บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 13-19 กรกฎาคม 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ......ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่แม้ว่า ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ภายในบ้านเรา จะเป็นศูนย์มานานกว่า 50 วัน (ยกเว้น State Quarantine) แต่จากความประมาทเลินเล่อของผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองเรา ที่ดันมาการ์ดตกเสียเอง ประกอบกับการประสานงานกันไม่ดี ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการปล่อยให้ชาวต่างชาติมาเดินเที่ยวเล่น ไม่ยอมกักตัว ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อ แถมยังปล่อยให้ไปหาสถานที่พักเองโดยพลการ ก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงในการระบาดระลอกสองในบ้านเรา เพิ่มมากขึ้น จนสร้างความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟให้แก่ปชช.ทั้งประเทศ โดยไม่จำกัดก๊วนการเมืองไหน......เพราะที่แล้วมา ปชช.ส่วนใหญ่ ยอมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อโรคมาตลอด พยายามตั้งการ์ดให้แน่นหนาก็แล้ว ซึ่งหากเกิดเคสเลวร้ายขึ้นมาอีก ก็เท่ากับว่า สิ่งที่พยายามทำมาทั้งหมด แทบจะสูญเปล่าไปเลย อันเนื่องมาจากความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยของพวกผู้ใหญ่ รวมถึง คนต่างชาติผู้เห็นแก่ตัวบางคน...จนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของ ปชช. นำไปสู่เกมการเมืองบนท้องถนนอีกครั้ง

จากสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ขอให้เก็บไว้เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องว่า อย่าทำพลาดอีก ควรจะกักตัวคนที่เข้าประเทศทุกคน ไม่มียกเว้น ส่วนเราๆท่านๆ ก็เช่นเคย พยายามสวมหน้ากาก ล้างมือให้สะอาด อย่างที่เคยทำมาตลอดแหละ...

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ตี้ตามเก็บเครื่องครัว...ยังดำเนินต่อไป กับ ยอดกุ๊กแดนมังกร พิชิตฉงชิ่ง 6

การ์ตูนออกใหม่ ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่กำลังผ่อนคลายลง เริ่มจาก

ยอดกุ๊กแดนมังกร ภาค พิชิตฉงชิ่ง เล่ม 6 การแข่งคู่ที่สองของงานแข่งบะหมี่ซีอาน เป็นการประกบคู่อันน่าตื่นตะลึง! เฟย พ่อครัวมังกรโผล่มาในฐานะพ่อครัวของร้าน  [ไท่จี๋กง] ปะทะกับห้าดาวพยัคฆ์เยี่ยนชิงแห่งร้าน [หย่งเล่อ] การแข่งขันครั้งนี้จะดำเนินไปในทิศทางใด!? อีกด้านหนึ่ง "เครื่องครัวในตำนาน" ก็เกิดความผิดปกติขึ้น... ความทะเยอทะยานอันน่าสะพรึงกลัวของสมาคมอาหารไท้จี๋ ที่สั่นสะท้านไปทั่วแผ่นดินต้าชิงกำลังจะกระจ่างชัด!! ชะตากรรมของพวกเหมาจะเป็นอย่างไร!?


ยุ่งนักหนาเลขาพญายม เล่ม 28 ห่างจากแผงหนังสือมานาน พอกลับมาที ราคาก็เป็นเลข 3 หลักไปแล้ว (ไม่ต้องถามหามาตรฐานการตั้งราคาแบบตีมึนของสนพ.นี้ นะ) ...ถ้าพูดถึงชิโระก็ต้องนึกถึงหมาต๊อง ถึงจะมีฉายาเสียๆ หายๆ แต่พอชิโระเปลี่ยนแปลงไปนรกก้แตกตื่นกันใหญ่ คาราชิที่เกลียดแร็คคูน เข้าไส้กลับรู้สึกถึงออร่าความสง่างามจากชิงาราคิดะยู! ผู้ช่วยอันดับหนึ่งของเปืยวโดโอดูผิวเผินเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา แต่ที่จริงนั่นเป็นแค่โฉมหน้าสมมุติในโลกหน้า...



ARMS หัตถ์เทพมืออสูร เล่ม 1
มังงะแอ็คชั่นไซไฟยุคเก่า ที่หลายคนคุ้นเคยกับวลีทำนอง "อยากได้พลังมั๊ย ถ้าอยากได้ ข้าจะให้เจ้า!!" ก็กลับมาใหม่ ในรูปแบบเอาใจนักสะสม.....เรื่องราวของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ถูกฝังคอร์ชิปที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีนาโนแมชชีน และทำให้เหล่าผู้มีพลังนี้มีร่างกายพิเศษเป็นอาวุธชีวะที่มีชีวิต พวกเขาทั้งหมดต้องร่วมมือกันต่อกรกับองค์กรชั่วร้ายที่คิดครอบครองโลก 


sanctuary สุภาพบุรุษทรชน เล่ม 1
มังงะเก่ากึ๊กในตำนานของ อ.เรียวอิจิ อิเคงามิ ถูกจัดทำใหม่ ในรูปแบบเอาใจนักสะสม เช่นกัน (ซึ่งพักนี้ สยามฯ ขยันจัดทำบ่อยมากๆ) ....เรื่องราวของ 2 เพื่อนรัก โฮโจและอาซามิ ที่หวังอยากจะปฏิรูประบบการเมืองที่เน่าเฟะของญี่ปุ่น ไปพร้อมกัน จากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง โดยคนหนึ่งมุ่งไปเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกยากูซ่า และอีกคนแสวงหาหนทางสู่จุดสูงสุดของโลกการเมือง

พบกับการผจญภัย ของ พี่หัวกะโหลกเทพทรูได้ กับ มังงะ OVERLORD เล่ม 10 และ มังงะ overlord ราชันอมตะต๊อง! เล่ม 1 ที่จะมีเนื้อหาที่ผ่อนคลาย เน้นกาว มากกว่า ภาคหลัก




การ์ตูนน่าสนใจเรื่องอื่นๆ : โศกนาฏกรรมต่างโลกเริ่มต้นจากเดธมาร์ช เล่ม 3, AMANCHU! สาวน้อย ฟ้าใส กับโลกสีครามใบใหญ่ เล่ม 11, บันทึกแวมไพร์วานิทัส เล่ม 6 ,Jojonium เล่ม 12,กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมมันต้องไม่สดใสเลยสักนิด -monologue- เล่ม 15,การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ ภาค 1 เล่ม 1, เฟต/อโพคริฟา เล่ม 7 ,Bakemonogatari - ปกรณัมของเหล่าภูต เล่ม 4,เบรคเบลด Break Blade New Edition เล่ม 7,หลักสูตรนอกตำราพี่น้องมหาเวท บทที่ 4 เล่ม 1 ,หลานจอมปราชญ์ เล่ม 10

