งแต่ล่ะมาตรการนั้น มีผลต่อการตีพิมพ์-และจำหน่ายมังงะรูปเล่ม รวมถึง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับมังงะเรื่องนี้ ทั้งหมด

จากนั้น อ.Usazaki ได้กล่าวถึงการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่ง เพราะได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้เสียหายไปทั้งชีวิต โดยผู้เสียหายอาจรู้สึกหวาดกลัวผู้คนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน หวาดกลัวที่จะเดินทางไปไหนมาไหนตอนกลางคืน จนนำไปสู่ความเครียด ความหวาดกลัว ที่พวกเธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งพอมาพิจารณาถึงมังงะ Act-Age แล้ว ถ้าหากเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์ต่อ ก็อาจสร้างความเจ็บปวด ความกลัว ให้กับผู้เสียหายก็เป็นได้ โดย อ.Usazaki เชื่อมั่นว่า การตัดสินใจจบมังงะเรื่องนี้ เป็นการตัดสินใจดีที่สุดแล้ว

จากนั้น อ.Usazaki ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนผลงานมังงะเรื่องนี้มาโดยตลอด เธอรู้สึกเสียใจที่การเดินทางของมังงะเรื่องนี้ มันช่างสั้นนัก และต้องมาลงเอยแบบนี้ พร้อมกันนี้ อ.ได้ขอร้องให้แฟนๆ อย่านำเอาความผิดหวัง ไปกล่าวโทษต่อ ผู้เสียหายจากคดีดังกล่าว ซึ่งทางฝั่งผู้เสียหายเอง ไม่ได้กล่าวโทษถึงการถูกตัดจบของเรื่องนี้เลย พวกเธอก็แค่เรียกร้องความยุติธรรม และไม่ยอมรับกับความเจ็บปวดที่มาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งพวกเธอก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เท่านั้นเอง

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ แต่ อ.Usazaki ก็เข้าใจความรู้สึกของนักอ่านทุกคนที่รักในผลงานมังงะเรื่องนี้ เธอเองก็เช่นกัน พร้อมกับขอร้องนักอ่านไม่ให้นำเอาความรักมาแปรเปลี่ยน กลายเป็นความก้าวร้าวแทน ซึ่ง อ.ขอร้องให้แฟนๆได้เข้าใจในมุมมองอื่นๆ และอย่าเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะพูด หรือ จะคิดอะไรก็ตาม

สุดท้ายนี้ อ.Usazaki ก็อวยพรให้ผู้เสียหายได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และ แคล้วคลาดต่อเหตุการณ์ทำนองนี้ ไม่ให้ประสบพบเจอ อีกเลย



แหล่งข่าว : Shiro Usazaki 's Twitter , WSJ Manga


โปรดฟังอีกครั้ง.............Eiichiro Oda แพลนจบ One Piece ภายใน 4-5 ปี

สิ่งหนึ่งที่ อ.Eiichiro Oda ได้ออกมาเปรยอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลังๆ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการทีวี หรือ รายการออนไลน์ เกี่ยวกับอนาคตของมังงะ One Piece ของเขา ซึ่งเขาก็มักจะตอบกลับมาอยู่เสมอว่า วางแผนจะจบ มังงะโจรสลัดเรื่องนี้ ภายใน 5 ปี

ล่าสุด เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ อ.Oda ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับอนาคตของ One Piece เมื่อเขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ a la tubo / Arashi Tsu Bo รายการวาไรตี้ของกลุ่มบอยแบนด์ Arashi เมื่อ 27 ส.ค. 2020 โดย Masaki Aiba หนึ่งในสมาชิกของ Arashi ได้สอบถาม อ.Oda เกี่ยวกับ ความยาวของพล็อตเรื่อง One Piece จะใช้เวลาอีกกี่ปี ซึ่ง อ.Oda ยังคงยืนยันคำตอบเดิมว่า เขามีแผนที่จะจบ One Piece ภายใน 4-5 ปีนี้

ต่อมา Satoshi Ohno สมาชิกของ Arashi อีกคน ได้สอบถามเขาเกี่ยวกับ ตอนจบของเรื่อง อ.Oda กล่าวว่า ได้พูดคุยทุกสิ่งทุกอย่างทุกครั้ง ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง กับทางผู้ดูแล ตลอดเวลา ซึ่งทางฝั่งผู้ดูแลมังงะ One Piece ผู้ได้ปรากฏตัวในรายการดังกล่าวร่วมกับ อ.Oda ก็ออกมายืนยันว่า เขารู้แม้กระทั่งตอนจบของเรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะออกมาอย่างยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน!!

อนึ่ง ฉบับมังงะรวมเล่มที่ 97 ของ One Piece มีกำหนดวางจำหน่ายในญี่ปุ่น วันที่ 16 ก.ย. 2020 พร้อมกับหนังสือรวมภาพสีชุด One Piece Oda Eiichiro Gashū Tiger Color Walk 9 และ นิตยสาร One Piece เล่ม 10 ซึ่งหนังสือทั้ง 3 เล่มนี้ ได้เลื่อนวางขายจากกำหนดการเดิมอีก 2 อาทิตย์ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ในญี่ปุ่น


แหล่งข่าว : Anime News Network , Crunchyroll


โล่งอก!!!......เจ้าหมีดำ Kumamon รอดจากการติดเชื้อ COVID-19

สุดสัปดาห์ก่อนหน้า มีข่าวที่ทำให้ใครหลายคน อดรู้สึกเป็นห่วง Kumamon มาสค็อตหมีดำคนดังแห่งจ.คุมาโมโตะ ไปตามๆกัน จากการที่เว็บไซต์ทางการของ Kumamon ได้ระบุไว้เมื่อ 22 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมาว่า Kumamon จะหยุดปฏิบัติงานอย่างไม่มีกำหนด จากการที่มีทีมงานคนหนึ่ง ได้ไปใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ดังกล่าว ได้แจ้งผลการตรวจหาเชื้อของทีมงานรายนี้อย่างไว ในวันเดียวกัน โดยปรากฏว่า ทีมงานผู้นี้ มีผลตรวจเป็นลบ ส่งผลทำให้ Kumamon สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ

