บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 8-14 มิถุนายน 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .....ในช่วงที่บ้านเราปลอดเชื้อ COVID-19 ภายในประเทศมาเป็นเวลาติดต่อกันกว่าครึ่งเดือน (ขณะที่คนติดเชื้ออิมพอร์ตต่างประเทศ ถูกจับเข้าสถานกักกันรัฐหมด) นำไปสู่การปลดล็อคผ่อนคลายในเฟสที่ 4 ที่สามารถทำอะไรกันได้มากมายขึ้น รวมถึง การยกเลิกเคอร์ฟิว ที่สามารถเดินทางเข้า-ออก ได้ทุกช่วงเวลา แต่ถึงกระนั้น มาตรการการป้องกันโรค ยังต้องมีต่อไป เช่นเดียวกับ เราๆท่านๆทั้งหลาย ที่ยังคงต้องระมัดระวังการติด-การแพร่เชื้ออยู่ตลอดเวลา การ์ดอย่าเพิ่งตก ตามที่ ศบค. ได้ย้ำเตือน เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสระบาดรอบ 2 กันหรือเปล่า!!? ซึงเป็นสิ่งที่เราประมาทไม่ได้เลย!!!!!

ในส่วนภาครัฐ แม้สถานการณ์โรคระบาดจะเริ่มคลาย แต่ก็ยังมีอยู่หลายสิ่งที่ต้องขบคิดกันอย่างหนัก ทั้งเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ , การรับมือกับอุทกภัย จากการที่เข้าสู่หน้าฝนแล้ว รวมถึง เรื่องของ CPTPP ที่ต้องไปพิจารณากันอย่างหนัก เพราะหากเข้าร่วม อาจส่งผลกระทบโดยกว้างต่อคนในบางอาชีพ โดยไม่รู้ตัว!!!

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : รวมพลังแค้น รุมข้างขึ้น 2 กับ ดาบพิฆาตอสูร 19

การ์ตูนออกใหม่ ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่กำลังผ่อนคลายลง เริ่มจาก

ดาบพิฆาตอสูร เล่ม 19 คานาโอะ อิโนะสุเกะ ปะทะ โดมะ ข้างขึ้นที่ 2 การต่อสู้มาถึงจุดสิ้นแล้ว!! เมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรที่สังหารคนใกล้ตัว ทั้ง 2 โกรธจนตัวสั่น แต่กลับ โดนโจมตีด้วยมนต์อสูรโลหิตที่แข็งแกร่งหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากแม้แต่เข้าใกล้ยังทำไม่ได้ ทั้ง 2 จะพลิกสถานการณ์ที่เสียเปรียบและสกัดทางหนีของศัตรูได้หรือไม่...!?

Edens Zero เล่ม 8 ฉลองข่าวฉบับอนิเม ด้วยการวางตลาดเล่มนี้ในบ้านเรา......วาลคิรี่ถูกฆ่าตายแล้ว ทั้งยังเป็นเพราะความชั่วร้ายของท่านหญิงสีชาด "ความจริง" ที่แม่ผู้ให้กำเนิด คือ ต้นเหตุที่ทำให้อาจารย์ผู้เป็นที่รักต้องตาย พุ่งเข้าใส่โฮมุระ ชิคิบุกไปยังดินแดนศัตรูเพียงลำพัง ด้วยหัวใจที่รับรู้ถึงความเศร้าโศกของเธอ และเผชิญหน้ากับท่านหญิงสีชาดตัวต่อตัว พวกรีเบคก้าถูกทัณฑ์สวรรค์ทั้ง 3 โจมตีที่เขตใช้แรงงาน ซ้ำร้ายแดรงก์เคนที่ได้กลิ่นเงินยังเข้าแทรกแซงอีก...เลือดและน้ำตากำลังย้อมดาวเคราะห์ ซัน จีเวล จุดจบของประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมนั้นจะเป็นอย่างไร!?

มหาเวทย์ผนึกมาร เล่ม 7 โรงเรียนไสยเวทย์ขับไล่พวกฮานามิวิญญาณคำสาประดับพิเศษ ที่มาจู่โจมแบบสายฟ้าแลบไปได้ "จูไตคูโซสุ" (แผนภาพมรณะครรภ์คำสาป) ไป ภัยคุกคามใหม่ที่ถือกำเนิดจากคูโซสุ-----พวกอิตาโดริมุ่งหน้าไปกำจัด "วิญญาณคำสาปซึ่งปรากฏตัวที่ประตู" โดยที่ไม่รู้ถึงอันตรายนั้น...!?


บทเรียนรักเส้นทางหัวใจ เล่ม 20 ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวของนักอ่านชาวต่างชาติ ที่มีต่อบทสรุปเรื่องนี้ จนพากันทัวร์ลงไปที่ twitter ของผู้แต่ง ส่วนบ้านเรา ก็ยังคงวางขายเรื่องนี้กันต่อไปในเล่มที่เหลือ....นัตสึโอะบาดเจ็บหนักถึงขั้นไม่ได้สติ เพราะเอาตัวบังฮินะไม่ให้ถูกทานาเบะแทง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างรอบตัวนัตสึโอะเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งฮินะที่เตรียมใจได้หนักแน่นขึ้น ทั้งรุอิที่ต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกใหม่ รวมทั้งมิยามิที่เริ่มรู้ใจตัวเอง หนทางรักที่ครั้งหนึ่งเคยลงตัว เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ในลักษณะรักสี่เส้า!


ซีรี่ย์นิยายน่าอ่าน : การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ ภาค 1 ลูกสาวทหาร เล่ม 2 ,GOBLIN SLAYER! เล่ม 6 ,ขี้เถ้าในกริมการ์แดนมายา เล่ม 9,ASSASSIN'S PRIDE เล่ม 6 , สาวหมาป่ากับนายเครื่องเทศ  เล่ม 14

การ์ตูนน่าสนใจเรื่องอื่นๆ :The King of Fighters: A New Beginning เล่ม 2,KISS ×DEATH เล่ม 5,PEACE MAKER KUROGANE ภาคใหม่ เล่ม 10 ,Given เล่ม 5,โฉมงามพูดไม่เก่งกับผองเพื่อนไม่เต็มเต็ง เล่ม 9,อะโหยัยโง่ เล่ม 11

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 



COVID-19 ทำพิษ....หนังอนิเม Conan ได้ฤกษ์ฉาย เม.ย. 2021

ข่าวร้ายของแฟนๆยอดนักสืบจิ๋ว Conan ผู้กำลังใจจดใจจ่อรอชมหนัง Meitantei Conan: Hiiro no Dangan (Detective Conan: The Scarlet Bullet) หนังอนิเมชุดล่าสุด ชุดที่ 24 ของ เจ้าหนูแว่นยอดนักสืบ ที่ก่อนหน้านี้ ได้ประกาศเลื่อนฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นอย่างไม่มีกำหนด อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 จากเดิมที่มีกำหนดฉายในวันที่ 17 เม.ย. 2020 นั้น

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของหนังอนิเม Conan รวมถึง TOHO บริษัทผู้จัดจำหน่ายหนังชุดนี้ ได้พร้อมใจกันแจ้งว่า หนังอนิเมชุดดังกล่าวของ Conan นั้น ไม่สามารถที่จะฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ในปี 2020 ได้ โดยจะเลื่อนการฉายหนังออกไป จนถึงช่วงราว เม.ย. 2021 (ให้สอดคล้องกับ กีฬาโอลิมปิกโตเกียว ที่เลื่อนจัดในปีดังกล่าว (แต่ไม่รู้ของจริงจะได้จัดหรือเปล่านะ!?)) ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่ไม่มีหนังอนิเม Conan เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ในปีนั้นๆ นับตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ อ.Gosho Aoyama ผู้แต่ง Conan ได้โพสต์ภาพวาดพร้อมข้อความ ซึ่งเป็นภาพของ Conan , Shuichi และ Sera ออกมาขอโทษแฟนๆ พร้อมกับบอกให้แฟนๆรอติดตามชมหนังชุดดังกล่าว ในช่วง เม.ย. 2021