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 



Haikyuu!! คู่ตบฟ้าประทาน อำลาสนามวอลเลย์บอล อย่างเป็นทางการ

เรียกว่า เป็นช่วงเวลาของการถ่ายเลือดใหม่ของนิตยสาร Shonen Jump อย่างแท้จริง จากการที่มีซีรี่ย์เรื่องดังๆประจำเล่ม ทยอยจบไปอย่างไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่ Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร , Yuragi-sou no Yuuna-san ยูรากิโซ ที่นี่ผีน่ารักนะ แล้วก็ The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ จนกระทั่งมาถึงมังงะเรื่องล่าสุดของ Shonen Jump ที่ได้มีการยืนยันว่าจบลงอย่างแน่นอน ซึ่งก็ทำเอาบรรดาแฟนๆ (โดยเฉพาะ แฟนเกิร์ลทั้งหลาย) ถึงกับร่ำไห้ไปตามๆกัน นั่นก็คือ Haikyuu!! คู่ตบฟ้าประทาน นั่นเอง

โดย Shonen Jump ฉบับที่ 32/2020 (วางขาย 13 ก.ค. 2020) รวมถึง twitter หลักของ Haikyuu!! ได้ยืนยันว่า มังงะวอลเลย์บอลเรื่องดังของ อ.Haruichi Furudate เรื่องนี้ กำลังจะอวสานลง ใน Shonen Jump ฉบับที่ 33-34/2020 ที่จะวางขายในวันที่ 20 ก.ค. 2020 หลังจาก Hinata - Kageyama คู่หู คู่ตบ คู่กัด เพื่อนรัก คู่นี้ ได้ต่อสู้บนคอร์ทวอลเลย์ในหน้ากระดาษ Jump มายาวนานถึง 8 ปีครึ่งด้วยกัน โดยฉบับรวมเล่มที่ 45 ของมังงะเรื่องนี้ จะเป็นมังงะเล่มสุดท้ายของเรื่องนี้ อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ยังมีการแจ้งว่า HAIKYU‼ TO THE TOP อนิเมซีซั่น 4 ของเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศช่วงครึ่งหลัง ในเดือน ต.ค. 2020 , ละครเวที ชุดใหม่ของเรื่องนี้ ชุด Hyper Projection Engeki Haikyu!! Gomisuteba no Kessen มีกำหนดจะเปิดการแสดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือ ปลายปี 2020 อีกทั้ง Haikyuu!! กำลังจะมีมังงะตอนพิเศษ ฉลองจบซีรี่ย์ (เช่นเดียวกับ Kimetsu no Yaiba , Yuragi-sou และ Neverland ที่จบลงไปก่อนหน้านี้ ) ลงในนิตยสาร Jump Giga ฉบับฤดูร้อน ที่จะวางขายในวันที่ 27 ก.ค. 2020

Haikyuu!! ตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ในฐานะซีรี่ย์เรื่องยาว ตั้งแต่ ก.พ. 2012 เป็นต้นมา (ก่อนหน้านี้ เคยเขียนเป็นมังงะสั้น 2 ตอน ใน นิตยสาร Jump NEXT กับ Shonen Jump เมื่อปี 2011) เป็นเรื่องราวของ Shouyou Hinata หนุ่มร่างเล็กผู้มีแพชชั่นในกีฬาวอลเลย์บอล โดยได้แรงบันดาลใจจาก "Little Giant" ผู้เล่นตัวเล็กในตำนาน นำพาให้เขาส่งทีมไปแข่งวอลเลย์ในระดับ ม.ต้น แต่ก็พ่ายให้กับทีมรร. ของ Tobio Kageyama มือเซ็ตเจ้าของสมญานาม "ราชาคอร์ท" อย่างยับเยิน หลังจากแมตช์ดังกล่าว ทำเอา Hinata รู้สึกเจ็บใจ และหมายมั่นปั้นมือว่า จะล้างแค้นเอาชนะ Kageyama ให้ได้..... แต่ทว่า ทั้ง Hinata กับ Kageyama ดันกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน ในโรงเรียน ม.ปลาย Karasuno ซึ่งทั้งคู่ก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และต้องพา Karasuno ให้เกรียงไกร ในศึกวอลเลย์บอล ระดับม.ปลาย ให้จงได้

ปัจจุบัน ฉบับรวมเล่มของมังงะเรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์ทั้งหมด 38 ล้านเล่ม และเคยคว้ารางวัลมังงะยอดเยี่ยม ประเภทวัยรุ่นชายของ Shogakukan Manga Awards ครั้งที่ 61 เมื่อปี 2015 ต่อมา เรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 4 ซีซั่น และ หนังอนิเมฉบับตัดต่อ อีก 4 ชุด ด้วยกัน

แหล่งข่าว : Comic Natalie , MAL


Haruma Miura นักแสดงนำจากหนังคนแสดง Kimi ni Todoke , Attack on Titan เสียชีวิต

ข่าวใหญ่ที่สร้างความช็อค-โศกเศร้า ของวงการบันเทิงญี่ปุ่น เมื่อสื่อญี่ปุ่นหลายแห่ง ได้รายงานว่า Haruma Miura นักแสดงหนุ่มคนดัง วัย 30 ปี จากหนังคนแสดงจากมังงะ-อนิเม จำนวนหนึ่ง ทั้ง Kimi ni Todoke ฝากใจไปถึงเธอ, Attack on Titan ผ่าพิภพไททัน ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ก.ค. 2020 หลังจากพบร่างของเขากำลังแขวนคออยู่ในห้องพักของเขา ก่อนจะเสียชีวิตลงที่ โรงพยาบาลเขตมินาโตะ ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ระบุว่า Miura ไม่ได้ออกไปทำงานตอนเช้า ของวันที่ 18 ม.ค. 2020 ตามตารางเวลางานที่กำหนดไว้ ทำเอา ผจก.ส่วนตัวของเขา รู้สึกถึงความผิดปกติ ต้องรุดเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักของเขา แล้วก็ได้พบร่างหมดสติของเขาที่กำลังแขวนคออยู่ ซึ่ง จนท.ตำรวจ ได้สันนิษฐานว่า เป็นการฆ่าตัวตาย และขณะนี้ อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