มาสค็อต Kumamon ถือกำเนิดขึ้น เมื่อ มี.ค. 2010 โดยได้รับมอบหมายจากผู้ว่า จ.คุมาโมโตะ ให้รับหน้าที่เป็นผจก.ฝ่ายขาย และ ผจก.ฝ่ายสร้างความสุข ประจำจังหวัดดังกล่าว ด้วยรูปแบบการดีไซน์ที่เรียบง่ายผสมกับความน่ารักของมัน จึงทำให้ Kumamon ได้รับการต่อยอดจัดทำเป็นสินค้าหลายประเภท จนสร้างรายได้อย่างมหาศาล โดยสามารถสร้างยอดขายให้แก่ทางจ.คุมาโมโตะ เป็นจำนวน 29.3 พันล้านเยน เมื่อปี 2012

ปัจจุบัน Kumamon มีแคมเปญร่วมกับแฟรนไชส์อื่นๆมากมาย อาทิ หนังคนแสดง Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร , อนิเมซีรี่ย์ Yowamushi Pedal โอตาคุปั่นสะท้านโลก กับ Evangelion , แล้วก็ นักแสดงหนุ่มคนดังระดับฮอลลิวู้ดอย่าง Keanu Reeves อีกทั้ง ยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ใน จ.คุมาโมโตะ เมื่อปี 2016



แหล่งข่าว : Kumamon's Official websiteHachima Kikō , Anime News Network



อนุสาวรีย์ Luffy สร้างรายได้การท่องเที่ยวให้ จ.คุมาโมโตะ ถึงพันล้านเยน

จากเจ้าหมีดำ Kumamon ก็มากล่าวถึงหนึ่งในตัวการ์ตูนที่จัดว่าเป็นฮีโร่ประจำจ.คุมาโมโตะ เช่นเดียวกัน นั่นคือ Luffy และพรรคพวกหมวกฟาง จากมังงะ One Piece ซึ่งหลักๆนั้น มาจากการที่ อ.Eiichiro Oda ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ เป็นชาวจ.คุมาโมโตะ โดยกำเนิด นั่นเอง

อีกทั้ง อ.Oda เอง ก็ได้สมทบเงินจำนวน 800 ล้านเยน (ในนามชื่อเขา 500 ล้านเยน และ ในนาม Luffy อีก 300 ล้านเยน) เพื่อให้ทางจังหวัดได้เยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของจังหวัด เมื่อปี 2016 ด้วยการจัดสร้างอนุสาวรีย์ตัวละคร One Piece จำนวน 8 ตัว และได้ตั้งกระจายตามจุดต่างๆ ทั่วจังหวัดดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน อนุสาวรีย์ มีการติดตั้งแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วย Luffy กับ Sanji ตามลำดับ ขณะที่ Chopper และ Brook ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19

ในจำนวนนี้ อนุสาวรีย์ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์เด่น ที่ทุกคนจะต้องแห่มาเยี่ยมชม หากเข้ามาท่องเที่ยวในจ.คุมาโมโตะ นั่นคือ อนุสาวรีย์ Luffy ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าสำนักงานว่าการจังหวัด ในเมืองคุมาโมโตะ โดยทางกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Shokei ได้ใช้อนุสาวรีย์ Luffy เป็นหัวข้อในการวิจัยของพวกเขา ในแง่ของคุณค่าทางเศรษฐกิจที่อนุสาวรีย์ Luffy ได้สร้างไว้ให้กับทางจังหวัด โดยมีการสำรวจในหมู่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนอนุสาวรีย์แห่งนี้ ช่วงวันที่ 19 ต.ค. 2019 - 20 ม.ค. 2020 และพบว่า อนุสาวรีย์ Luffy สามารถสร้างรายได้มากกว่า 2,671,970,000 เยน จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเมืองคุมาโมโตะ ราว 55,121 คน คิดเป็นสัดส่วน รายได้ต่อนักท่องเที่ยว 1 คน ซึ่งมีส่วนในการสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นของคุมาโมโตะ คือ 48,474 เยน โดยในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด คิดเป็นชาวต่างชาติ 8% ด้วยกัน

โดยผลสำรวจดังกล่าว ได้ระบุว่า คนที่เข้ามาชมอนุสาวรีย์ Luffy ก็จะแวะเวียนไปเที่ยวชมสถานที่อื่นๆในจ. อย่างเช่น ปราสาทคุมาโมโตะ รวมถึง การไปหาอาหารอร่อยๆ ไปกับร้านอาหารร้านดังของท้องถิ่น และ พักค้างคืนที่โรงแรม เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนศ.ผู้ทำแบบสำรวจดังกล่าว จำนวนหนึ่ง ต่างประหลาดใจไปกับตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยว ที่มาจาก อนุสาวรีย์ Luffy ในขณะที่อีกส่วนหนึ่ง รู้สึกไม่แปลกใจกับตัวเลขรายได้ใดๆ กล่าวว่า "หากอนุสาวรีย์พรรคพวกคนที่เหลือของ Luffy เปิดตัวทั้งหมดเมื่อไหร่ ยอดรายได้ก็จะพุ่งกระฉูดมากขึ้นอย่างแน่นอน"


แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Mainichi , Crunchyroll



PIKOTARO ผนึกกำลังเปล่งแสงกับ Pikachu ใน MV เพลงใหม่ล่าสุด

PIKOTARO นักร้องหนุ่มใหญ่รุ่นน้า เจ้าของบทเพลง PPAP (Pineapple Pen Apple Pen) อันลือเลื่องสะท้านโซเชียล กำลังจะมีเพลงใหม่ล่าสุดของเขาออกมาแล้ว กับ PIKA to PIKO ฟังจากชื่อเพลงแล้ว แน่นอนล่ะ ว่า เขาจะได้ร่วมงานกับ Pikachu เจ้าหนูสายฟ้าชื่อดังจาก Pokemon ใน MV เพลงดังกล่าว ซึ่งจะมีการเปิดตัวกันในงาน Pokemon Virtual Fest วันที่ 31 ส.ค. 2020 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานดังกล่าวพอดี รวมถึง จะมีการเปิดตัวในช่อง Youtube หลักของ PIKOTARO ในวันเดียวกัน

PIKOTARO ได้ออกมาคอมเม้นต์ ในการร่วมงานกับ Pikachu ครั้งนี้ "Pikachu เค้าก็สีเหลืองเหมือนกับผม และผมก็รู้สึกว่า มันช่างเข้ากันมานานแล้วล่ะ ผมโชคดีมากๆที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ Pikachu และผองเพื่อน ผมหวังถึงเรื่องนี้มาซักพักนึงล่ะ เราได้สนุกสนานในการเล่นเพลงด้วยกัน มันสนุกมากๆนะ pi!"