Detective Conan: The Scarlet Bullet เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในช่วงที่กรุงโตเกียว เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬา "WSG: World Sports Games" ที่จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี /ครั้ง ในขณะเดียวกัน ยังได้มีการเปิดตัวรถไฟระบบสูญญากาศ ที่จะวิ่งระหว่าง นาโงย่า กับ โตเกียว ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิธีเปิดของ WSG ด้วย ทว่า ในระหว่างงานเลี้ยง บรรดาผู้สนับสนุนหลักของ WSG ถูกลักพาตัวไป ร้อนถึง Shuichi Akai และ FBI ต้องออกมาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน Conan ได้ค้นพบความเชื่อมโยงกัน ระหว่าง คดีลักพาตัว กับ คดีที่เคยเกิดขึ้นที่ Boston ซึ่งมีการสอบสวนโดย FBI เมื่อ 15 ปีที่แล้ว

ขณะนี้ มีอนิเมทีวี หนังอนิเม คนแสดง และ มังงะ จำนวนหนึ่งได้พากันเลื่อนฉาย เลื่อนวางจำหน่าย และ หยุดเขียน-ตีพิมพ์ไปหลายต่อหลายเรื่อง ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น สามารถเช็คลิสต์ได้ที่นี่!!

แหล่งข่าว : Detective Conan Movie 's Website


Sazae-san , Chibi Maruko-chan เตรียมกลับมาออกอากาศตามปกติ

แม้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 จะยังไม่คลายวิกฤติดี แต่จากการที่ญี่ปุ่นได้ทยอยปลดล็อคมาตรการต่างๆ ก็ส่งผลทำให้การผลิตอนิเมในญี่ปุ่น เริ่มที่จะราบรื่นขึ้น (แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบป้องกันการระบาดของเชื้อโรค) เลยทำให้มีอนิเมจำนวนหนึ่ง ที่เคยประสบปัญหาดังกล่าว ต่างทยอยกลับมาออกอากาศทางทีวีได้ตามปกติ

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของ Sazae-san อนิเมทีวีที่ออกอากาศติดต่อกันยาวนานที่สุดในโลก ได้แจ้งว่า อนิเมทีวีแนวครอบครัวที่ดัดแปลงจากมังงะชื่อเดียวกันของ อ.Machiko Hasegawa จะกลับมาฉายตอนใหม่ล่าสุดตามปกติ ในวันที่ 21 มิ.ย. 2020 หลังจากออกอากาศรีรันตอนเก่าๆ มาตั้งแต่ 17 พ.ค. 2020 โดยตอนใหม่ที่จะฉายในวันดังกล่าว จะเป็นตอนสั้น 3 ตอน ประกอบด้วย "Neesan no Megaphone" (Big Sister's Megaphone), "Namihei, Chichi no Hi Sotsugyō" (Isono, Father's Day Graduation), และ "O-Sawagase Ikka de Sumimasen" (Apologies on Behalf of My Troublesome Family) ซึ่งการเลื่อนฉายตอนใหม่ล่าสุดของอนิเมเรื่องนี้ ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์น้ำมันที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 1975 จนทำให้อนิเมต้องงดฉายไป 1 เดือน

sazae-san

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์หลักของอนิเม Chibi Maruko-chan ยังได้แจ้งว่า อนิเมทีวีดัดแปลงจากผลงานมังงะเด็กของ อ.Momoko Sakura เตรียมจะกลับมาออกอากาศตอนใหม่ล่าสุดตามปกติ ในวันที่ 21 มิ.ย. 2020 เช่นกัน หลังจากหยุดฉายไปตั้งแต่ 3 พ.ค. 2020 และเพื่อเป็นการฉลองกการกลับมาฉายตามปกติ รวมถึง ฉลองครบรอบ 30 ปี ของอนิเมเรื่องนี้ ทางทีมงานจึงเตรียมฉายอนิเมชุดพิเศษ 10 ตอนรวด ในช่วงวันที่ 21 มิ.ย. - 23 ส.ค. 2020 ซึ่งจะเป็นอนิเมที่จะนำเอาบทที่ อ.Sakura ผู้ล่วงลับ เคยเขียนเอาไว้ให้กับตอนดังๆของอนิเมเรื่องนี้ เมื่อครั้งอดีต มาจัดทำใหม่อีกครั้ง



แหล่งข่าว :  Anime News Network#1 , Anime News Network#2



World Cosplay Summit 2020 ยกเลิกจัดงานสถานที่จริง เปลี่ยนไปจัดแบบออนไลน์แทน

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 / Coronavirus ทั่วโลก ยังคงไม่ทุเลา ซึ่งก็ส่งผลต่อการจัดงานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ต่างพากันยกเลิก หรือ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด คณะผู้จัดงาน World Cosplay Summit / WCS หรือ งานประกวดคอสเพลย์โลก ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองนาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศยกเลิกการจัดการประกวด World Cosplay Summit 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่มีการยกเลิกการจัดงานตามสถานที่จริง นับตั้งแต่ งาน WCS ครั้งแรก จัดขึ้นเมื่อปี 2003 เป็นต้นมา

ถึงกระนั้น ทางผู้จัดยังกล่าวว่า พอพิจารณาถึงบุคคลผู้เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้สนับสนุน ที่มีอยู่มากมาย ก็ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้เป็นงานอีเว้นต์ออนไลน์แทน กับ World Cosplay Summit 2020 Online ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-2 ส.ค. 2020 (วันเดียวกับ งานอีเว้นต์ตามสถานที่จริง ที่ประกาศยกเลิกไป) ซึ่งงานออนไลน์ดังกล่าว จะมาภายใต้คอนเซ็ปต์ "เยียวยาชาวญี่ปุ่น กับ ชาวโลก จากนาโงย่า" ส่วนรายละเอียดต่างๆของ WCS 2020 Online นั้น จะมีการแจ้งให้ทราบ ในวันที่ 1 ก.ค. 2020

แหล่งข่าว : World Cosplay Summit , Crunchyroll


Mantan-Web : การผลิตอนิเม ภายใต้วิกฤติ COVID-19 จะใช้เวลานานกันแค่ไหน!?