Miura เกิดที่เมือง ทสึจิอุระ จ.อิบารากิ เมื่อปี 1990 และเข้าสู่วงการมายาอย่างรวดเร็ว เมื่ออายุได้เพียง 4 ปี กับบทบาทการแสดงละครเรื่อง Agri ของช่อง NHK หลังจากเข้ารับการฝึกฝนทักษะการแสดงจากสตูดิโอ Tsukuba Actor เขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงภายใต้เอเจนซี่ Amuse และเส้นทางการแสดงของเขาก็ฉายแววรุ่ง จากการที่เขาคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ของ Japan Academy Prize ปี 2008 จากหนังเรื่อง Koizora ต่อด้วย รางวัลนักแสดงดาวรุ่งแห่งปี ของ Elan d'or Awards ปี 2009, และ รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ Sponichi Grand Prix New Talent Award ของ Mainichi Film Awards ครั้งที่ 63 เมื่อปี 2009

Miura เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนๆ อย่างกว้างขวางขึ้น จากบทบาทการแสดงนำในหนังคนแสดงดัดแปลงจากมังงะอนิเม จำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย Kimi ni Todoke ในบทบาทของ Shota Kazehaya , Attack on Titan ในบทบาทของ Eren Jaeger , Gintama 2 ในบทบาทของ Kamotarou Itou รวมถึง การรับบทนำ จากละครซีรี่ย์ Bloody Monday รหัสมรณะ ในบทของ Fujimaru Takagi เป็นต้น อีกทั้ง เขายังเป็นผู้พากย์เสียง Yama Daiba ในหนังอนิเม CG ของ Captain Harlock: Space Pirate เมื่อปี 2013 อีกด้วย ส่วนบทบาทการแสดงอื่นๆของเขา ก็มี The Confidence Man JP ทั้ง 2 ภาค ในบท Jesse ซึ่งหนัง The Confidence Man JP: Princess หนังภาค 2 ของเรื่องนี้ กำลังจะเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น 23 ก.ค. 2020

โดย Miura เพิ่งถ่ายทำหนัง Brave Gunjou Senki เสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตัวหนังจะฉายในปี 2021 รวมไปถึง หนัง Gift of Fire ที่กำลังอยู่ในขั้นตอน post-production ซึ่งยังไม่มีกำหนดเวลาฉายใดๆ

แหล่งข่าว : NHK , Mainichi , Crunchyroll



สถานการณ์ไม่วางใจ.....Comiket 99 ประกาศยกเลิก , เตรียมจัดงาน Comiket ช่วง Golden Week 2021 แทน

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ดูจะไม่อุ่นใจในทุกแห่งหน แถมยังสุ่มเสี่ยงต่อการระบาดระลอก 2 เช่นกัน...และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทางผู้จัดงาน Comic Market / Comiket งานจัดแสดงโดจินชิงานใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ประกาศยกเลิกการจัด Comiket 99 ซึ่งเป็นงาน Comiket ภาคฤดูหนาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการยืนยันมาจากเว็บไซต์หลักของงานดังกล่าว

ทางผู้จัด ได้อธิบายบนเว็บไซต์หลักของงานดังกล่าวว่า พวกเขามีแผนจะจัดงานภาคฤดูหนาวนี้ ก่อนที่ Tokyo Big Sight สถานที่ที่ใช้จัดงานดังกล่าว จะออกมากำหนดแนวทางการจัดงานอีเว้นต์ต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ซึ่งมีตั้งแต่ การรักษาระยะห่างกัน และ การจำกัดจำนวนผู้คนในการเข้าสถานที่ เป็นต้น ซึ่งทางผู้จัดเล็งเห็นว่า เป็นเรื่องยากที่จะจัดงานดังกล่าวภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ ประกอบกับ สถานที่บางส่วนของ Tokyo Big Sight ได้ถูกปรับปรุงเพื่อรองรับกับการจัดมหกรรมโอลิมปิกโตเกียว เช่นเดียวกับ หอประชุม Makuhari Messe สถานที่จัดงานอีเว้นต์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในแถบโตเกียว ที่ตั้งอยู่ ณ จ.จิบะ นั้น ก็ดันคิวไม่ว่าง สำหรับ Comiket ในเดือน ธ.ค. อีก และจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวงข้างต้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะยกเลิกการงานดังกล่าว

ซึ่งก็คาดว่า งาน Comiket ในช่วงฤดูหนาว 2020 จะปรับเปลี่ยนไปเป็น 'Air Comiket' หรือ Comiket ในรูปแบบออนไลน์ แทน เช่นเดียวกับงานในช่วง Golden Week 2020 ที่ผ่านมา (ปลายเม.ย. - ต้น พ.ค. 2020) แต่ถึงกระนั้น ทางผู้จัด ยังมีแผนที่จะจัดงาน Comiket ในสถานที่จริงอีกครั้ง ในช่วง Golden Week 2021 (ปลายเม.ย. - ต้น พ.ค. 2021) แทน ส่วนรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม จะมีการแจ้งให้ทราบในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2020

สุดท้ายนี้ ผู้จัดงาน Comiket ยังได้ออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาลญี่ปุ่น ออกมาสนับสนุนงานอีเว้นต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตัวงาน ,สถานที่ และกลุ่มผู้จัดงาน ในช่วงเวลานี้ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการยกเลิกค่าธรรมเนียม , การเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมสถานที่ แล้วก็ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ อีเว้นต์ต่างๆ อย่างเช่น Comiket จะยังคงอยู่ต่อไป หากการระบาดครั้งใหญ่ได้สิ้นสุดลง

 

แหล่งข่าว : Comiket 's twitter , Crunchyroll


คอนเสิร์ต Animelo Summer Live เตรียมจัดตามปกติ ในเดือน ส.ค. 2021

เว็บไซต์หลักของ Animelo Summer Live 2020 -Colors- งานคอนเสิร์ตแสดงเพลงอนิเม Animelo Summer Live ประจำปี 2020 ได้แจ้งว่า งานคอนเสิร์ตดังกล่าว จะมีกำหนดจัดขึ้น ณ Saitama Super Arena ในช่วงวันที่ 27-29 ส.ค. 2021 หลังจากถูกเลื่อนการจัดงานออกไป จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ซึ่งเดิมที มีกำหนดจัดในช่วงวันที่ 28-30 ส.ค. 2020

ทางเว็บไซต์ดังกล่าว ยังระบุอีกว่า สำหรับใครที่ซื้อตั๋วคอนเสิร์ตงานในครั้งนี้ไปแล้ว สามารถนำมาใช้ในงานคอนเสิร์ตปีหน้า ปี 2021 ได้ รวมถึง ยังเปิดให้แฟนๆบางส่วนได้ขอเงินคืน เช่นกัน