อีกทั้ง PIKOTARO ยังกล่าวว่า เขาสามารถนำเอาความเข้าใจ ระหว่าง ตัวเขา กับ Pikachu ผ่านแว่นกันแดด และหวังว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะสนุกสนานไปกับเพลงนี้ ในขณะเดียวกัน เขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้ง Justin Bieber, Ed Sheran, รวมถึง Edo Harumi นักแสดงตลกชาวญี่ปุ่น จะฟังเพลงนี้ด้วยเช่นกัน


แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Comic Natalie , Crunchyroll


Spy x Family ทำยอดขายทะลุ 5,500,000 เล่ม

ช่วงคืนของวันที่ 24 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา ได้มีการเปรยเกี่ยวกับข่าวสำคัญของ Spy x Family มังงะครอบครัวสปายจำแลง สุดฮิตมาแรงของ อ.Tatsuya Endo ซึ่งทำเอาบรรดาคอมังงะชาวโซเชี่ยลพากันคาดการณ์ต่างๆนานา ..... และแน่นอนว่า คงมีอยู่เกินครึ่ง ที่คาดหวังไปไกล ถึงข่าวการทำฉบับอนิเมของเรื่องนี้!!

เอาเข้าจริง ข่าวสำคัญของ Spy x Family ได้มีการเปิดเผยออกมา นั่นก็คือ...... ฉบับมังงะรวมเล่ม (รูปเล่ม + ดิจิตอล) มียอดขายรวมกัน 5,500,000 เล่ม โดยเล่ม 1-4 ของเรื่องนี้ ต่างมียอดขายแต่ละเล่ม ทะลุเกิน 1 ล้านเล่มแล้ว และเพื่อเป็นการฉลองยอดขายถึงระดับนี้ อ.Endo จึงได้วาดภาพของ Loid และ Yor กำลังนั่งดินเนอร์อย่างหวานชื่น บน twitter ส่วนตัว

ก่อนหน้านี้ Spy x Family มียอดขาย 4 ล้านเล่ม เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. 2020 ก่อนที่ ฉบับรวมเล่ม 1-4 จะมีการรีปริ้นท์เพิ่มเติม (ทั้งรูปเล่ม-ดิจิตอล) ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา จนส่งผลทำให้ ยอดขายของเรื่องนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 ล้านเล่ม ได้สำเร็จ

โดย ฉบับรวมเล่ม 5 ของเรื่องนี้ มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 4 ก.ย. 2020 จะมีของสมนาคุณ ชนิดดักแก่ของใครหลายคน นั่นคือ ชุดตุ๊กตากระดาษ ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้อง Anya / อาเนีย (ว่าแต่ เด็กสมัยใหม่ เค้ายังเล่นแบบนี้หรือเปล่านะ?)


แหล่งข่าว : Crunchyroll , WSJ Manga


มังงะ Haikyu!! สนับสนุนโปรเจ็ครวมชุดแข่ง ให้กำลังใจทีมวอลเลย์โรงเรียน ที่ไม่สามารถแข่งขันอินเตอร์ไฮ ประจำฤดูร้อน 2020 [แก้ไขรายละเอียดข่าว]

ช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ประจำปี 2020 คงจะเป็นช่วงเวลาที่อับเฉา ไม่ครื้นเครง เหมือนอย่างเคย อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบในหลายด้าน ไม่เว้นแม้แต่ การจัดแข่งขันกีฬาระดับม.ปลาย ทั่วประเทศ (หรือ อินเตอร์ไฮ ตามที่คอมังงะแนวกีฬาคุ้นเคยกัน) ในชนิดกีฬาต่างๆ ก็ไม่สามารถจัดแข่งขันได้ในช่วงเวลานี้ เช่นกัน ประกอบกับช่วงนี้ ก็เป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อนของญี่ปุ่น ทำให้โรงเรียนจำนวนหลายแห่ง ปิดทำการ จนนักกีฬาไม่สามารถที่จะให้สถานที่ในการฝึกซ้อมได้

อย่างไรก็ตาม จากการที่วอลเลย์บอลอินเตอร์ไฮ ประจำหน้าร้อน ปี 2020 ไม่ได้จัดอย่างแน่นอน ประกอบกับมังงะ Haikyu!! คู่ตบฟ้าประทาน มังงะวอลเลย์บอลเรื่องดังของ อ.Haruichi Furudate ได้อวสานลง เมื่อ 20 ก.ค. 2020 พอดี จึงนำไปสู่การผุดโปรเจ็คให้กำลังใจบรรดานักวอลเลย์บอลระดับ ม.ปลาย ผู้หมดสิทธิ์ลงแข่งขันประจำปี โดยมังงะเรื่องนี้ ด้วยการรวบรวมชุดแข่งวอลเลย์บอลของทีมโรงเรียนม.ปลาย ทีมต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น ที่ปรากฏในมังงะ Haikyu!! จำนวน 166 ทีม กำลังวางเรียงรายอย่างสวยงาม บนคอร์ทวอลเลย์บอลในสนามกีฬา Utsunomiya City Gymnasium ( Brex Arena Utsunomiya) และภาพถ่ายดังกล่าวนี้ ได้ตีพิมพ์ลงในนสพ.Yomiuri Shimbun กรอบเช้า ของวันที่ 24 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา....ซึ่งภาพชุดแข่งดังกล่าวนี้ เสมือนเป็นการเตือนใจเหล่านักกีฬาว่า แม้อินเตอร์ไฮจะไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมาสกัดกั้นความฝันของใครต่อใคร ณ ที่ตรงนี้

อีกทั้ง อ.Furudate ยังได้วาดภาพของ Hinata ตัวละครเอกจากเรื่องนี้ พร้อมตัวอักษรให้กำลังใจ ซึ่งมีความหมายว่า 'กล้ามเนื้อที่ได้มา จะไม่สูญเปล่าอย่างง่ายดาย'

แม้ว่า มังงะ Haikyu!! จะจบลงไปแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังมีอนิเมทีวีชุด HAIKYU‼ TO THE TOP ที่มีกำหนดออกอากาศในช่วงครึ่งหลัง ในเดือน ต.ค. 2020 นี้

แหล่งข่าว : Comic Natalie , Crunchyroll


 