เว็บไซต์ Mantan-Web ได้จัดทำบทความเกี่ยวกับการผลิตอนิเมญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับวิกฤติ COVID-19 ในขณะนี้ โดยอ้างอิงข้อมูลมาจากการสัมภาษณ์บรรดาคนวงใน วงการอนิเมญี่ปุ่น จำนวนหนึ่ง ซึ่งต่างมีคำตอบที่เห็นพ้องต้องกันว่า ขณะนี้ การผลิตอนิเม ต้องใช้เวลานานกว่าเดิม 2 เท่า และ ต้องใช้เวลาพากย์เสียง นานกว่าเดิมอีก 3 เท่า เช่นกัน

โดย คนในวงการอนิเมคนหนึ่ง ผู้เปลี่ยนวิธีการทำงานจากที่บ้าน แทนการเดินทางไปสตูดิโอ ในช่วงปลายเดือน มี.ค. 2020 ได้กล่าวว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อหลายสตูดิโอที่ยังทำงานในแบบอนาลอก ซะเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะมีสตูดิโอหลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนระบบทำงานแบบดิจิตอลก็แล้ว แต่การทำงานแบบระยะไกลนั้น กลับต้องใช้เวลาในการเช็คงานมากขึ้น อีกทั้งทีมงานสต๊าฟส่วนใหญ่ยังคงชินกับการพบปะพูดคุยด้วยกันมากกว่า เลยทำให้เป็นการยากที่จะควบคุมคุณภาพจากการทำงานแบบระยะไกล

ตามรายงานยังระบุว่า หลายคนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ค่อยๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังต้องดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ในส่วนประเด็นเรื่องการบันทึกเสียงพากย์อนิเม ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดมากที่สุด ซึ่งทำเอาอนิเมจำนวนหลายเรื่องต้องหยุดทำในขั้นตอนนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในตอนนี้จะอนิเมจำนวนหนึ่งที่เริ่มกลับมาพากย์ต่อได้แล้ว แต่ก็ต้องมีการเพิ่มมาตรการ social distancing เข้าไป ด้วยการให้นักพากย์ใช้ไมค์คนล่ะตัว ซึ่งทำให้นักพากย์ 3 คน สามารถบันทึกเสียงร่วมกันได้ แต่ก็เป็นการยากที่จะให้นักพากย์มากถึง 10 คน มาทำงานพากย์ร่วมกันตามปกติ ส่งผลทำให้งานพากย์เสียงต้องล่าช้ากว่าเดิม 3 เท่าด้วยกัน รวมถึง ผกก.ต้องอยู่ในห้องพากย์นานกว่าเดิม แถมตัวนักพากย์นั้น ก็ไม่สามารถที่จะพากย์นอกบทได้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน คนในวงการอนิเมคนหนึ่ง ได้เปิดเผยว่า COVID-19 ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ซึ่งลำพังวงการอนิเมก็ประสบปัญหาในเรื่องของกำลังคนอยู่แล้ว ซึ่งต้องมีการเสาะหาวิธีการใหม่ๆในการผลิตอนิเม

ก่อนหน้านี้ Sponichi เคยรายงานเมื่อ เม.ย. 2020 ว่า การบันทึกเสียงพากย์อนิเมแทบจะหยุดไปเลย และการเลื่อนออกอากาศอนิเมยังคงดำเนินต่อไป อีกทั้ง การผลิตอนิเมในขั้นอื่นๆ ยังได้รับผลกระทบ จากการที่งานจากสตูดิโอ outsource ต่างประเทศ ทั้ง จีน และ เกาหลีใต้ ต่างประสบกับวิกฤติ COVID-19 เช่นกัน

ขณะนี้ มีอนิเมทีวี หนังอนิเม คนแสดง และ มังงะ จำนวนหนึ่งได้พากันเลื่อนฉาย เลื่อนวางจำหน่าย และ หยุดเขียน-ตีพิมพ์ไปหลายต่อหลายเรื่อง ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น สามารถเช็คลิสต์ได้ที่นี่!!

แหล่งข่าว :  Mantan Web , Anime News Network



Ayakashi Triangle ผลงานมังงะใหม่ คืนสู่เหย้า Shonen Jump ของผู้แต่ง To Love Ru

ปี 2020 ก็ผ่านมาได้ราวครึ่งปี นิตยสาร Shonen Jump ได้เกิดความเปลี่ยนแแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องฮิตจำนวนหนึ่ง ที่ได้ทยอยกันจบลงในเวลาไล่เลี่ยกัน ประกอบด้วย Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร , Yuragi-sou no Yuuna-san ยูรากิโซ ที่นี่ผีน่ารักนะ รวมถึง The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ ที่มีข่าวว่าจะจบลงใน Jump ฉบับที่ 28/2020 (วางขาย 15 มิ.ย. 2020)

และจากการที่มีซีรี่ย์การ์ตูนฮิตส่วนหนึ่งได้จบลงไป ก็ย่อมที่จะมีซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องใหม่เข้ามาเสริมกำลังแทน โดย Shonen Jump เล่ม 27/2020 ที่ออกวางจำหน่ายไปเมื่อ 8 มิ.ย. 2020 ได้ประกาศไลน์อัพมังงะซีรี่ย์เรื่องใหม่ที่จะตีพิมพ์ลงใน Jump ฉบับที่ 28-31 ซึ่งในรอบนี้ มีมังงะเรื่องใหม่ทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน

ประเดิมด้วย Ayakashi Triangle ผลงานมังงะใหม่ล่าสุดของ อ.Kentarou Yabuki ผู้แต่ง Black Cat , To Love Ru มีกำหนดตีพิมพ์ลงใน Jump ฉบับที่ 28 โดยเป็นแนวผสมผสานกันระหว่างแอ็คชั่น กับ โรแมนติคคอเมดี้ (จัดหนักจัดเต็มแฟนเซอร์วิส!!?) กับเรื่องราวของ Matsuri เด็กหนุ่มผู้คอยปกป้อง Suzu เพื่อนสาวสมัยเด็กของเขา ให้รอดพ้นจาก ayakashi หรือ เหล่าวิญญาณร้าย ทั้งปวง

...ซึ่งผลงานเรื่องใหม่ของเขาเรื่องนี้ จัดเป็นการหวนคืนสู่เหย้า เขียนซีรี่ย์เรื่องยาวให้กับจัมป์เล่มหลัก เป็นครั้งแรก ในรอบ 11 ปี ของเขา นับตั้งแต่ To Love Ru จบลง เมื่อปี 2009 โดยก่อนที่จะเขียน Ayakashi Triangle อ.Yabuki มีผลงานมังงะเรื่องล่าสุด คือ ฉบับมังงะจากอนิเม DARLING in the FRANXX ในแอพ-เว็บไซต์ Shonen Jump+ ช่วง ม.ค. 2018 - ม.ค. 2020

ส่วนซีรี่ย์ใหม่ของ Jump อีก 3 เรื่องที่เหลือ ประกอบด้วย :

God of Destruction Magu-Chan โดย อ.Kei Kamiki นักเขียนมังงะหน้าใหม่ไฟแรง เจ้าของดีกรีรางวัลการประกวด G Cup จากเรื่อง Dainanen กับ รางวัลชมเชย จากการประกวดนักเขียนหน้าใหม่ของจัมป์ จากเรื่อง 2nd Semester Mirage มีกำหนดตีพิมพ์ลงใน Jump ฉบับที่ 29

Shaketsu no Niraikanai ผลงานมังงะใหม่ล่าสุดของ อ.Ryuuhei Tamura ผู้แต่ง Beelzebub , Hungry Marie มีกำหนดตีพิมพ์ลงใน Jump ฉบับที่ 30 ซึ่งเรื่องนี้ ก็ดัดแปลงมาจากเรื่องเล่าในตำนานท้องถิ่นของเกาะริวกิว (จ.โอกินาวะ ของญี่ปุ่น ในปัจจุบัน) ที่ว่าด้วย Nirai Kanai ดินแดนอันเปรียบเสมือนแดนสวรรค์ ที่เต็มไปด้วยเทพเจ้ามากมาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่า เทพจากดินแดนแห่งนี้ ได้มอบผลิตผล-อุปกรณ์การเกษตร แก่ชาวริวกิว

Me and Roboko ผลงานการ์ตูนเบาสมองของ อ.Shuuhei Miyazaki ผู้แต่งมังงะชุด Oyakusoku no Neverland มังงะสปินออฟเน้นคลายเครียด จาก The Promised Neverland มีกำหนดตีพิมพ์ลงใน Jump ฉบับที่ 31

แหล่งข่าว , รูปภาพ และ ทวีต : WSJ Manga , Shonen Jump .com


หนังคนแสดงญี่ปุ่นไม่พอ.....The Promised Neverland จะถูกทำเป็นละครซีรี่ย์ฝรั่ง พร้อมโปรเจ็คอื่นๆ ฉลองตอนจบมังงะ