Animelo Summer Live จัดเป็นงานคอนเสิร์ตเพลงอนิเมที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยงานในครั้งนี้ (ก่อนที่จะถูกเลื่อนออกไป) จะมีศิลปินร่วมงานมากถึง 147 คน อาทิ Eir Aoi, Sukima Switch, angela, GRANRODEO, Hiroko Moriguchi เป็นต้น และ มีเพลงที่จะแสดงในงาน มากถึง 60 เพลง ทว่า จากแนวทาง หลีกเลี่ยง "3C" (ประกอบด้วย : closed spaces - พื้นที่ปิด, crowded places - สถานที่ชุมนุมผู้คน, close-contact settings - การสัมผัสอย่างใกล้ชิด ) ที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานในการป้องกันการระบาดของ COVID-19 จึงเป็นการยากที่จะจัดงานที่รองรับผู้ชมกว่า 80,000 คน ให้อยู่ภายใต้แนวทางดังกล่าว

 

แหล่งข่าว :  Mantan Web , Anime News Network



งานคอนเสิร์ต , ไลฟ์อีเว้นต์ ในญี่ปุ่น รายได้ลดลงกว่า 70% ในปี 2020

จากสองข่าวข้างต้น อันเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างไม่หยุดหย่อน ซะจนส่งผลกระทบอย่างหนักในทุกด้าน และแน่นอนว่า ก็ทำให้พวกกิจกรรมอีเว้นต์ต่างๆ ย่อมลดน้อยลง และ ผู้จัดก็สูญเสียรายได้ไปไม่น้อย เช่นกัน

Pia Sōken ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดออกมา โดยคาดการณ์ว่า งานคอนเสิร์ต งานไลฟ์อีเว้นต์ต่างๆ จะสูญเสียรายได้ มากถึง 70% ในปี 2020 และจะมีมูลค่าทั้งสิ้นราว 183.6 พันล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปี 2019 ซึ่งทำรายได้ไปทั้งสิ้น 625.9 พันล้านเยน โดยมูลเหตุนั้น มาจากการที่งานไลฟ์อีเว้นต์ต่างๆของญี่ปุ่น ได้มีการเลื่อนจัด หรือ ยกเลิก อันเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. 2020 เป็นต้นมา แม้ว่า ขณะนี้ ทางรัฐบาลญี่ปุ่น จะไฟเขียวให้มีการจัดงานอีเว้นต์ตามปกติ แต่ต้องมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมด้วย ซึ่งก็คาดว่า งานอีเว้นต์ที่จะจัดในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2020 จะทำรายได้ไม่สูงพอ จนยากที่จะฟื้นฟูตลาดดังกล่าวได้

รายได้จากงานไลฟ์อีเว้นต์ จำนวน 625.9 พันล้านเยน ของปี 2019 นั้น เป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น 7.4% จากปี 2018 และเป็นจำนวนรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น 3 ปีติดต่อกัน แถมยังเป็นปีแรก ที่สามารถทำรายได้แตะถึง 600 พันล้านเยนด้วย โดยรายได้ดังกล่าว 2 ใน 3 มาจาก งานไลฟ์อีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ที่ทำรายได้ทั้งสิ้น 423.7 พันล้านเยน ขณะที่ ละครเวที ทำรายได้ราว 205.8 พันล้านเยน โดย อีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ปี 2019 ทำรายได้มากขึ้น 9.3% จากปี 2018 ส่วน อีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับละครเวที ปี 2019 ทำรายได้มากขึ้น 3.6% จากปี 2018 เช่นกัน

แหล่งข่าว : Pia Sōken , Animation Business Journal , Anime News Network


ละครเวที My Hero Academia เลื่อนการไลฟ์สตรีมโชว์.....หลังพบสต๊าฟติดเชื้อ COVID-19

คำกล่าวที่ว่า "การ์ดอย่าตก" ก็เข้ากับสถานการณ์ช่วงนี้ ที่ใครหลายคนกำลังต่อสู้กับโรคระบาดที่ตอนนี้ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งหากประมาทเมื่อไหร่ ไม่เพียงจะส่งผลเสียต่อตัวเองแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบต่อส่วนรวมในหลายๆด้านด้วย เช่นกัน (แน่นอนว่า คนที่ย้ำเตือนค้ำนี้บ่อยๆ ก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย อย่าเผลอไปประมาทเลินเล่อซะเองล่ะ!!)

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของ My Hero Academia The 'Ultra' Stage Honmono no Hero: PLUS ULTRA ver. ละครเวทีชุดล่าสุดของการ์ตูน My Hero Academia ได้ประกาศเลื่อนการสตรีมมิ่งโชว์การแสดงสดของพวกเขา แบบไม่มีผู้เข้าชม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดสตรีมมิ่งออนไลน์ ในวันที่ 17 ก.ค. 2020 หลังจากที่มีทีมงานของละครเวทีชุดนี้ ถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ราย

ละครเวทีดังกล่าว เดิมที มีกำหนดเปิดการแสดงจริง ณ โตเกียว กับ โอซาก้า ช่วงวันที่ 6 มี.ค. - 5 เม.ย. 2020 แต่ก็ถูกเลื่อนออกไปจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในญี่ปุ่น ก่อนที่จะมีกำหนดจะกลับมาแสดงตามปกติ ณ Tokyo Dome City Hall วันที่ 17-26 ก.ค. 2020 แต่ทว่า จากการที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในหมู่ทีมงานละครเวที จำนวน 1 ราย เมื่อ 1 ก.ค. 2020 ที่ผ่านมา ก็เลยทำให้ทางผู้จัด ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปเป็น การแสดงละครเวทีแบบไม่มีผู้ชมในโรงละคร ซึ่งจะมีการสตรีมมิ่งสดทางออนไลน์บนเว็บไซต์หลักแทน


แหล่งข่าวและรูปภาพ : My Hero Academia Stage Play 's twitter , Crunchyroll


 

มังงะแนวชีวิตภายใต้ COVID-19 ของผู้แต่ง "โจ สิงห์สังเวียน" ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Morning

อ.Tetsuya Chiba นักเขียนมังงะ ผู้มีชื่อเสียงจากการแต่งเรื่อง Ashita no Joe หรือ โจ สิงห์สังเวียน ได้เขียนผลงานมังงะเรื่องล่าสุด ซึ่งเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคระบาด กับเรื่อง Akudama ที่ลงเผยแพร่เป็นประจำบน twitter บัญชี MANGA Day to Dayของเขา โดยนำเสนอเนื้อหาชีวิตประจำวันที่อยู่ท่ามกลางไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วทุกมุมโลก