ยอดนักสืบจิ๋ว Conan : ศึกชิงอัญมณีสีคราม จะถูกนำไปเขียนในรูปแบบมังงะ ก.ย. 2020

สำหรับใครที่เคยประทับใจไปกับเรื่องราวการสืบสวนสอบสวน ไล่ล่าตามจับ จอมโจร Kid ไกลถึงสิงคโปร์ แบบฉบับระเบิดภูเขา เผากระท่อม บนจอใหญ่แล้ว ก็ยังสามารถติดตามหนังชุดนี้กันได้ต่อ ในฉบับมังงะ โดยล่าสุด นิตยสาร Shōnen Sunday S ฉบับ ต.ค. 2020 ได้เปิดเผยว่า Detective Conan: Fist of Blue Sapphire หรือ ยอดนักสืบจิ๋ว Conan : ศึกชิงอัญมณีสีคราม หนังอนิเมชุดที่ 23 ของซีรี่ย์นักสืบจิ๋วเรื่องนี้ กำลังจะถูกเขียนในรูปแบบมังงะ โดย อ.Yutaka Abe กับ อ. Jirō Maruden เจ้าเก่า มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรกใน Shōnen Sunday S ฉบับ พ.ย. 2020 ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 ก.ย. 2020

หนังชุดดังกล่าว ฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เมื่อ เม.ย. 2019 สามารถกวาดรายได้ถึง 9.37 พันล้านเยน จนกลายเป็นหนังอนิเม Conan ชุดที่ 7 ติดต่อกัน ที่สามารถทุบสถิติรายได้สูงสุดของแฟรนไชส์ โดยเป็นหนังภาคแรกของ Conan ที่ดำเนินเรื่องราวในต่างแดน ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีตึก Marina Bay Sands เป็นสถานที่เกิดคดีฆาตกรรมในหนัง เมื่อ "Blue Sapphire" อัญมณีขนาดใหญ่ที่เคยถูกจมบนก้นมหาสมุทร ช่วงสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 ได้ถูกจัดแสดง และเป็นที่หมายปองของ Kaito Kid หรือ จอมโจร Kid โดยมี Makoto Kyōgoku หนุ่มนักคาราเต้ หวานใจของ Sonoko และ Conan Edogawa พยายามที่จะขัดขวาง Kid ในการช่วงชิงอัญมณีสีคราม

อนึ่ง อ.Abe กับ อ. Maruden เคยมีผลงานมังงะดัดแปลงจากหนังอนิเม Conan หลายต่อหลายภาค รวมถึง หนังชุด Zero the Enforcer ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ โดย มังงะจากหนัง Conan ชุด Private Eye in the Distant Sea ฝ่าวิกฤติเรือรบมรณะ เพิ่งตีพิมพ์ตอนอวสานไป ใน Shōnen Sunday S ฉบับ ต.ค. 2020 ที่วางจำหน่ายเมื่อ 25 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา


แหล่งข่าว : Anime News Network



มังงะ "ไหงมาอยู่นี่ครับคุณครู!?" หยุดตีพิมพ์ยาว เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้แต่ง

ข่าวร้ายของผู้ติดตามมังงะซีรี่ย์ครูสาวสุดสยิววาบหวิว อย่าง Nande Koko ni Sensei ga!? หรือ ไหงมาอยู่นี่ครับคุณครู!? เมื่อ twitter หลักของกองบก.นิตยสาร Young Magazine ได้แจ้งว่า ผลงานมังงะเรื่องนี้ ได้งดตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังกล่าว ฉบับที่ 39/2020 อันเนื่องมาจาก Soborou ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ ประสบปัญหาด้านสุขภาพ แต่ถึงกระนั้น แม้มังงะดังกล่าวจะไม่มีการตีพิมพ์ตอนล่าสุด แต่กลับมีการปรากฏอยู่บนหน้าปก และ หน้าสารบัญ ของนิตยสารฉบับนี้

Soborou ได้ทวีตอธิบายบน twitter ส่วนตัวว่า เขามีปัญหาสุขภาพมาโดยตลอด นับตั้งแต่เขียนมังงะเรื่องนี้ ลงในนิตยสารรายสัปดาห์ ทั้งปัญหาสูญเสียการได้ยิน แล้วก็ อาการเอ็นอักเสบที่รุนแรงมากขึ้นๆ ทำให้เขาคิดที่จะหยุดเขียนมังงะเรื่องนี้เป็นการชั่วคราว ทว่า ในช่วงต้นปี 2020 ดันเกิดปัญหาที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะขอหยุดพักได้ แถมนับวัน อาการเจ็บป่วยของเขาก็หนักขึ้น ซะจน เขาไม่สามารถที่จะทำงานต่อไหว หลังจากที่เขาได้ไปปรึกษากับกองบก.ของ Young Magazine จนนำไปสู่การตัดสินใจที่จะหยุดตีพิพ์มังงะเรื่องนี้ เป็นการชั่วคราว

ไหงมาอยู่นี่ครับคุณครู!? ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา และถูกสร้างเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศเมื่อ เม.ย. 2019

แหล่งข่าว : Anime News Network



Netflix เปิดตัวละครซีรี่ย์ Resident Evil

Resident Evil / Bio Hazard เกมซีรี่ย์ไล่ล่าฆ่าซอมบี้ให้เหี้ยน ของ CAPCOM กำลังจะถูกสร้างในรูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดงบน Netflix หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์คนแสดง จำนวนหลายภาค ซึ่งเวอร์ชั่นละครซีรี่ย์นั้น จะทำออกมาทั้งหมด 8 ตอน โดยได้ Andrew Dabb จาก Supernatural เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คนี้ รวมถึงยังได้ Constantin Film ผู้สร้างเวอร์ชั่นหนัง มาร่วมงานกับ Dabb ทั้งงานเขียนบท และ อำนวยการสร้าง ขณะที่ Bronwen Hughes จาก The Walking Dead จะรับหน้าที่กำกับ 2 ตอนแรก รวมถึง ยังรับหน้าที่ executive producer อีกหนึ่งตำแหน่ง

Dabb ได้แสดงความรู้สึกว่า Resident Evil คือ เกมสุดโปรดของเขาตลอดกาล สำหรับแฟนๆของ Resident Evil ไม่ว่าจะเป็นสายไหน สามารถมีส่วนร่วมกับพวกเขาได้ เพราะละครชุดนี้ จะมีความสมบูรณ์แบบไปกับเพื่อนฝูงเก่าแก่ รวมไปถึง บางสิ่ง อย่างเช่น ความกระหายเลือด , ความบ้าคลั่ง ที่ใครต่อใคร ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