The Promised Neverland หรือ พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ ผลงานมังงะแนวดาร์กแฟนตาซี ผจญภัย เซอร์ไววัล ของ อ.Kaiu Shirai (เนื้อเรื่อง) กับ อ.Posuka Demizu (ภาพ) ได้ตีพิมพ์ตอนอวสานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใน Shonen Jump ฉบับที่ 28 ที่จะวางขายในวันที่ 15 มิ.ย. 2020 แต่ถึงกระนั้น Jump ฉบับดังกล่าว ยังได้เปิดเผยโปรเจ็คอันหลากหลาย ที่เป็นการฉลองตอนจบของของก๊วนเด็กๆชุดขาว เรื่องนี้

- เริ่มจาก ละครซีรี่ย์ฝรั่ง ที่ผลิตโดย Fox 21 Television Studios กับ Amazon Studios มีกำหนดฉายสตรีมมิ่งทาง Amazon Prime Video ซึ่งข่าวดังกล่าว มีการยืนยันจาก Variety กับ Deadline สองเว็บไซต์ข่าวสารบันเทิงฮอลลิวู้ด โดยจะได้ Meghan Malloy (Spider-Man: Into the Spiderverse) เป็นผู้เขียนบท , กำกับและอำนวยการสร้างหลักโดย Rodney Rothman (Spider-Man: Into the Spiderverse) , ขณะที่ Masi Oka (Heroes,หนังคนแสดง Death Note เวอร์ชั่น Netflix , Attack on Titan ฉบับหนังฮอลลิวู้ด) จะเป็นผู้อำนวยการสร้าง ร่วมกับ Roy Lee กับ Miri Yoon แห่ง Vertigo Entertainment

- ประกาศจัดทำเวอร์ชั่นเกมวีดีโอคอมพิวเตอร์ (คาดว่าน่าจะเป็นเกมบนมือถือ จากการที่ได้ LINE เป็นสปอนเซอร์) ซึ่งได้ อ.Demizu รับหน้าที่ออกแบบตัวละคร และ คอนเซ็ปต์อาร์ต ให้กับเกม

- งานนิทรรศการ วันที่ 11 ธ.ค. 2020

- หนังสือภาพ

- หนังสือแฟนบุ๊ค

นอกจากโปรเจ็คใหม่ที่มีการประกาศ 5 อย่างแล้ว แฟนๆก็ยังสามารถติดตามโปรเจ็คอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ Neverland ที่มีการประกาศมาก่อนหน้านี้ ทั้ง อนิเมทีวี ซีซั่น 2 , หนังคนแสดงฉบับญี่ปุ่น รวมไปถึง ฉบับมังงะ เล่มจบ เล่มที่ 20 ที่จะวางขายในญี่ปุ่น เดือน ต.ค. 2020!!!!!

แหล่งข่าว : WSJ Manga


 

ปลุกชีพ "Shaman King ราชันย์แห่งภูติ" กับอนิเมทีวีใหม่ ดัดแปลงเนื้อหาจากมังงะตั้งแต่ต้นยันจบ

หลังจากห่างหายจากจอทีวีไปนานเกือบ 20 ปี ในที่สุด Shaman King ราชันย์แห่งภูติ ผลงานมังงะเรื่องดังของ อ.Hiroyuki Takei ได้รับการปลุกเสก คืนชีพครั้งใหญ่ ในรูปแบบอนิเมทีวีซีรี่ย์ชุดใหม่ล่าสุด ที่จะออกอากาศในเดือน เม.ย. 2021 ซึ่งอนิเมชุดใหม่ดังกล่าวนั้น จะดัดแปลงเนื้อหาจากมังงะเวอร์ชั่นสมบูรณ์ 35 เล่มจบ ที่จะตีพิมพ์ โดย สนพ. Kodansha ต้นสังกัดปัจจุบัน ในวันที่ 17 มิ.ย. 2020 นี้ (ฉบับดังกล่าว เคยวางขายในแบบดิจิตอล มาก่อนหน้านี้แล้ว).....ซึ่งก็รับรองว่า จะไม่มีฉากบทสรุป "ปาหมอน" ให้ได้รู้สึกกวนใจบนจอ แน่นอน!!!

Shaman King

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2017 อ.Takei ได้ออกมาปัดข้อเสนอโปรเจ็คอนิเมฉบับรีบู้ตของเรื่องนี้ จากการที่ติดขัดข้อตกลง ในเรื่องของการใช้นักพากย์และเพลงประกอบจากอนิเมเวอร์ชั่นดั้งเดิม ....... ซึ่งคาดว่า ภายหลังดีลดังกล่าวมีการเจรจาอย่างลงตัวระหว่าง อ.Takei กับ ทีมผู้สร้างอนิเม เลยทำให้เกิดโปรเจ็คอนิเมเวอร์ชั่นรีบู้ตของเรื่องนี้ ในที่สุด

อีกทั้ง เว็บไซต์หลักของ Shaman King ยังระบุว่า อนิเมทีวีซีรี่ย์เวอร์ชั่นดั้งเดิม ของเรื่องนี้ ที่เคยออกอากาศช่วงปี 2001-2002 จะกลับมารีรันใหม่ ผ่านบริการสตรีมมิ่ง Full Anime TV กับ Bonbon TV

มังงะ Shaman King ตีพิมพ์ครั้งแรก ภายใต้สนพ.Shueisha ลงในนิตยสาร Shonen Jump ช่วงปี 1998-2004 มีฉบับรวมเล่มทั้งหมด 32 เล่ม ก่อนจะมีการจัดพิมพ์ใหม่ในเวอร์ชั่น Kanzenban หรือ Big Book ที่ลดเหลือเพียง 27 เล่ม พร้อมกับมีการแก้ไขตอนจบเสียใหม่ จากมังงะต้นฉบับเดิม จากนั้น เรื่องนี้ได้มีการเขียนมังงะภาคต่อ-สปินออฟ จำนวนหนึ่ง ทั้ง Shaman King 0 กับ Shaman King Flowers ให้กับ Shueisha ก่อนจะพาเรื่องนี้ย้ายค่ายใหม่อย่างสุดเซอร์ไพรส์ ไปยังสนพ. Kodansha จนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน Shaman King ภายใต้สังกัด Kodansha มีการเขียนมังงะภาคต่อ และ สปินออฟจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย Shaman King The Super Star , Shaman King: Red Crimson และ Shaman King: Marcos ซึ่งเป็นมังงะชุดใหม่ล่าสุดของเรื่องนี้ ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Magazine Edge เมื่อ เม.ย. 2020 ที่ผ่านมา

แหล่งข่าว และ คลิป : Comic Natalie , Crunchyroll , Anime News Network



EDENS ZERO เตรียมระเบิดพลังมิตรภาพสะท้านจักรวาล ในรูปแบบอนิเมทีวี

หลังจากมีการเปรยมาซักพัก เกี่ยวกับประกาศสำคัญที่จะเกิดขึ้นกับ EDENS ZERO ผลงานมังงะเรื่องปัจจุบันของ อ.Hiro Mashima ที่มีการระบุไว้ในนิตยสาร Shōnen Magazine ฉบับที่ 28 (วางจำหน่าย 10 มิ.ย. 2020) ... ทว่าล่าสุด ข่าวดังกล่าว ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป เมื่อ อ.Mashima ได้แจ้งข่าวใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้บน twitter ส่วนตัว โดยระบุว่า EDENS ZERO ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีแล้ว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ใน Shōnen Magazine ฉบับที่ 29 ที่จะประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการ รวมถึง สื่อที่เกี่ยวข้อง