และจากมังงะที่เข้ายุคเข้าสถานการณ์ของเขา ก็เลยทำให้ มังงะ Akudama จะได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Morning ของสนพ. Kodansha ที่มีกำหนดเริ่มตีพิมพ์ตอนแรกในฉบับที่ 34 ของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายวันที่ 22 ก.ค. 2020 โดยมังงะดังกล่าว จัดเป็นผลงานเรื่องแรกในรอบ 37 ปี ของ อ.Chiba ที่ตีพิมพ์ใน Morning หลังจากเรื่อง Otoko-tachi ที่เคยตีพิมพ์ช่วงปี 1982 - 1983

แหล่งข่าวและทวีต : Mantan Web , MANGA Day to Day , Anime News Network



เซ่นพิษสง COVID-19 .... ทำเอาร้านเมดคาเฟ่ Akiba Zettai ปิดให้บริการอย่างไร้กำหนด

ไวรัส COVID-19 ยังเดินหน้าสร้างความปั่นป่วนให้ญี่ปุ่นชน อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกรุงโตเกียว ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ หรือ กิจการบางแห่ง ที่มีความเสี่ยงสูง จำต้องหยุดให้บริการชั่วคราว รวมไปถึง ร้านเมดคาเฟ่ จำนวนหนึ่งในโตเกียว ที่ต่างเจอผลกระทบจากไวรัสวายร้ายชนิดนี้

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของร้านเมดคาเฟ่ Akiba Zettai ได้แจ้งเอาไว้ เมื่อ 12 ก.ค. 2020 ที่ผ่านมาว่า ทางร้านจะปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้พนักงานของร้านได้ไปตรวจหาเชื้อ COVID-19 รวมถึง จะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของร้านเป็นการซ้ำสอง ส่วนจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้ตอนไหนนั้น ทางร้านจะแจ้งให้ทราบต่อไป

โดยผลการตรวจเชื้อ COVID-19 ในหมู่พนักงานร้านดังกล่าว ปรากฏว่า มีพนักงานของร้านเพียงหนึ่งรายเท่านั้น ที่ติดเชื้อดังกล่าว จากการที่มีผลตรวจออกมาเป็นบวก โดยพนักงานรายนี้ ทำงานที่ร้านครั้งล่าสุด เมื่อ 8 ก.ค. 2020 ก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วยในวันรุ่งขึ้น และไม่ได้ทำงานที่ร้านอีกเลย นับตั้งแต่วันนั้น ซึ่งทางศูนย์สุขภาพได้ยืนยันว่า พนักงานรายนี้ไม่ได้มีการสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้าที่เข้าร้านแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ @home cafe เป็นร้านเมดคาเฟ่อีกร้านหนึ่ง ที่มีการรายงานว่า พบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 มากถึง 6 คน และทางร้านได้สั่งให้พนักงานผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน ตั้งแต่ 26 มิ.ย. 2020 อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์สุขภาพ ได้ยืนยันว่า ทางร้านยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ

แหล่งข่าว : Otakomu , Anime News Network



Tsuburaya ชนะคดีพิพาทเหนือ หนัง Ultraman จีนแดง

เป็นคดีความที่ฮือฮาในหมู่คอฮีโร่แปลงร่าง เมื่อช่วง ต.ค. 2017 จากการที่ สตูดิโอหนัง BlueArc จากกว่างโจว ประเทศจีน ได้ทำหนัง Dragon Force: So Long, Ultraman ขึ้น ซึ่งได้หยิบเอาคาแร็คเตอร์ Ultraman ไปใช้ในหนังโดยไม่ได้ขออนุญาตจาก Tsuburaya Productions บริษัทญี่ปุ่น ผู้เป็นเจ้าของ Ultraman ตัวจริง ซึ่งทำเอา Tsuburaya โกรธจัดควันออกหู นำไปสู่การต่อสู้คดีบนชั้นศาล ในเวลาต่อมา

ล่าสุด คดีดังกล่าว ได้มีการพิพากษาตัดสินแล้ว โดยศาลเซี่ยงไฮ้ ได้ตัดสินให้ Tsuburaya เป็นฝ่ายชนะคดี พร้อมสั่งให้ BluArc ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ Tsuburaya เป็นจำนวน 38 ล้านเยน โทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์คาแร็คเตอร์ Ultraman ของพวกเขา

Dragon Force: So Long, Ultraman เป็นหนังที่ BluArc สร้างขึ้น โดยให้ Ultraman เป็นตัวร้าย คอยต่อกรกับ หุ่นยนต์จีน ซึ่งเป็นตัวเอกประจำเรื่อง โดยทาง Tsuburaya อ้างว่า ตัวหนังถูกสร้างขึ้น และ มีการโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเขา พร้อมกับเรียกร้อง - ดำเนินคดีทางกฎหมาย ให้สตูดิโอจากจีน หยุดการกระทำดังกล่าว เมื่อ ก.ย. 2017 แต่ทาง BlueArc ยืนยันที่จะฉายหนังเรื่องนี้ต่อไป เลยทำให้ Tsuburaya ดำเนินการฟ้องร้องสตูดิโอจีนเพิ่มเติม ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์คาแร็คเตอร์ Ultraman ด้วยการ ผลิต , โฆษณา , ออกฉาย โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อ ก.พ. 2018

ขณะเดียวกัน ในปี 2017 Tsuburaya สามารถชนะคดีลิขสิทธิ์ Ultraman ทั่วโลก เหนือ UM Corporation (UMC) โดยอ้างว่า สัญญายินยอมมอบสิทธิ์ ฉบับปี 1976 ที่ UMC ได้มานั้น เป็นเอกสารไม่ถูกต้อง ซึ่งเอกสารฉบับข้างต้นนั้น ทางฝั่ง BluArc ของจีน ก็ได้นำมาใช้อ้างสิทธิ์ ในการนำเอาตัวละตร Ultraman ไปใช้ในหนังดังกล่าวด้วย เช่นกัน (โดยสัญญาฉบับดังกล่าว เป็นสัญญาที่ทำร่วมกันระหว่าง คุณสมโภชน์ แสงเดือนฉาย นักธุรกิจชาวไทย (และ บ.ไชโย) กับ Noboru Tsuburaya ประธานของ Tsuburaya ในขณะนั้น )

ultraman

แหล่งข่าว : NHK , Hachima Kikō , Anime News Network



ยืนยัน อนิเมใหม่ของ Love Live! จะใช้ชื่อว่า Love Live! Superstar!!