Resident Evil ฉบับละครซีรี่ย์ จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสองพี่น้อง Wesker ณ เมือง New Raccoon City โดย Jade และ Billie Wesker สาวสองพี่น้องวัย 14 ปี ที่ย้ายมาอยู่ที่เมือง New Raccoon City แต่ยิ่งใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้ว่า เมืองนี้มีอะไรมากกว่าที่คิด และพ่อของพวกเธออาจปกปิดความลับดำมืด ที่อาจทำลายโลกอยู่ แถมเป็นเวลากว่าทศวรรษในอนาคต ที่มีผู้คนเหลืออยู่บนโลกไม่ถึง 15 ล้านคน และสัตว์ประหลาดมากกว่า 6 พันล้านตัว ซึ่งมาจากคนและสัตว์ที่ติดเชื้อ T-virus เมื่อเวลาผ่านไป Jade ในวัย 30 ปี ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกใหม่นี้ ในขณะที่ความลับจากอดีตของเธอ - ที่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว - ยังคงตามหลอกหลอนเธอ

 

แหล่งข่าว : @NXOnNetflix , The Hollywood Reporter , Crunchyroll



Fate/stay night: Heaven’s Feel Ⅲ.spring song โกยตังค์ทะลุ 1 ล้านเยน

Fate/stay night: Heaven’s Feel Ⅲ.spring song หนังอนิเมชุดที่ 3 จากไตรภาค Fate/stay night: Heaven’s Feel แม้ว่าสุดสัปดาห์ล่าสุด พวกเขาจะไม่สามารถรักษาอันดับ 1 บน Box Office ญี่ปุ่นได้ แต่ถึงกระนั้น ตัวหนังสามารถโกยรายได้ในญี่ปุ่น ทะลุเกิน 1 พันล้านเยนแล้ว นับตั้งแต่เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น เมื่อ 15 ส.ค. 2020 และกลายเป็นหนังจากซีรี่ย์ Fate ที่สามารถทำรายได้ทะลุพันล้านเยน ได้เร็วที่สุด หลังจากหนังฉายไปได้ 11 วัน ทุบสถิติเก่าที่ Fate/stay night: Heaven's Feel II. lost butterfly เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น (แถม lost butterfly สามารถทำรายได้ทะลุพันล้านเยน เร็วกว่า presage flower หนังชุดแรกของไตรภาคนี้ 6 วัน )

รายได้พันล้านเยนของ spring song นั้น มาจากยอดขายตั๋ว 620,000 ใบ ซึ่งโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น จะจำหน่ายตั๋วหนังเรื่องนี้ ในราคาใบละ 1,900 เยน ซึ่งแพงจากหนังสองแรก ที่จำหน่ายตั๋วใบละ 1,800 เยน โดย spring song จะได้ฉายบนโรงหนังระบบ 4D ในวันที่ 4 ก.ย. 2020


 

แหล่งข่าว :  Crunchyroll


นักแสดงนำจากคนแสดง Omoi, Omoware, Furi, Furare ร่วมพากย์รับเชิญในฉบับอนิเม

เว็บไซต์หลักของหนังอนิเม Omoi, Omoware, Furi, Furare หรือ หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก ที่ดัดแปลงมาจากผลงานมังงะแนวโรแมนติคของ อ.Io Sakisaka ได้เปิดเผยว่า นักแสดงนำทั้ง 4 คนจากฉบับคนแสดงของเรื่องนี้ ประกอบด้วย Minami Hamabe (Akari), Takumi Kitamura (Rio), Riko Fukumoto (Yuha), และ Eiji Akaso (Kazuomi) จะมีส่วนร่วมในเวอร์ชั่นหนังอนิเมเรื่องดังกล่าว ในฐานะ นักพากย์รับเชิญ

โดย Kitamura กับ Akaso จะพากย์เสียงเป็น นักเรียนชายผู้มาเยี่ยมชมงานเทศกาลโรงเรียน ในหนังอนิเม ส่วน Hamabe จะพากย์เสียงเป็น Chiyo นักแสดงในละครเวที "Itsuka Sekai no Katasumi de" ในงานโรงเรียน และ Fukumoto พากย์เสียงเป็น Ayuko ลูกสาวของ Chiyo

Hamabe กล่าวถึงประสบการณ์ในการพากย์เสียงรับเชิญ " ชั้นไม่ได้ใช้ไมค์พูดมานานแล้ว รู้สึกกังวลจริงๆ" เช่นเดียวกับ Fukumoto ที่ออกมาเสริมว่า "รู้สึกกังวลมากๆ มันยากมากที่จะพากย์เสียงให้เข้ากับอนิเม"

หนังอนิเมเรื่องนี้ มีกำหนดฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น 18 ก.ย. 2020 จากเดิมที่มีกำหนดฉายเมื่อ 29 พ.ค. 2020 อันเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ขณะที่ ฉบับหนังคนแสดงของเรื่องนี้ ปัจจุบันกำลังฉายอยู่บนโรงทั่วญี่ปุ่น ตั้งแต่ 14 ส.ค. 2020

แหล่งข่าว :  Crunchyroll


มังงะ Ōoku: The Inner Chambers เตรียมอวสาน 28 ธ.ค. 2020

Ōoku: The Inner Chambers มังงะแนวพีเรียดยุคเอโดะ ของ อ.Fumi Yoshinaga ผู้แต่งมังงะ Antique Bakery และ Kinou Nani Tabeta ? เมื่อวาน เจ๊ทานอะไร? ที่ค่อนข้างจะขึ้นชื่อในทางฝั่งตะวันตก กำลังจะอวสานลงในเร็วๆนี้ จากการยืนยันบนนิตยสาร Melody ฉบับ ต.ค. 2020 ที่ระบุว่า เรื่องนี้จะตีพิมพ์ตอนรองสุดท้าย ซึ่งหากเรื่องนี้ตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ไม่มีการเลื่อนตีพิมพ์ ก็จะมีกำหนดตีพิมพ์ตอนสุดท้าย ในนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 28 ธ.ค. 2020 (นิตยสารหัวนี้ จะวางจำหน่ายรายเดือนเว้นเดือน)

อีกทั้ง ฉบับรวมเล่มที่ 17 ของมังงะ เมื่อวาน เจ๊ทานอะไร? ยังระบุว่า Ōoku จะจบลงที่ เล่ม 19 ซึ่งจะวางขายในเดือน ก.พ. 2021