EDENS ZERO ตีพิมพ์ลงใน Shōnen Magazine ตั้งแต่ มิ.ย. 2018 เป็นเรื่องราวของ Shiki ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพ้องเพื่อนเครื่องจักรกล ณ Granbell Kingdom ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สวนสนุกร้าง ได้พบเจอกับ Rebecca สาวน้อย influencer ที่กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่มาเยือนที่แห่งนี้ในรอบร้อยปี และจากความโกลาหลที่เกิดขึ้นบนดาวแห่งนี้ ทำให้ Shiki ได้ออกเดินทางผจญภัยสู่อวกาศอันกว้างไกล ร่วมกับ Rebecca และ Happy แมวสัตว์เลี้ยงพูดได้ของเธอ

จากข่าวนี้ ทำเอาแฟนๆที่ติดตามผลงานของ อ.Mashima ในบ้านเรา ได้เฮอย่างต่อเนื่อง หลังจากค่าย VBK ในบ้านเรา ได้ประกาศลิขสิทธิ์ Mashima HERO'S มังงะซีรี่ย์ที่เป็นการรวมตัวละครข้ามเรื่องกัน ระหว่างตัวละครจากมังงะ 3 เรื่องดังของ อ.Mashima ประกอบด้วย RAVE , Fairy Tail และ EDENS ZERO ไปเมื่อไม่นานมานี้....

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Hiro Mashima 's twitter , Crunchyroll



ผู้แต่ง " Domestic na Kanojo บทเรียนรักเส้นทางหัวใจ" เจอทัวร์ลงเข้าอย่างจัง! จากแฟนๆชาวต่างชาติ ผู้ไม่พอใจบทสรุปมังงะ

อ.Kei Sasuga ผู้แต่งมังงะ Domestic na Kanojo หรือ บทเรียนรักเส้นทางหัวใจ (สนพ. Luckpim บ้านเรา) กำลังได้รับทั้งกฐินและทัวร์ลงขนานใหญ่ จากบรรดาแฟนๆชาวต่างชาติ ผู้กำลังเกรี้ยวกราดฉุนเฉียวไปกับบทสรุปอันตรรกะผิดเพี้ยน พังพินาศ ของมังงะเรื่องนี้ บน twitter ส่วนตัวของเธอ

มังงะดังกล่าว ได้ตีพิมพ์ตอนสุดท้ายในนิตยสาร Shōnen Magazine ฉบับที่วางขายไปเมื่อ 10 มิ.ย. 2020 แต่ twitter อ.Sasuga นั้น กลับเต็มไปด้วยข้อความด่าทออย่างรุนแรง จากแฟนๆต่างประเทศ (ที่ได้รับรู้เนื้อหาตอนจบล่วงหน้ามาก่อน) จำนวนมาก ก่อนที่นิตยสารจะวางขายจริงซะอีก ร้อนถึง อ.Sasuga ต้องออกมาทวีตถึงประเด็นที่เกิดขึ้น

อ.Sasuga กล่าวว่า เธอได้รับข้อความที่เต็มไปด้วยคำดูถูกดูหมิ่น เหยียดหยาม วิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียๆหายๆ และหยาบคาย จากผู้ใช้ twitter ชาวต่างประเทศ ถึงกระนั้น เธอยังได้ทวีตขอบคุณแฟนๆอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงให้กำลังใจเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลับมามีไฟขึ้น ในส่วนของคำวิจารณ์ต่างๆนั้น เธอได้รับความประทับใจต่างๆนานา ในแง่ของคนจำนวนมาก ,ความรู้สึกต่างๆ และทัศนคติของตัวละคร ที่ยังไม่ได้รับการถ่ายทอดอย่างเต็มที่ ดังนั้น เธอจึงคิดที่จะเพิ่มคำอธิบายอีกเล็กน้อยลงในฉบับรวมเล่ม (พร้อมกับแซะไปถึงคนที่เอาแต่บ่นว่า ยังไงก็คงไม่คิดที่จะซื้อรวมเล่มหรอก) และจากการที่ผลสำรวจจากผู้อ่านนิตยสารที่มีต่อเรื่องนี้ จะออกมาในทางบวก เธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร แต่พอเธอจะบล็อคบัญชีที่แสดงความหยาบคายออกมา ก็จะมีบัญชีใหม่คอยมุ่งร้ายต่อเธออีก ราวกับว่าการพยายามจะบล็อคบัญชีนั้นช่างไร้ประโยชน์สุดๆ ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ทวีตข้อความ เธอจะยับยั้งตัวเองในการโต้ตอบกับคอมเม้นต์ไร้สาระ

อ.Sasuga ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เธอได้รับคำแนะนำจากใครหลายๆคน เธอก็เลยคิดที่จะปล่อยผ่านจากคอมเม้นต์ต่างๆ ยกเว้น โพสต์ที่มีเนื้อหาประกาศสำคัญ อีกทั้ง เธอจะยังคงอัพเดทผลงานอย่างต่อเนื่องบน pixiv (เว็บแสดงผลงานภาพวาด กราฟิก คล้ายๆ deviantart ) ของเธอ พร้อมกับกล่าวขอบคุณแฟนๆทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนผลงานของเธอมาโดยตลอด

บทเรียนรักเส้นทางหัวใจ ตีพิมพ์ลงใน Shōnen Magazine เมื่อเม.ย. 2014 ปัจจุบันมียอดตีพิมพ์มังงะฉบับรวมเล่ม ถึง 3 ล้านเล่ม ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศเมื่อ ม.ค. 2019......เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง Natsuo หนุ่มม.ปลาย , คุณครูสาว Hina และ สาวม.ปลาย ท่าทางประหลาดๆ Rui ......ซึ่งต่อมา Natsuo ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกันสาวทั้งสองคนนี้ ในฐานะพี่น้องกัน!? จากการที่คุณพ่อของเขาได้แต่งงานใหม่ กับภรรยาผู้ซึ่งเป็นแม้แท้ๆของสองสาวพี่น้องคู่นี้ และเรื่องราวความรักระหว่างคนสามคน ได้ดำเนินต่อไป ชนิดที่ผู้อ่านต้องใช้วิจารญาณกันหนักๆ!!!!

แหล่งข่าว : Anime News Network



Ai Kamachi นักแต่งเพลง จากอนิเม Clannad, Angel Beats! , Charlotte เสียชีวิต

ข่าวเศร้าของวงการอนิเมญี่ปุ่น เมื่อสื่อหลายแห่งของญี่ปุ่น ต่างรายงานว่า Ai Kamachi นักเปียโน และ นักแต่งเพลงจากอนิเมดังหลากหลายเรื่อง ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 48 ปี เมื่อ 30 พ.ค. 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งร่างอันไร้วิญญาณของเธอ ได้มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยสมาชิกในครอบครัว

Kamachi ได้ตามรอยเส้นทางสายดนตรี ตามคุณพ่อของเธอ ผู้เป็นนักเปียโนแนวแจ๊ส เธอจึงศึกษาวิชาด้านดนตรีภายใต้การสอนของ Toshi Ichiyanagi ณ วิทยาลัยดนตรี Kunitachi ต่อจากนั้น เธอเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีอย่างเต็มตัว โดยจับคู่กับ Tatsuo Nagami (Nagie) วิศวกรบันทึกเสียง ภายใต้ชื่อ "aikamachi+nagie" พร้อมออกอัลบั้ม "radiant garden" ออกมาในปีเดียวกัน จนกระทั่งปี 2008 เธอรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ คอยผลิตเพลงให้กับ ANANT-GARDE EYES วงดนตรีแนวอิเล็กโทร-อะคูสติก

เธอเป็นที่รู้จักจากผลงานเพลงที่ทำให้กับ ANANT-GARDE EYES ซึ่งประกอบด้วย เพลงเปิด-ปิด เพลงประกอบ และ ซาวด์แทร็ค ให้กับอนิเมทีวีเรื่อง Clannad: After Story, Angel Beats!, Mekakucity Actors และ Charlotte รวมถึง เธอยังเคยร่วมงานกับศิลปินดังอย่าง Lia, Aoi Tada, และ Jin อีกด้วย

แหล่งข่าว : Oricon News , MAL


ผู้แต่ง Elfen Lied "สาวกลายพันธุ์" เผยทีแรกตั้งใจจะเขียนมังงะเรื่องนี้ ให้ออกแนว Love Hina !!?