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ที่ได้รายงานไปว่า สตูดิโออนิเม Sunrise ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ 'Love Live! Superstar!!' ณ สำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น เมื่อ 16 มิ.ย. 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า Love Live! Superstar!! จะเป็นชื่อทางการของอนิเมซีรี่ย์ใหม่ล่าสุดของแฟรนไชส์สาวน้อยไอด้อล Love Live! ที่ได้มีการประกาศจัดทำมาแล้ว ซักพักใหญ่ๆ

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของ Love Live! ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า อนิเมทีวีชุดใหม่ของพวกเขา จะใช้ชื่อว่า Love Live! Superstar!! พร้อมกันนี้ นิตยสาร Love Live! Days Love Live! Sōgō Magazine เล่ม 8 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อ 15 ก.ค. 2020 ได้มีการเปิดเผยชื่อทางการของยูนิตไอด้อล ในอนิเมดังกล่าว ซึ่งก็คือ โดยมาจากการโหวตของแฟนๆ รวมถึง โลโก้โรงเรียนม.ปลายหญิง Yuigaoka ในอนิเมอีกด้วย

Love Live! Superstar!! เป็นอนิเมที่มาภายใต้คอนเซ็ปต์คำโปรย "Watashi o Kanaeru Monogatari — Hello!!! Love Live!" (เรื่องราวความฝันของชั้น กำลังจะเป็นความจริง Hello!!! Love Live!") โดยอิงมาจากคำโปรยจากอนิเมชุดก่อนหน้านี้ "Minna de Kanaeru Monogatari" ที่สื่อถึง องค์ประกอบต่างๆของ Love live! อันประกอบไปด้วย ชื่อโรงเรียน , ตัวละคร , เพลง และอื่นๆ มาจากการโหวตโดยแฟนๆ ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของแฟรนไชส์นี้ โดยอนิเมภาคใหม่นี้ จะเป็นเรื่องราวของ นักเรียนสาว ทั้ง 5 จากโรงเรียน Yuigaoka โรงเรียน ม.ปลายหญิง ที่เพิ่งตั้งใหม่ นำทีมโดย Kanon Shibuya เด็กสาวผู้รักในการร้องเพลง และได้พบปะกับเหล่า School Idols จนนำไปสู่ความพยายามในการจัดตั้งชมรมไอด้อลในโรงเรียนแห่งนี้

Love Live! Superstar!! เดิมที มีกำหนดเปิดออดิชั่นค้นหานักาพกย์ตัวละครหลักของอนิเมชุดนี้ เมื่อ 12 มี.ค. 2020 แต่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 โดยเกณฑ์ของผู้เข้าร่วมออดิชั่น จะต้องเป็นผู้หญิงอายุ 15-22 ปี (ก่อน 1 เม.ย. 2020) จะไม่รับพิจารณา คนที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมต้น หรือ ต่ำกว่านั้น รวมถึง คนที่มีสัญญากับต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็น บริษัทพากย์เสียง หรือ บริษัทเอเจนซี่ ใดๆ

.....อย่างไรก็ตาม นอกจาก อนิเมชุดใหม่ล่าสุดของ Love Live! แล้ว ทาง Sunrise ก็กำลังผลิตอนิเมของ Love Live อีกชุดหนึ่ง อย่าง Love Live! Nijigasaki High School Idol Club ที่ดัดแปลงมาจากเกมบนมือถือสมาร์ทโฟน Love Live! School Idol Festival ALL STARS อีกด้วย


แหล่งข่าว :  Oricon , Anime News Network


"การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ" เดินหน้าอ่านหนังสือต่างโลกต่อ กับอนิเมซีซั่น 3

รายการไลฟ์พิเศษของไลท์โนเวล-อนิเม Honzuki no Gekokujou: Shisho ni Naru Tame ni wa Shudan wo Erandeiraremasen หรือ การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ ที่ได้มีการสตรีมผ่าน Niconico เมื่อ 12 ก.ค. 2020 ได้แจ้งว่า ผลงานไลท์โนเวล สาวหนอนหนังสือต่างโลก ของ Miya Kazuki ได้รับไฟเขียวให้จัดทำอนิเมทีวีซีรี่ย์ต่อ ซีซั่นที่ 3 แล้ว

การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ เป็นเรื่องราวของ Urano Motosu นักศึกษาสาวผู้หลงไหลในการอ่านหนังสือ ได้ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต แต่ก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ เธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าอยากอ่านจะหนังสือเพิ่มเติมให้มากกว่านี้ในชาติหน้า จนกระทั่ง เธอได้เกิดใหม่เป็น Myne สาวน้อย วัย 5 ขวบ ณ ดินแดนแห่งหนึ่งในยุคกลาง ซึ่งเป็นดินแดนที่หนังสือกลายเป็นของหายาก ราคาแพง และยังต้องใช้การเขียน-คัดลอกด้วยมือเท่านั้น ดังนั้น จึงทำให้ Myne ตัดสินที่จะสร้างหนังสืออ่านด้วยตัวของเธอเอง

Miya Kazuki ได้เขียนไลท์โนเวลชุดนี้ บนเว็บไซต์ Shousetsuka ni Narou ช่วง ก.ย. 2013 - มี.ค. 2017 ก่อนจะได้รับการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม โดยได้ You Shiina (Sakurada Reset) เป็นผู้วาดภาพประกอบ เมื่อ ม.ค. 2015 เป็นต้นมา ปัจจุบัน ไลท์โนเวลชุดนี้ จำหน่ายได้มากถึง 3.5 ล้านเล่ม ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นมังงะ จำนวน 3 พาร์ท โดย Suzuka ใน 2 พาร์ทแรก กับ Ryou Namino ในพาร์ทที่ 3 แล้วก็ อนิเมทีวี โดย สตูดิโอ Ajia-Do ออกอากาศช่วง ฤดูใบไม้ร่วง 2019 กับ ฤดูใบไม้ผลิ 2020 ตามลำดับ


แหล่งข่าว :  animate Times , MAL


อนิเมชุดใหม่ของ Wataru ได้รับการจัดทำในรูปแบบมังงะ

Mashin Eiyūden Wataru การ์ตูน-อนิเมหุ่นยนต์เก่าแก่ ที่บรรดาเด็กหนวดผู้โตมาในยุค 90 ต่างจดจำกันได้ดี ได้ถูกปลุกชีพอีกครั้ง ในรูปแบบอนิเมซีรี่ย์บนเว็บชุด Mashin Eiyūden Wataru Shichi Tamashii no Ryūjinmaru ที่มีการเผยแพร่บนแชนแนล Youtube ของ Bandai Spirits มาตั้งแต่ เม.ย. 2020 ที่ผ่านมา ล่าสุด อนิเมชุดดังกล่าว ได้รับการจัดพิมพ์ในรูปแบบมังงะ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Corocoro Aniki ฉบับฤดูร้อน 2020 นี้ โดยจะได้ อ.Hideaki Fujii (Battle Spirits: Shōnen Toppa Bashin, Shin Megamitensei DEVIL CHILDREN) เป็นผู้วาดเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ตอนแรกของอนิเมชุดดังกล่าว ได้รับการเขียนเป็นมังงะเนื้อหาบทนำ ลงใน Corocoro Aniki ฉบับฤดูใบไม้ผลิ 2020