Ōoku ตีพิมพ์ลงใน Melody ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในยุคเอโดะของญี่ปุ่น เมื่อเกิดโรค Red Pox / ฝีแดง แพร่ระบาดในหมู่ชายหนุ่มทั่วประเทศ เวลาผ่านไปถึง 80 ปี ประชากรชายในญี่ปุ่นลดลงไปกว่า 75% ทำให้สตรีในยุคนั้น เริ่มมีบทบาทที่เหนือกว่าผู้ชาย จนถึงขั้นขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นโชกุน และจากการที่ผู้ชายกลายเป็นทรัพยากรอันมีค่าของญี่ปุ่นยุคนี้ ทำให้บรรดาชายหนุ่มรูปงามต่างถูกส่งให้ไปปรนนิบัติให้กับท่านโชกุนหญิง

Ōoku เคยคว้ารางวัลชนะเลิศ James Tiptree, Jr. Award 2009 รวมถึง ชนะเลิศรางวัล Tezuka Osamu Cultural Prize เมื่อปี 2009 เช่นกัน ต่อมาถูกดัดแปลงในรูปแบบหนังคนแสดง เมื่อปี 2010 กับ 2012 แล้วก็ ละครทีวี เมื่อปี 2012 ด้วยเช่นกัน ซึ่งฉบับละคร เคยฉายทางทีวีบ้านเรา ทางช่อง PPTV ในชื่อ โอคุ โชกุนหญิงบัลลังก์หลวง



แหล่งข่าว : Anime News Network



อนิเมซีซั่น 2 ของ Mahouka พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท ได้ฤกษ์ร่ายมนต์บนจอ 3 ต.ค. 2020

หลังจากเจอไวรัส COVID-19 ทำพิษ (ชนิดที่ความเทพทรูของสองพี่น้อง Shiba ยังเอาไม่อยู่) ซะจนต้องเลื่อนออกฉายทางทีวีออกไป แต่แล้วในที่สุด ก็มีการยืนยันว่า เราจะได้รับชม Mahōka Kōkō no Rettōsei: Raihōsha-hen อนิเมซีซั่น 2 ของ Mahōka Kōkō no Rettōsei พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท ภายในปี 2020 นี้ อย่างแน่นอน โดยมีกำหนดฉายทางทีวีตอนแรก ในวันที่ 3 ต.ค. 2020 นี้

อนิเมดังกล่าว เดิมทีมีกำหนดฉายในเดือน ก.ค. 2020 แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป จากสถานการณ์ COVID-19 ตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยจะดัดแปลงเนื้อหาจากไลท์โนเวลบทเดียวกันของ Tsutomu Satou (เล่ม 9-11) ซึ่งบทดังกล่าว ได้รับการเขียนในรูปแบบมังงะ โดย Majiko! ในนิตยสาร G Fantasy ช่วง ธ.ค. 2015 - มิ.ย. 2019

ไลท์โนเวล Mahouka กำลังจะวางขายเล่มที่ 32 เล่มจบของไลท์โนเวลชุดนี้ ในวันที่ 10 ก.ย. 2020 ถึงกระนั้น ไลท์โนเวลชุดนี้ กำลังจะมีการเขียนภาคใหม่อีก 2 ชุด ประกอบด้วย Zoku Mahouka Koukou no Rettousei Magian Company กับ Shin・Mahouka Koukou no Rettousei Cygnus no Otome-tachi ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายช่วง ฤดูใบไม้ร่วง 2020 กับ ฤดูหนาว 2021 ตามลำดับ


แหล่งข่าว : Anime News Network


ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต! ฉบับมังงะ เตรียมเข้าสู่ไคลแมกซ์

นิตยสาร Monthly Comic Dengeki Daioh ฉบับ ต.ค. 2020 ได้เปิดเผยว่า ฉบับมังงะของ Hataraku Maō-sama! หรือ ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต! ที่เขียนโดย Akio Hiiragi กำลังจะเข้าสู่ไคลแมกซ์ในฉบับหน้าของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 26 ก.ย. 2020

มังงะดังกล่าว ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกันของ Satoshi Wagahara เป็นเรื่องราวของจอมมารหนุ่ม ผู้ถูกผู้กล้าสาว Emilia ตีแตก จนต้องหนีไปตั้งหลักบนโลกมนุษย์ ซึ่งที่นั่นเอง เขาได้กลายเป็นหนุ่มพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดธรรมดาๆ แต่ทว่า Emilia ก็ยังอุตส่าห์ไล่ตามเขาทันถึงโลกมนุษย์ เช่นกัน

ฉบับมังงะของเรื่องนี้ ตีพิมพ์ตั้งแต่ ธ.ค. 2011 เป็นต้นมา ปัจจุบันวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มถึง เล่มที่ 16 ในญี่ปุ่น ขณะที่ ไลท์โนเวลต้นฉบับของเรื่องนี้ ได้วางจำหน่ายเล่ม 21 เล่มสุดท้ายของเรื่องนี้แล้ว เมื่อ 7 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา (เลื่อนจากกำหนดการเดิม ที่จะวางจำหน่าย วันที่ 10 ก.ค. 2020 เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19)

ต่อมาเรื่องนี้ มีการจัดทำในรูปแบบอนิเมทีวี ออกอากาศเมื่อปี 2013 รวมถึง มังงะสปินออฟชุด Hataraku Maou-sama! no Meshi! โดย Oji Sadō เมื่อ ส.ค. 2019

แหล่งข่าว : Anime News Network

 


Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน หักเหลี่ยมเฉือนคมต่อ กับ หนังคนแสดงภาคใหม่ ปี 2021

Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน ผลงานมังงะหักเหลี่ยมเฉือนคม แข่งทำหน้าหลอนปั่นประสาท ของ อ.Homura Kawamoto (เนื้อเรื่อง) และ อ. Toru Naomura (ภาพ) กำลังจะมีการสร้างหนังคนแสดงภาคใหม่ล่าสุด ในชื่อชั่วคราว Kakegurui: The Movie Part 2 ซึ่งเป็นภาคต่อจากหนังคนแสดงบนโรง ภาคแรกสุด โดยหนังภาคใหม่มีกำหนดเข้าฉายในปี 2021

โปรเจ็คคนแสดงของมังงะเรื่องนี้ เริ่มต้นจากละครทีวีซีซั่นแรก จำนวน 10 ตอน ออกอากาศช่วง ม.ค. - มี.ค. 2018 ตามด้วย ละครซีซั่น 2 จำนวนอีก 5 ตอน เมื่อ เม.ย. 2019 แล้วก็ หนังคนแสดงบนโรง เมื่อ 3 พ.ค. 2019 โดยตัวหนังภาคแรก สามารถทำรายได้ในญี่ปุ่น 360 ล้านเยน ด้วยกัน

หนังคนแสดงภาคใหม่นี้ จะเป็นเนื้อหาใหม่ ที่ได้ อ.Kawamoto มาดูแลโดยตรง และยังคงได้ผกก. Tsutomu Hanabusa (Sadako 3D, Keep Your Hands Off Eizouken!) กลับมารับหน้าที่กำกับหนังภาคนี้อีกครั้ง เช่นเดียวกับ ทีมนักแสดง ซึ่งนำโดย Minami Hamabe ที่ได้ออกมายืนยันว่า จะรับบทเป็น Yumeko Jabami ตัวเอกของเรื่องนี้ เช่นเคย

Hamabe กล่าวว่า "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Kakegurui มีหนังใหม่แล้ว! และ นักแสดงหลักอันที่รักของพวกเรา ก็จะกลับมา เช่นกัน! ชั้นน่ะนะ ยังไม่รู้สึกสนุกสนานอย่างเต็มที่ และรู้สึกตึงเครียด หายใจไม่ทั่วท้อง จากฉากการพนัน ในระหว่างถ่ายทำ Kakegurui ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนพวกเรา จนสามารถกลับมาพื้นที่นี้อีกครั้ง เราจะถ่ายทำ นำพาให้คุณได้สัมผัสกับ Kakegurui ที่ดีเยี่ยมที่สุด!"

Kakegurui

แหล่งข่าว : Crunchyroll


เหงื่อจริง-ฉากสวย.......ผู้แต่งมังงะ โอตาคุปั่นสะท้านโลก ออกโรงซูฮกฉบับหนังคนแสดง

อ.Wataru Watanabe ผู้แต่งมังงะ Yowamushi Pedal หรือ โอตาคุปั่นสะท้านโลก พร้อมกับ บรรดานักพากย์จากฉบับอนิเมของเรื่องนี้ ได้ออกมากล่าวชื่นชม ฉบับหนังคนแสดงจากมังงะปั่นจักรยานสุดฮิตเรื่องนี้ ที่กำลังเข้าฉายบนโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น อยู่ในขณะนี้ บนเว็บไซต์หลักของหนัง

โดย อ.Watanabe กล่าวว่า ในหนัง ล้วนอุดมไปด้วยช็อตกลางแจ้งแบบทรงพลัง มันไม่ใช่ CG แต่มันคือการแสดงล้วนๆ ที่มาจากการสร้างสรรค์ของทีมนักแสดงและทีมงานถ่ายทำ ซึ่ง เหงื่อนั้น ก็เป็นเหงื่อจริงๆ แถมมีฉากหลังอันสวยงามมาเป็นไฮไลต์ด้วย

ขณะที่ นักพากย์จากฉบับอนิเมทั้ง 4 คน ประกอบด้วย Daiki Yamashita (Sakamichi Onoda) , Kosuke Toriumi (Shunsuke Imaizumi ) , Jun Fukushima (Shokichi Naruko) และ Ayaka Suwa (Miki Kanzaki) ต่างก็ชื่นชมกับตัวหนัง (ขอเขียนแบบสรุป) ทั้งในแง่อรรถรส , ฉากการแข่งขันที่ทำออกมาได้ดี , คาแร็คเตอร์ แล้วก็ ฉากหลัง ที่ทำออกมาได้ฟีลใกล้เคียงกับการ์ตูน เป็นต้น

หนังคนแสดง โอตาคุปั่นสะท้านโลก แสดงนำโดย Ren Nagase สมาชิกวง King & Prince ของ Johnny & Associates ในบทของ Onoda เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นวันแรก 14 ส.ค. 2020 โดยรั้งอันดับ 5 บน Box Office ญี่ปุ่น สุดสัปดาห์แรก ด้วยรายได้เปิดตัว 138 ล้านเยน จนถึงขณะนี้ตัวหนังสามารถกวาดรายได้รวมกว่า 420 ล้านเยน


แหล่งข่าวและทวีต : Yowamushi Pedal Live Action Film 's twitter , Crunchyroll



แฟนๆแห่ลงชื่อยื่นคำร้องออนไลน์ เรียกร้องให้ Shonen Jump แจ้งเตือนเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ

ข่าวที่ประจวบเหมาะ หลังจากเคสดราม่าที่เกิดขึ้นกับ มังงะ Act-Age อันมาจากคดีล่วงละเมิดผู้เยาว์ ที่ อ.Tatsuya Matsuki ได้ก่อขึ้น .... ล่าสุด ได้มีแฟนคลับมังงะนิตยสาร Shonen Jump จำนวนหนึ่ง ซึ่งนำโดย Manabu Sekiguchi ได้ยื่นคำร้องออนไลน์บนเว็บไซต์ Change.Org เพื่อเรียกร้องให้ทาง Shonen Jump ระบุข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับเนื้อหา ที่จะเป็นการชี้นำให้เกิดความรุนแรงทางเพศ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเรียกร้องให้ Jump ดำเนินการสำรวจกลุ่มผู้อ่าน เกี่ยวกับระดับความรู้ในเรื่องเพศศึกษา เพื่อที่จะสร้างสรรค์การแสดงออกในด้านความรู้สึกทางเพศ ให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้อ่าน ปัจจุบัน แคมเปญดังกล่าว ได้ปิดการลงชื่อแล้ว โดยมีผู้ลงชื่อทั้งหมด 4,185 คน และเขาได้ส่งคำร้องดังกล่าว ถึง สนพ. Shueisha ต้นสังกัดของ Shonen Jump แล้วด้วยเช่นกัน

Sekiguchi ผู้เป็นตัวตั้งตัวตี ในการเปิดแคมเปญ "หนุ่มๆอย่างพวกเรา ไม่ใช่หมาป่า , Shonen Jump ควรแยกออกจากกัน ระหว่าง กามารมณ์ กับ ความรุนแรงทางเพศ" ได้เล่าถึงที่มา ในฐานะที่เขาเป็นผู้อ่าน Jump คนหนึ่ง โดยตอนที่เขาอยู่ประถม-ม.ต้น เขามักจะอ่านมังงะแนววาบหวิว อย่าง To Love-Ru บ่อยครั้ง จนกระทั่ง ในช่วงที่เขาเป็นนศ.มหาวิทยาลัย เขาได้พบกับเพื่อนผู้ชายที่ไม่เคยอ่าน To Love-Ru เลย และจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทำให้เขาเข้าใจดีว่า ทำไมเพื่อนของเขา ไม่ชอบเนื้อหาที่ปรากฎในมังงะเรื่องดังล่าว ซึ่งก็มาจากฉากวาบหวิวแบบไม่ยินยอม ที่ปรากฏในเรื่องซะเยอะ และทำให้เขาได้เข้าใจว่า ไม่ควรมองเรือนร่างของหญิงสาว ในแง่ทางเพศ โดยที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกใดๆของเธอเลย

จากนั้น เขาก็เล่าต่อ เกี่ยวกับบทบัญญัติเยาวชนของกรุงโตเกียว ที่จะเป็นการจำกัดการพรรณนาในเชิงเพศกับตัวละครผู้เยาว์ แม้ว่า กฎหมายดังกล่าวจะถูกปฏิเสธไป เมื่อปี 2010 แต่เขาก็ได้ยินแต่คำคัดค้านในการเซ็นเซอร์จากผู้คนรอบข้างอยู่เยอะ เช่นกัน เขาก็อธิบายว่า คนอ่าน Jump ต่างอ้างว่าผู้คนสามารถแยกแยะออก ระหว่าง แฟนตาซี กับ ความเป็นจริง แต่พอมองย้อนกับไป เขากลับไม่สามารถแยกแยะตัวเองออกได้ ซึ่งเขาได้เล่าย้อนไป เมื่อสมัยเขาอยู่ชั้นประถม เมื่อเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังใช้ความรุนแรงทางเพศกับเด็กผู้หญิง แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะออกมาพูดตรงนี้ได้ เพราะเขาคิดว่า "เด็กผู้ชาย ก็คือ เด็กผู้ชาย" ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หัวโจกของกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มนี้ ได้ถูกขับไล่ออกจากโรงเรียน เพราะถูกจับได้ว่า แอบถ่ายรูปเด็กผู้หญิง กำลังอาบน้ำอยู่ .....พอตอนนี้ Sekiguchi ในวัยผู้ใหญ่ เชื่อว่า เนื้อหาเชิงเพศแบบไม่ยินยอมที่ปรากฏในมังงะของ Jump ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้คนที่สามารถเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง แฟนตาซี กับ ความเป็นจริง แต่มันแสดงให้เห็นถึง การขาดการศึกษาเรื่องเพศโดยทั่วไป ในสังคม

เขากล่าวอีกว่า รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นมังงะ Jump ทุกวันนี้ เอาแต่ขายเรือนร่างหญิงสาว ซึ่งมังงะเหล่านี้อาจไม่ถูกวิจารณ์ เพราะยังมีมังงะอีกหลายเรื่อง ที่เด็กผู้หญิงกระทำความรุนแรงทางเพศด้วยกันเอง เขาจึงต้องการเรียกร้องให้ บก. Jump ตระหนักถึง การกระทำทางเพศที่กระทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย ถือเป็นความรุนแรงทางเพศ ที่ทำร้ายผู้คนมานักต่อนัก ถึงกระนั้น เขายังอ้างว่า เขาเองก็ไม่อยากเห็นมังงะถูกเขียนในลักษณะของหนังสือวิชาการ เช่นกัน โดยแย้งว่า มังงะ Jump ทุกวันนี้ มีเงื่อนไขที่จะทำให้ผู้อ่านรับรู้เรือนร่างหญิงสาว ในเชิงอิโรติค และยังเป็นการบีบแนวคิดที่ว่า ชายหนุ่มทั้งหลายคือ หมาป่า ที่กำลังโหยหาร่างกายส่วนที่เซ็กซี่ที่สุดของหญิงสาว อีกทั้ง เขายังโต้อีกว่า มีตัวละครหญิงหลายต่อหลายคน ที่ปรากฏตัวอย่างเซ็กซี่ในมังงะ ต่างมีอายุน้อยกว่า เด็กม.ปลาย ซะอีก ซึ่งก็แน่นอนล่ะ ว่า ตัวละครหญิงเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้เยาว์ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ควรถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ภายหลัง The Real Live ได้รายงานว่า จากแคมเปญที่ Sekiguki ได้ตั้งขึ้น ก็มีทั้งคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย โดยฝั่งที่เห็นด้วย มองว่า Jump ควรเป็นมังงะสำหรับเด็กๆ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย มองว่า การพรรณนาถึงความรุนแรงทางเพศนั้น ยังไม่สามารถรับรองได้แน่ชัด และ หากจะให้มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาความรุนแรงทางเพศ ก็ควรที่จะแจ้งเตือนถึงการนำเสนอเนื้อหาที่เกิดความรุนแรงประเภทอื่นๆ ในมังงะด้วยเช่นกัน อีกทั้ง หากจะให้ใส่คำเตือนลงไปด้วย ก็จะเป็นการขัดจังหวะอารมณ์ในการติดตามมังงะ เรื่องนั้นๆ เช่นกัน


แหล่งข่าว : The Real Live , Livedoor News , Anime News Network


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 17-23 ส.ค. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Uchuu Kyoudai / Space Brothers สองสิงห์อวกาศ #38 (109,625 เล่ม)

02. Kinou Nani Tabeta ? เมื่อวาน เจ๊ทานอะไร? #17 (98,936 เล่ม)

03. Kanojo, Okarishimasu สะดุดรัก ยัยแฟนเช่า #16 (79,019 เล่ม)

04. Akatsuki no Yona กู้บัลลงก์มังกรแดง #33 (78,573 เล่ม )

05. Days #39 (60,981 เล่ม)

06. Bakemonogatari ปกรณัมของเหล่าภูต #10 (56,189 เล่ม)

07. Blue Lock ขังดวลแข้ง #10 (52,868 เล่ม)

08. Gekkan Shoujo Nozaki-kun นักเขียนหน้าตายนายโนซากิคุง #12 (51,608 เล่ม)

09. Kyokou Suiri #13 (46,566 เล่ม)

10. Yofukashi no Uta #4 (40,661 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon

 

 


 
free hit counter javascript