Elfen Lied การ์ตูนสาวน้อยโทนโหดดิบ ละเลงเลือด อันลือเลื่อง ซะจนถูกแฟนๆบ้านเรา ต่างขนานนามว่า "หูแมวเลือดสาด" (ซึ่งฉบับมังงะเรื่องนี้ เคยมีลิขสิทธิ์บ้านเรา โดย สนพ.NED ในชื่อ สาวกลายพันธุ์) ....แต่เชื่อหรือไม่ว่า แรกเริ่มเดิมที อ.Lynn Okamoto ผู้แต่งเรื่องนี้ ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ ให้ออกมาเป็นแนวเลิฟคอเมดี้ฮาเรมวุ่นวายยุ่งเหยิง ในสไตล์เดียวกับเรื่อง Love Hina บ้านพักอลเวง ผลงานของ อ.Ken Akamatsu ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนั้น !?

เรื่องราวดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยเป็นครั้งแรก บน twitter ส่วนตัวของ อ.Okamoto โดยระบุว่า ก่อนที่ผลงานมังงะเรื่องแรก (ซึ่งคือ Elfen Lied) ของเขาจะได้รับการตีพิมพ์ เขาเคยร่างเนมต้นฉบับการ์ตูนของเรื่องนี้ โดยพยายามเขียนออกมาให้เป็นแนวเดียวกับ Love Hina แต่ไปๆมาๆ จากเนื้อเรื่องที่เขาได้ร่างออกมานั้น ทำให้ผู้ดูแลของเขา ต้องออกมาแนะนำว่า ให้เขาเขียนเรื่องนี้แบบฉีกแนวไปจาก Love Hina ไปเลย จนกระทั่งกลายเป็นการ์ตูนสาวน้อยเลือดสาด ที่คุ้นเคยทุกวันนี้ ในที่สุด

เขายังกล่าวอีกว่า พอย้อนกลับไปดูตอนแรกของมังงะเรื่องนี้ มันแทบจะเหมือนกับต้นฉบับที่เขาร่างออกมาเลย ซะจนรู้สึกว่า เขาคิดผิดแล้ว ที่คิดจะมาเขียนแนว Love Hina พร้อมกับโพสต์ฉากหนึ่งในมังงะ เป็นการอ้างอิงคำพูดนี้ของเขา
(เนื่องจากฉากมังงะที่เขาโพสต์ ไม่เหมาะสมกับผู้อ่านบางกลุ่ม เอาเป็นว่า...ภาพดังกล่าว สามารถเข้าไปรับชมได้ บน twitter ของ อ.Okamoto)

Elfen Lied ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young Jump ช่วงปี 2002-2005 มีฉบับรวมเล่มทั้งหมด 12 เล่มจบ กับเรื่องราวของ Lucy สาว Diclonius ซึ่งเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีหูแมวออกมา รวมไปถึง มี อวัยวะล่องหน vector ที่ใช้ในการฟาดฟันสังหารผู้คน ซึ่ง่มีแต่เพียง Diclonius ด้วยกันเองเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ โดยเธอผู้นี้ได้หนัออกจากสถานกำพร้า และพบกับ Kota ชายหนุ่มที่ได้ให้การช่วยเหลือเธอ และเป็นคนที่เธอไว้ใจที่สุด ...ต่อมา เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศเมื่อปี 2004 รวมไปถึง OVA เมื่อปี 2005

แหล่งข่าว :  Otakomu , Crunchyroll


Rambo ver. Baki !!? ....เมื่อ Keisuke Itagaki มาวาดโปสเตอร์หนัง Rambo: Last Blood แบบฉบับตัวเอง

หลังจากมีการเปรยมาจากโปรดิวเซอร์ Toshio Suzuki แห่ง Ghibli Studio มาระยะหนึ่ง เกี่ยวกับโปรเจ็คใหม่ล่าสุดของ Goro Miyazaki บุตรชายของ Hayao Miyazaki ที่จะนำเอาหนังสือวรรณกรรมเด็กของยุโรปมาดัดแปลง ล่าสุดข่าวดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อ Ghibli แจ้งว่า ผกก.หนังอนิเมจาก Tales from Earthsea กับ From Up on Poppy Hill กำลังจะมีผลงานใหม่ล่าสุด ซึ่งก็คือหนังอนิเม 3DCG ทางโทรทัศน์ ชุด Earwig and the Witch / Aya to Majo ที่ดัดแปลงมาจากผลงานนิยายเด็กชื่อเดียวกันของ Diana Wynne Jones ซึ่งหนังอนิเมชั่นชุดนี้ จะมีการฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ Cannes ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย

Rambo หนังดังในอดีต ที่ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้ของพระเอกร่างบึ๊กรัวปืนกล ท่ามกลางสนามรบ กลับมาอีกครั้งในหนังภาคใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นหนังภาคที่ 5 (และเป็นภาคสุดท้าย) ของเรื่องนี้ กับ Rambo: Last Blood ซึ่งยังคงได้ Sylvester Stallone พระเอกรุ่นเก๋า มารับบทเป็น John Rambo เหมือนเคย

แม้หนังดังกล่าว จะเข้าฉายที่อเมริกาไปแล้วเมื่อ ก.ย. 2019 แต่ก็มีกระแสการตอบรับไม่ดีนัก จนสามารถทำรายได้ทั่วโลกเพียง 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงกระนั้น หนังภาคดังกล่าว ชาวญี่ปุ่น กำลังจะได้พิสูจน์กันบนโรงที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 26 มิ.ย. 2020 ที่จะถึงนี้

และเพื่อเป็นการโปรโมทหนังบทสั่งลา Rambo ชุดนี้ ที่ญี่ปุ่น ก็เลยมีการจัดทำโปสเตอร์ของหนังในรูปแบบมังงะสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งได้ อ.Keisuke Itagaki ผู้แต่งมังงะ Baki จอมประจัญบาน เป็นผู้ลงมือวาดภาพ จนได้ภาพวาดของ Rambo หรือ คุณน้า Stallone ที่มีความเป็น "Yujiro Hanma" อย่างสุดๆ

ภาพโปสเตอร์ ver. อ.Keisuke Itagaki กับ โปสเตอร์หนังต้นฉบับ


แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , Crunchyroll

 


โปรดิวเซอร์หนังอนิเม Akira ชี้แจงความถูกต้องเกี่ยวกับต้นทุนสร้างหนังที่แท้จริง

Akira หนังอนิเมไซไฟดังระบือโลก ได้กลับมาฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในระบบ 4K ที่มีความคมชัดยิ่งกว่าเวอร์ชั่นดั้งเดิม และจากควันหลงที่หนังเรื่องดังกล่าว ได้คัมแบ็คบนโรงที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ทำให้ Shigeru Watanabe โปรดิวเซอร์หนังอนิเม Akira เลยถือโอกาสออกมาชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับงบทุนสร้างหนังเรื่องนี้ ที่มีหลายต่อหลายคนยังคงเข้าใจผิดว่า ตัวหนังใช้ทุนสร้างสูงถึง 1.1 พันล้านเยน ซึ่งข้อมูลต้นทุนดังกล่าวนี้ มีการใช้อ้างอิงหลายครั้ง ตลอด 32 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ Akira ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1988 จนทำเอา Watanabe ต้องออกมาตั้งคำถามบน twitter ส่วนตัวของเขาว่า เอาตัวเลขนี้มาจากไหนกัน?