Mashin Eiyūden Wataru Shichi Tamashii no Ryūjinmaru เป็นเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของ Wataru , Shibaraku, Toraō และ Himiko ที่พยายามจะปลุกชีพหุ่น Ryūjinmaru อีกครั้ง เพื่อปราบปรามเหล่าปีศาจร้ายที่ออกอาละวาดอีกครั้ง....อนิเมชุดนี้ ได้เผยแพร่ตอนแรก บนแชนแนล Youtube ของ Bandai Spirits เมื่อ 10 เม.ย. 2020 โดยตอนใหม่ของเรื่องนี้ ในอีก 4 ตอนนั้น จะลงเผยแพร่บนแชนแนลดังกล่าว ทุกวันศุกร์เว้นศุกร์ อย่างไรก็ตาม ตอนที่ 3 และ 4 ของเรื่องนี้ ได้เลื่อนฉายไปซักพัก จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ก่อนจะกลับมาฉายตามปกติ เมื่อ 19 มิ.ย. 2020 ส่วนอนิเมช่วงครึ่งหลัง 5 ตอนที่เหลือ มีกำหนดจะเผยแพร่ในเดือน ก.ย. 2020

อนิเมทีวีต้นฉบับของ Wataru ออกอากาศครั้งแรก เมื่อปี 1988 ก่อนจะมีการสร้างอนิเมทีวีต่อ กับ Mashin Eiyūden Wataru 2 เมื่อปี 1990, Chō Mashin Eiyūden Wataru เมื่อปี 1997 รวมถึง OVA 3 ชุด ช่วงปี 1989 - 1993


แหล่งข่าว : Oricon , Corocoro Comics' website , Anime News Network

 


พิพิธภัณฑ์จำลอง Tokiwaso หอพักของ Osamu Tezuka กับ นักเขียนมังงะตำนานของญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมแล้ว

Tokiwaso หอพักตำนาน อันเป็นจุดกำเนิดในการสร้างชื่อเสียงของนักเขียนมังงะญี่ปุ่น ระดับตำนาน ทั้ง อ.Osamu Tezuka (Astro Boy) , อ.Fujio Akatsuka (Tensai Bakabon), อ.Fujiko Fujio (Doraemon) และ อ. Shotaro Ishinomori (Kamen Rider) ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการจำลองชีวิตความเป็นอยู่ของนักเขียนมังงะตำนานเหล่านี้ ซึ่งได้มีการเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ณ สวนสาธารณะ South Nagasaki Hanasaki Ward ในเขตโทชิมะ กรุงโตเกียว เมื่อ 7 ก.ค. 2020 ที่ผ่านมา

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว เป็นอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่ 420 ตร.ม. จะอยู่ไม่ไกลจาก ที่ตั้งของหอพักต้นฉบับ เพียง 200 เมตร โดยจะเป็นการจำลองห้องพักของนักเขียนมังงะที่เคยอาศัยอยู่ในหอพักแห่งนี้ (หอพักต้นฉบับ เป็นหอพักที่สร้างขึ้นด้วยไม้)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีแผนการสร้าง เมื่อปี 2016 และเริ่มสร้างอย่างจริงจัง เมื่อปี 2019 โดย Yukio Takano ผู้ว่าเขตโทชิมะ ได้กล่าวในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ว่า "เราอยากจะแสดงสถานที่กำเนิดของวัฒนธรรมมังงะ-อนิเม ให้คนทั้งโลกได้รับรู้"

Yuka Kawasaki นักเขียนการ์ตูน วัย 38 ปี ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คนแรกสุด ได้กล่าวความรู้สึกอิ่มเอม จากการเข้าไปรับชมว่า "ไม่เพียงแค่ข้างนอกจะทำออกมาอย่างเหมือน แม้แต่จุดตำหนิต่างๆ ที่ปรากฏบนกำแพงในอาคาร ก็ใกล้เคียงกับของจริงด้วน ชั้นล่ะรู้สึกถึงไลฟ์สไตล์ และ ลมหายใจ ของนักเขียนมังงะกลุ่มนี้เลย"

ขณะที่ Shinichi Suzuki อนิเมเตอร์ผู้อยู่อาศัยใน Tokiwaso (และเป็นต้นแบบของตัวละคร Mr. Koike ในมังงะ Obake no Q-Taro / ผีน้อยคิวทาโร่) กล่าวถึงความรู้สึกตอนได้ทราบข่าวเกี่ยวกับโปรเจ็คพิพิธภัณฑ์ครั้งแรก เมื่อปี 2016 "พอย้อนกลับไปตอนนั้น เราแทบจะไม่มีเงิน และได้อยู่ใกล้ชิดกัน ราวกับเป็นพี่น้อง ซึ่งเราทำงานเขียนการ์ตูนอย่างหนัก ในฐานะที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน" อีกทั้ง เขายอมรับว่า ตอนที่หอพักถูกรื้อถอน ทำให้เขารู้สึกแย่เอามากๆ แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับรู้ว่า หอพักแห่งนี้จะมีการสร้างใหม่อีกครั้ง

ส่วน Mikio Koide เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยใช้ที่ตั้งของ Tokiwaso ในการจัดทำกิจกรรมฟื้นฟูท้องถิ่น ด้วยการจัดทำเป็นอนุสรณ์ พร้อมกับจุดแสดงข้อมูลต่างๆ ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทราบข่าวนี้ เพราะเดิมทีย่านดังกล่าว เคยมีย่านช้อปปิ้งที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกันมากกว่า 300 แห่ง แต่ตอนนี้ก็ลดน้อยลงไปถึง 80 แห่ง ในปี 2016 "ผมล่ะ อยากให้มีการฟื้นฟูถนนย่านการค้า จะได้ผูกติดไปกับแฟนๆมังงะ จากในและนอกญี่ปุ่น ที่เข้ามาเยี่ยมชม และแสดงให้เห็นว่า Tokiwaso ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่แล้ว"

อาคารดั้งเดิมของ Tokiwaso ถูกรื้อถอนไป เมื่อปี 1982 ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากบรรดาแฟนๆมังงะ โดย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สามารถเข้าชมฟรี แต่ต้องมีการจองคิวการเข้าชม ผ่านทางเว็บไซต์เสียก่อน ซึ่ง พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว มีกำหนดเปิดตัวในช่วงเดือน มี.ค. 2020 แต่ก็ต้องเลื่อนกำหนดการเปิดออกไปจนถึง ก.ค. 2020 อัน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19

ตัวอย่างห้องพักจำลองของนักเขียนการ์ตูนผู้เคยใช้ชีวิตที่ Tokiwaso

เว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์ tokiwasomm.jp

แหล่งข่าว : Kyodo News , Anime News Network


Shoji Kawamori ร่วมเป็นโปรดิวเซอร์จัดงาน Expo 2025 ที่โอซาก้า

Shoji Kawamori โปรดิวเซอร์อนิเมคนดัง ผู้ให้กำเนิดซีรี่ย์อนิเม Macross รวมถึงมีส่วนร่วมอยู่เบื้องหลังอนิเม Aquarion, AKB0048, Arjuna ได้มีชื่อปรากฏเป็น 1 ใน 10 โปรดิวเซอร์ผู้ร่วมจัดงาน World Expo 2025 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น จากการประกาศของ Bureau International des Expositions (BIE) / องค์การนิทรรศการนานาชาติ เมื่อ 13 ก.ค. 2020 โดยงานดังกล่าว จะจัดภายใต้ธีม "ออกแบบสังคมอนาคต สำหรับ ชีวิตของพวกเรา" ซึ่ง Kawamori จะมีส่วนร่วมจัดงานนี้ ด้วยการรับหน้าที่จัดการโซนพื้นที่จัดงานที่อยู่ภายใต้ธีม "สร้างความเชื่อมต่อกับทุกชีวิต ที่อาศัยอยู่บนจักรวาล , มหาสมุทร และ โลก เพื่อปกป้อง และ ทำนุบำรุงรักษา ซึ่งกันและกัน " โดยงาน Expo 2025 มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 13 เม.ย. - 13 ต.ค. 2025 ซึ่งก็ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เมืองโอซาก้า ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ต่อจาก Expo '70 เมื่อ 55 ปีที่แล้ว

สำหรับงาน Expo หนแรกที่โอซาก้านั้น Kawamori ยังเรียนอยู่ชั้นประถม ซึ่งงานดังกล่าว ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขา ในการสำรวจโลกด้านวัฒนธรรม , วิทยาศาสตร์ และ นิยายไซไฟ มาตลอดทั้งชีวิต

Kawamori จัดเป็นบุคคลผู้มากความสามารถ ทั้งในและนอกวงการอนิเม นอกจากเขาจะเป็นที่รู้จักในฐานะบิดาผู้ให้กำเนิด Macross รวมถึง มีส่วนร่วมกับอนิเมข้างต้นแล้ว เขายังมีส่วนร่วมกับหนังอนิเม Patlabor: The Movie, Patlabor 2: The Movie, Eureka Seven, Outlaw Star, Ghost in the Shell ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเป็นผู้สร้างต้นฉบับของ The Vision of Escaflowne, Basquash!, และ Nobunaga The Fool รวมถึง ยังรับหน้าที่เป็นหัวหน้า ผกก. อนิเม Jūshinki Pandora เป็นต้น นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ออกแบบหุ่นยนต์สุนัข Aibo ของ Sony , ออกแบบของเล่นรถแปลงเป็นหุ่นยนต์ Diaclone ของ Takara (ซึ่งต่อมากลายเป็นต้นฉบับของของเล่นไลน์ Transformers) , งานออกแบบเครื่องจักรกล ให้กับเกม Armored Core , งานออกแบบอาวุธ Devil Breaker ให้กับเกม Devil May Cry 5 อีกทั้ง เขายังรับหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของสวนสนุก Small Worlds อีกด้วย

อนึ่ง World Expo เป็นงานจัดแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม งานใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะจัดกันทุกๆ 5 ปี โดยประเทศเจ้าภาพ สามารถจัดงานกันได้ยาวนานถึง 6 เดือน ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลทำให้งาน World Expo 2020 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต จะย้ายไปจัดกันในปี 2021 แทน

แหล่งข่าว : BIE , Animation Business Journal , Anime News Network


แฟนๆเทใจเลือก Kanna Hashimoto ให้รับบทเป็น Nezuko ใน Kimetsu no Yaiba ฉบับคนแสดง

ออกตัวก่อนเลยว่า ข่าวดังกล่าวนี้ เป็นเพียงโพลที่จัดตั้งขึ้นมาโดย เว็บไซต์ RankinClip ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศทำฉบับคนแสดงของ Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร มังงะดังมาแรงของ อ. Koyoharu Gotouge แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นหัวข้อที่มีการตั้งสมมุติขึ้น เพื่อให้แฟนๆได้โหวดเลือกนักแสดงหญิงญี่ปุ่น ผู้ที่คิดว่า เหมาะสมที่จะมารับบทเป็น Nezuko หนึ่งในตัวละครเอกจากเรื่องนี้มากที่สุด โดยโพลดังกล่าว ได้การประกาศผลโหวตแล้ว ปรากฏผลดังนี้

Kanna Hashimoto (98 votes)
Suzu Hirose (58 votes)
Mio Imada (50 votes)
Yurina Hirate (48 votes)
Minami Hamabe (36 votes)
Mana Ashida (29 votes)
Miyu Honda (24 votes)
Nana Seino (23 votes)
Kaya Kiyohara, Haruna Kawaguchi (22 votes)
Rinka Kumada (17 votes)
Rio Suzuki, Hikaru Takahashi (13 votes)

Kanna Hashimoto นักแสดงสาวผู้ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 มีผลงานการแสดงจากหนัง live-action จากมังงะ-อนิเม จำนวนหลายเรื่อง ทั้ง Gintama (ในบท Kagura) , Assassination Classroom (ในบท Ritsu) , Kaguya-sama: Love is War (Kaguya)

ในขณะที่ Suzu Hirose ผู้ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 2 เคยรับบทเป็น Chihaya ในหนังคนแสดงจากมังงะ Chihayafuru ส่วน Mio Imada ผู้รับบทเป็น Airi Maya ในละครซีรี่ย์ Hana Yori Dango / Boys Over Flowers หรือ สาวแกร่งแรงเกินร้อย ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 3


แหล่งข่าว : RankinClip , Anime News Network


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 6-12 ก.ค. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #21 (424,708 เล่ม)

02. Tensei Shitara Slime Datta Ken เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว #15 (251,341 เล่ม)

03. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #21 Limited Edition (183,826 เล่ม)

04. My Hero Academia #27 (166,155 เล่ม)

05. The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ #19 (164,540 เล่ม)

06. Dr.Stone #16 (64,036 เล่ม)

07. Black Clover #25 (63,381 เล่ม)

08. Koko wa Ore ni Makasete Saki ni Ike to Itte kara 10 Nen ga Tattara Densetsu ni Natteita เล่ม 4 (59,020)

09. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #20 (58,826 เล่ม)

10. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #7 (53,497 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon

 

 


 
free hit counter javascript