Junya Suzuki ผู้ศึกษาผลงานต่างๆของ Katsuhiro Otomo ได้ตอบกลับทวีตของ Watanabe กล่าวว่า มาจากบทความหนึ่ง เมื่อปี 1987 ที่ได้พูดถึง Toho บริษัทผู้จำหน่ายหนัง Akira ที่ระบุถึงต้นทุนสร้างหนัง อยู่ที่ 1 พันล้านเยน ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าว จะมีการพูดถึงอีกครั้งบนโฆษณา หลังจากนั้น มีการลือสนั่นทั่วเกาะญี่ปุ่น เกี่ยวกับ ทุนสร้างแท้จริงของหนัง หลังจากตัวหนังทำเสร็จ ด้วยการเพิ่มอีก 100 ล้านเยน เข้าไป

ทางฝั่ง Watanabe นั้น แม้เขาจะไม่รู้จำนวนทุนสร้างหนังที่แท้จริงของตัวหนัง แต่เขามองว่า ต้นทุนจำนวน 1.1พันล้านเยนนั้น มันสูงเกินไป อีกทั้งในตอนนั้น เขาก็ไม่มีทีมงานมากพอ ที่จะพอพิสูจน์ได้ว่า ต้นทุนการผลิตสูงจริง ซึ่งต่อมา Suzuki ได้อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ The Law of Anime Film Hits โดยอ้างจากคำพูดของ Ken Tsunoda หัวหน้าคณะกรรมการผลิตหนัง Akira จาก Kodansha โดยระบุว่า ทีแรก ต้นทุนหนังอยู่ที่ 500 ล้านเยน ก่อนจะมีการปรับเพิ่ม จนอยู่ที่ 700 ล้านเยน (ซึ่งข้อมูลตรงส่วนนี้ ก็นำไปสู่ข่าวลือเรื่องต้นทุนที่เพิ่มอีก 100 ล้านเยน) และจากข้อมูลตรงนี้ ก็สอดคล้องกับความทรงจำของ Watanabe เกี่ยวกับข้อมูลต้นทุนของ Akira ซึ่งจำนวนต้นทุนหนังได้มีการปั่นราคาสูงขึ้นบนโฆษณาโปรโมทหนัง และบางครั้ง ก็มีการรวมต้นทุนโฆษณาเข้าไปด้วย ทั้งๆที่ ปกติไม่ค่อยมีใครเอาส่วนนี้มารวมกัน ในการอ้างอิงต้นทุนหนัง ซึ่งต่อมาเว็บไซต์ NetLab ได้ออกมายืนยันความถูกต้องของข้อมูลต้นทุนหนังที่มีการอ้างอิงในหนังสือเล่มดังกล่าว

หากจะว่ากันตามข้อเท็จจริง ต้องย้อนกลับไปที่หนัง Laputa: Castle in the Sky กับ Kiki's Delivery Service หนังอนิเมสองเรื่องของ Studio Ghibli ที่เข้าฉายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อปี 1986 กับ 1989 นั้น มีการระบุว่าใช้ทุนสร้าง จำนวน 500 ล้านเยน กับ 800 ล้านเยน ตามลำดับ นั่นหมายความว่า ทุนสร้าง 700 ล้าน ของ Akira ถือเป็นจำนวนต้นทุนปกติ สำหรับหนังอนิเมในยุคสมัยนั้น ซึ่งก็เป็นการลบล้างความเชื่อของใครหลายคนมานานกว่า 30 ปี ที่ต่างมองว่า Akira จัดเป็นหนึ่งในหนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาลที่สุดในยุคดังกล่าว

แหล่งข่าว : NetLab , Crunchyroll


กฎหมายลิขสิทธิ์ญี่ปุ่น ฉบับลงดาบผู้ดาวน์โหลดมังงะ-นิตยสาร ผิดกฎหมาย มีผลบังคับใช้ในปี 2021

หลังจากมีรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีความพยายามในการปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ญี่ปุ่นฉบับใหม่ล่าสุดออกมาเป็นระยะๆ ไปพร้อมๆกับ การเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการต่างๆ มาถกปัญหาพูดคุยหาทางออกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดช่วง 1-2 ปีให้หลัง ในที่สุด รัฐสภาญี่ปุ่นได้ผ่านความเห็นชอบ กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับปรับปรุงล่าสุด ที่มีการเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้ที่อัพโหลด หรือ ดาวน์โหลด มังงะ , นิตยสาร และ งานวิชาการ ต่างๆ โดยมิชอบ แล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2021

อีกทั้ง กฎหมายดังกล่าว ยังเพิ่มบทลงโทษในการแบนเว็บไซต์ และ แอพ ประเภท leech sites ที่คอยแจกลิ้งค์เข้าถึงสื่อต่างๆ อย่างผิดกฎหมาย รวมถึง การแจกลิ้งค์ไปยังเว็บผิดกฎหมาย หรือ เว็บบอร์ดต่างๆ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2020 นี้

รัฐบาลญี่ปุ่น ได้เสนอร่างกฎหมายปรับปรุงฉบับดังกล่าว เมื่อ 10 มี.ค. 2020 โดยมีการเพิ่มขอบเขตในการลงโทษบรรดาขาอัพโหลด-ดาวน์โหลดสือให้มากประเภทขึ้น จากเดิมที่จะลงโทษเฉพาะคนที่ดาวน์โหลดเพลงกับวีดีโอ ที่มีการอัพโหลดอย่างผิดกฎหมาย รวมถึง คนที่อัพโหลดสื่อต่างๆ อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งใครที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะถูกลงโทษด้วยการจำคุก 2 ปี หรือ ปรับเงินสูงสุด 2 ล้านเยน หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และหากใครที่ดำเนินเว็บไซต์ประเภท leech sites จะถูกจำคุก 5 ปี หรือ ปรับเงินสูงสุด 5 ล้านเยน หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับปรับปรุงนี้ ยังอนุญาตให้มีการดาวน์โหลดมังงะได้ ใน"จำนวนไม่กี่กรอบ ไม่กี่ช่อง" จากเนื้อหามังงะทั้งหมด หรือ การโพสต์ภาพถ่าย ที่มังงะไม่ได้อยู่ในจุดสนใจของภาพ (อย่างเช่น เงาภาพสะท้อน) รวมถึง จะไม่เอาผิดกับคนที่ดาวน์โหลดผลงานโดจินชิ , แฟนฟิค หรือ ผลงานล้อเลียน แต่อย่างใด


แหล่งข่าว และ คลิป : Manichi , Otakomu , Anime News Network


อนิเมญี่ปุ่น ส่งออกคอนเท้นท์ ยังต่างประเทศ ราว 80%

กระทรวงกิจการภายในและคมนาคมญี่ปุ่น ได้เผยแพร่รายงานวิเคราะห์สถานภาพการขยายสื่อคอนเท้นต์ออกอากาศต่างประเทศ ประจำปี 2018 เมื่อ 2 มิ.ย. 2019 โดยรายงานดังกล่าว ระบุว่า คอนเท้นต์ออกอากาศของญี่ปุ่น ที่ส่งออกยังต่างประเทศ ในช่วงปีงบประมาณ 2018 มีมูลค่าทั้งสิ้น 51.94 พันล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 16.8% และเพิ่มขึ้นถึง 3.7 เท่า จากปี 2013 ที่ทำมูลค่าในตอนนั้นได้ 13.78 พันล้านเยน

หากพิจารณารายละเอียดยิบย่อยแยกเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้นั้น ปรากฏว่า ค่าลิขสิทธิ์สตรีมมิ่งบนอินเตอร์เน็ต ได้รับส่วนแบ่งจากตลาดดังกล่าวสูงสุด 33.5% คิดเป็นมูลค่า 17.39 พันล้านเยน, ตามด้วย ค่าลิขสิทธิ์สินค้า 31.8%, ค่าลิขสิทธิ์การออกอากาศ 23.3%, ค่าลิขสิทธิ์รีเมค 8.1%, ค่าลิขสิทธิ์วีดีโอกับ DVD 2.0%, และรายได้อื่นๆอีก จำนวน 1.3% ซึ่งรายได้แต่ละประเภทต่างทำมูลค่าได้สูงขึ้นจากปีก่อน ยกเว้น ค่าลิขสิทธิ์วีดีโอกับ DVD โดยค่าลิขสิทธิ์สตรีมมิ่งบนอินเตอร์เน็ตของปี 2018 คิดเป็น 8.5 เท่าของปี 2013

หากพิจารณาถึงประเภทของเนื้อหาต่างๆ ปรากฏว่า อนิเม คือ สื่อออกอากาศที่มีการส่งออกมากที่สุด กับ ทำยอดขายลิขสิทธิ์มากที่สุด คิดเป็น 81.1% กับ 82.6% ตามลำดับ

และหากพิจารณาถึงภูมิภาคต่างๆ ที่ได้นำเข้าสื่อออกอากาศของญี่ปุ่น ปรากฏว่า ทวีปเอเชีย มากที่สุดถึง 50.5%, ตามด้วย อเมริกาเหนือ 30.2%, ยุโรป 11.0%, อื่นๆ 4.5%, และทั่วโลก 3.9%. อีกทั้ง เอเชีย ยังเป็นทวีปที่สร้างรายได้ยอดขายลิขสิทธิ์รายการ ให้แก่ญี่ปุ่น สูงที่สุด 61.0%, ตามด้วย อเมริกาเหนือ 23.6%, ยุโรป 6.8%, ทั่วโลก 4.6%, และอื่นๆ อีก 4.0%.

แหล่งข่าว :   Animation Business Info , Anime News Network


NHK แถลงขอโทษ-ถอดถอนข่าว จากกรณีนำเสนอข่าวอนิเมชั่น ล้อเลียนผู้ประท้วงผิวสี

กระแส Black Lives Matter/BLM เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ George Floyd และ คนผิวสี ยังคงร้อนแรงไปทั่วโลก ซึ่งขณะได้มีบุคคล , องค์กร จากวงการต่างๆ ต่างพากันแสดงสัญลักษณ์ ในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้

แต่ทว่า จากกระแสที่เกิดขึ้นนั้น ก็ทำเอา สถานีทีวีช่อง NHK ของญี่ปุ่น ก็เจอทัวร์ลงอย่างจัง อันเนื่องมาจากการนำเสนอข่าว BLM ที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง ผสมกับความละเอียดอ่อนในบางประการ..... เรื่องของเรื่องนั้น มาจากรายการ The World Now (Kore-de-wakatta Sekai-no-ima) ของ NHK ได้เสนอข่าวการประท้วงเรียกร้อง BLM ในสหรัฐ โดยนำเสนอออกมาเป็นภาพกลุ่มคนประท้วง ซึ่งเป็นอนิเมชั่นตัวการ์ตูนล้อเลียนคนผิวดำ รูปร่างล่ำบึ๊ก กำลังแสดงอาการโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวที่มีการนำเสนอในรายการดังกล่าวนั้น ไม่ได้ระบุถึงการฆาตกรรม George Floyd แต่กลับอ้างถึงสาเหตุของการประท้วงว่า มาจากรายได้ที่เหลื่อมล้ำกัน ระหว่าง ชาวอเมริกันผิวขาว กับ กลุ่มคนผิวสี

จากข่าวดังกล่าว ทำเอา Joseph M. Young เอกอัครราชทูตชั่วคราว แห่งสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโตเกียว ได้ออกมาท้วงติงถึงการนำเสนอข่าวบน twitter โดยระบุว่า พวกเขามีความเข้าใจ NHK กับความตั้งใจในการนำเสนอปัญหาการเหยียดสีผิวในสหรัฐ แต่น่าเสียดายที่คลิปข่าวนี้กลับขาดความยั้งคิดและการเอาใจใส่ในการนำเสนอ ซึ่งภาพตัวการ์ตูนล้อเลียนที่ปรากฏบนข่าวนั้น เป็นการดูหมิ่นโดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้น NHK ได้โพสต์แถลงการณ์ขออภัย ทั้งภาษาญี่ปุ่น กับ อังกฤษ เกี่ยวกับการนำเสนอข่าวดังกล่าว พร้อมกับลบคลิปข่าวดังกล่าวที่มีการโพสต์ไว้บน twitter หลักของพวกเขา ออกไป โดย NHK ได้ระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า อนิเมชั่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอข่าวประท้วงในสหรัฐ เกี่ยวกับการตายของ George Floyd ซึ่งพวกเขาได้รับรู้ถึงความไม่พอใจของใครหลายคน เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ,การจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยปธน. Donald Trump รวมไปถึง การแบ่งแยกชนชนของสังคมอเมริกัน โดยคลิปอนิเมชั่นที่พวกเขาได้นำเสนอไปนั้น พวกเขาตั้งใจที่จะเสนอถึงความยากลำบาก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ในสหรัฐ ต้องเจ็บปวดมากตลอด และจากการที่คลิปดังกล่าวได้รับการตำหนิติติงจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก จากการที่มีการนำเสนอความจริงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ผิดเพี้ยนไปจากความจริง พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเอาคลิปดังกล่าวออกไป พร้อมกับกล่าวขออภัยทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการนำเสนอเนื้อหาของข่าว

กระแสความเคลื่อนไหว BLM นี้ มาจากการที่ George Floyd หนุ่มผิวสีชาวอเมริกัน ได้เสียชีวิตลง จากการถูกจนท.ตำรวจ 4 นาย ได้ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ ด้วยการใช้เข่ากดคอของเขาจนขาดอากาศหายใจ และจากการกระทำของจนท.ตำรวจทั้ง 4 รายนี้ นำไปสู่การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม ความเท่าเทียมกันของคนทุกกลุ่ม ทุกสีผิว ไปทั่วสหรัฐ ผสมโรงกับการปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่าง กลุ่มคนเห็นต่างกัน กับ จนท.ตำรวจ

สามารถรับชมภาพต้นตอดราม่า ที่เว็บไซต์ Variety

 

แหล่งข่าว : Variety , Anime News Network


 

10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 1-7 มิ.ย. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. World Trigger เล่ม 22 (192,413 เล่ม)

02. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #20 (179,870 เล่ม)

03. Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร #11 (151,987 เล่ม)

04. Blue Exorcist เอ็กซอร์ซิสต์พันธุ์ปีศาจ # 25 (137,178 เล่ม)

05. Chainsaw Man #7 (94,813 เล่ม)

06. Natsume Yuujinchou นัตซึเมะกับบันทึกพิศวง #25 (78,784 เล่ม)

07. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #19 (75,665 เล่ม)

08. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #18 (73,093 เล่ม)

09. Owari no Seraph เทวทูตแห่งโลกมืด #10 (71,439 เล่ม)

10. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #17 (65,682 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript