หงสาจอมราชันย์ : สามก๊กในมุมมองใหม่ที่ไม่เหมือนใคร





ผู้แต่ง
เฉิน เหมา(Chang Mou)
ประเภท
อิงประวัติศาสตร์,แอ็คชั่น,หักเหลี่ยมเฉือนคม
รวมเล่ม
53 เล่ม
สำนักพิมพ์
บูรพัฒน์ คอมิคส์

หมายเหตุ ข้อมูลประวัติศาสตร์สามก๊กมาจาก http://www.sanguo-chronicle.com/storyline/cause3k.htm


  หากจะนึกถึงวรรณคดีจีนที่เป็นที่นิยมในหมู่นักอ่านนั้น เชื่อว่าหลายคนมักจะนึกถึงสามก๊กก่อนเป็นเรื่องแรก ซึ่งสามก๊กนั้นก็เป็นวรรณกรรมที่แต่งขึ้นโดยอิงตามประวัติศาสตร์ของจีน ว่าด้วยเรื่องราวของ กลุ่มคนอยู่ 3 กลุ่ม ต่างก็ตั้งตัวเป็นผู้ปกครองแผ่นดินประเทศจีนในสมัยนั้น โดยแบ่งเป็น วุยก๊ก ของ โจโฉ (แต่โจผีเป็นปฐมกษัตริย์ของวุยก๊ก),จ๊กก๊ก ของเล่าปี่ และ ง่อก๊ก ของ ซุนกวน แต่ละก๊กก็จะมีเหตุการณ์ และ ตัวละครสำคัญๆที่มีอยู่มากมายจนจำไม่ไหว ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้สามก๊กนั้นเป็นวรรณคดีที่มีคนให้ความสนใจจนถึงปัจจุบัน และมีผู้อ่านทุกเพศทุกวัย

  วรรณคดีสามก๊กนั้นก็มีคนแต่งอยู่หลายคน โดยสามก๊กฉบับที่มีชื่อเสียงที่คุ้นหูในบ้านเรานั้น ก็เป็นของ หลอกว้านจง และ เจ้าพระยาพระคลังหน ในแต่ละเวอร์ชั่นนั้นต่างก็เล่าเรื่องที่ต่างกันไปบ้างเล็กน้อย และในปัจจุบัน นอกจากเรื่องราวของสามก๊กนั้นจะทำออกมาในรูปแบบของนิยายแล้ว ยังทำ ออกมาในรูปแบบของ เกมส์วีดีโอบ้าง อนิเมชั่นบ้าง และ หนังสือการ์ตูน ซึ่ง หนังสือการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสามก๊กที่วางขายในบ้านเรานั้นก็มีอยู่ด้วยกันพอควร เช่น สามก๊ก ฉบับปกเล่มสีแดงทองเล่มหนา ,มังกรอหังการ หมาป่าคะนองศึก,จอมราชันย์ อหังการ ,อมนุษย์ สามก๊ก และ หงสาจอมราชันย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะแนะนำนี้

  สำหรับ หงสาจอมราชันย์(The Ravages of Time)นั้น ก็ว่ากันว่า เป็นการ์ตูนสามก๊กที่ดีที่สุดในขณะนี้ และ พูดถึงกันมากในบอร์ดpantip ซึ่งเป็นผลงานการแต่งของ เฉิน เหมา นักเขียนการ์ตูนชาวไต้หวัน และหงสาจอมราชันย์นั้น ก็เป็นการ์ตูนที่ขึ้นทำเนียบยอดนิยมหนึ่งในห้าของเกาะไต้หวันเลยทีเดียว และด้วยความนิยมดังกล่าวจึงทำให้ญี่ปุ่นนั้นซื้อลิขสิทธิ์ไปเลยทีเดียวเมื่อไม่นานมานี้ และส่วนของไทยเรานั้นก็ออกวางจำหน่ายทั้งหมด 21 เล่มแล้ว (แต่เล่ม 1 หายากหน่อยนะ)

  ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวของ หงสาจอมราชันย์ นั้น ก็ขอปูพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สามก๊กกันเล็กน้อย เผื่อใครที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับสามก๊กไม่มากนัก ย้อนกลับไปยังช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ซึ่งเป็นช่วงที่สถาบันกษัตริย์นั้นอ่อนแอ ประชาชนอดๆอยากๆแร้นแค้น เหล่าขุนนางต่างก็พากันฉ้อราษฎร์บัง
หลวงกันสารพัด โดย พระเจ้าเลนเต้ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์อยู่ในขณะนั้น ก็ถูกบรรดาขันทีเป่าหูจนทำให้การบริหารบ้านเมืองนั้นขาดประสิทธิภาพ ต่อมา พระเจ้าเลนเต้สวรรคต ก็เกิดปัญหาเรื่องผู้สืบทอดราชบังลังค์ ตั๋งโต๊ะที่หวังจะฮุบราชสมบัติ จึงคิดแผนชั่ว ด้วยการยกทัพยึดอำนาจใน
เมืองหลวง ถอดถอนพระเจ้าเส้าเต้ หรือ หองจูเปียน และ แต่งตั้ง พระเจ้าเหี้ยนเต้ หรือ หองจูเหียบ ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าขุนนาง จนทำให้ โจโฉ อ้วนเสี้ยว ต้องยกทัพปราบปราม แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมตั๋งโต๊ะนั้นก็ได้ย้ายเมืองหลวงจากลกเอี๋ยง ไปเมืองเตียงฮัน แถมเผาลกเอี๋ยงซะจนวอดวาย แต่ทว่า ตั๋งโต๊ะนั้นก็เสวยสุขได้ไม่นาน ก็ถูกลิโป้ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของตนนั้นฆ่าตาย ต่อมา โจโฉก็เข้ามาริดรอนอำนาจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จนกระทั่งถูกถอดถอนราชสมบัติโดย โจผีซึ่งเป็นบุตรของโจโฉ และ โจผีนั้นก็ได้สถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งวุยก๊ก
  และสืบเนื่องจากการที่พระเจ้าเลนเต้ทรงบริหารบ้านเมืองขาดประสิทธิภาพ ทำให้เจ้าเมืองต่างๆต่างก็กุมอำนาจเป็นของตนเอง และก็เกิดการแย่งชิงอำนาจกัน จนเหลือก๊กที่แกร่งที่สุดอยู่ 3 กลุ่ม คือ วุยก๊กของโจโฉ ซึ่งปกครองดินแดนทางเหนือของจีน ,จ๊กก๊กของเล่าปี่ ซึ่งปกครองดินแดนทาง
ตอนกลางและตะวันตกของจีน และ ง่อก๊กของซุนกวน ซึ่งปกครองดินแดนทางใต้ของจีน หลังจากนั้นแต่ละก๊กก็ทำสงครามชิงอำนาจกัน แต่ก็ไม่มีใครมีอำนาจเหนือไปกว่าใครได้ จนในที่สุด สุมาเอี๋ยน ผู้เป็นหลานของสุมาอี้ก็สามารถรวบรวมจีนได้เป็นปึกแผ่น และ สถาปนาราชวงศ์จิ้นขึ้น ซึ่งเป็นการยุติสงครามแย่งชิงอำนาจกัน3กลุ่ม ตลอดระยะเวลา 60 ปี

  จากข้างต้น นี่คือเรื่องราวของสามก๊กที่พบได้ในทุกๆเวอร์ชั่น หงสาจอมราชันย์ก็เช่นเดียวกัน วิธีการดำเนินเรื่องก็คล้ายๆกัน เพียงแต่ว่า เนื้อเรื่องของหงสาจอมราชันย์นั้น จะให้ สุมาอี้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเรื่อง ซึ่งตัวสุมาอี้ หรือ ต๋งต๊ะ (ชงต๊ะ ) เป็นบุตรคนรองของสกุลสุมาแห่งเมืองโห้ลาย มีชื่อเสียงในด้านการค้าขาย และ ตัวสุมาอี้นั้นก็มีกองกำลังของตนเอง ซึ่งเรียกว่า ซากทัพ นั้น มีหน้าที่รับจ้างสังหาร และ สุมาอี้ก็มอบหมายให้สมาชิกของซากทัพซึ่งล้วนเป็นผู้พิการในส่วนต่างๆนั้น ไปจัดการเก็บ ฮือหลิน กุนซือของตั๋งโต๊ะซะ เพื่อผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล และ การตายของฮือหลินนั้นก็ทำให้ "ซากทัพ" นั้น ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเกิดเหตุการณ์อื่นๆตามมา ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสามก๊กฉบับดั้งเดิม อีกด้านหนึ่ง ผู้นำในแต่ละทัพนั้น ต่างก็ใช้บริการกุนซืออัจฉริยะ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็มาจากกลุ่ม "แปดพิสดาร" ซึ่งได้รับการสั่งสอนจาก "คันฉ่องวารี" สุมาเต๊กโช ซึ่งก็ได้แก่ อ้วนปึง แห่งทัพอ้วนเสี้ยว ,ซุนฮก แห่งทัพโจโฉ, กาเซี่ยง แห่งทัพโจโฉ(เดิมเคยอยู่กับตั๋งโต๊ะ), กุยแก แห่งทัพโจโฉ ,จิวยี่ แห่งทัพซุนเซ็ก ,พิสดารหก(บังทอง ทัพเล่าปี่) ,พิสดารเจ็ด (ขงเบ้ง ทัพเล่าปี่) และ พิสดารแปด(ยังไม่เปิดเผย)

  จุดเด่นๆของการ์ตูนเรื่องนี้นั้น ก็เป็นการเล่าเรื่องสามก๊กในมุมมองใหม่ที่แตกต่างจากบทประพันธ์ดั้งเดิม คือ ได้มีการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสามก๊กเพิ่มเติมในมุมมองของผู้แต่ง ซึ่งในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นไม่ได้กล่าวไว้ ทำให้อ่านแล้วรู้สึกถึงความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์มากขึ้นในสามก๊กอีกแง่มุมหนึ่ง นอกจากนี้ ก็มีการเพิ่มแง่มุมใหม่ของตัวละครแต่ละตัวให้หลากหลาย มีมิติขึ้น แถมตัวละครบางตัวนั้นก็มีการดัดแปลงคาแร็คเตอร์จากต้นฉบับเดิมพอควร เช่น เล่าปี่ที่ไม่ได้เป็นคนเจ้าน้ำตา,เตียวหุย ที่เป็นศิลปินซึ่งผิดกับต้นฉบับเดิมที่เป็นพ่อค้าขายหมู,จูล่ง ที่กลายมาเป็นหัวหน้ามือสังหารของกลุ่มซากทัพ นาม เหลี่ยวหยวนหว่อ ผู้ซึ่งไม่รู้จักกับความเจ็บปวด, เตียวเสี้ยน สาวงามในเรื่อง ก็มีตัวตนที่แท้จริงก็คือ เสี่ยวม่าน หนึ่งในสมาชิกของซากทัพ ผู้ซึ่งไม่อาจจำแนกเพศได้(!?!), ลิโป้ อ้วนเสี้ยว ที่มีความฉลาดเฉลียวมากกว่าต้นฉบับ หรือ การเพิ่มตัวละครใหม่ที่ไม่มีในต้นฉบับเดิม อย่าง อ้วนปึง บุตรของอ้วนเสี้ยว หนึ่งในแปดพิสดาร หรือ มิฟูเน่ นักฆ่าชาวญี่ปุ่นผู้เป็นใบ้และหูหนวกแห่งซากทัพ เป็นต้น แน่นอนว่าการเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของตัวละครดั้งเดิม หรือ ดัดแปลงเนื้อเรื่องเดิมบ้าง ในสามก๊กนั้น ก็ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจและสนุกสนานมากขึ้น และทำได้เนียนมาก เพราะ ยังคงดำเนินเรื่องโดยที่ไม่ขัดกับต้นฉบับดั้งเดิมเลย แต่สำหรับคนที่ยึดติดแบบเก่าอาจไม่ชอบใจบ้างก็เป็นได้ และผู้แต่งนั้นก็ไม่ได้เน้นให้ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งเป็นตัวดำเนินเรื่องเพียงตัวเดียว แต่เน้นตัวละครตัวอื่นๆให้เป็นตัวดำเนินเรื่องตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องได้อย่างหลากหลาย (ซึ่งก็ไม่แปลกเลยว่า สุมาอี้ ซึ่งเป็นพระเอกแท้ๆ กลับไม่ค่อยมีบทออกโรงมากเท่าไหร่) เช่น เหตุการณ์ในเล่ม 6 ก็ให้ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป็นตัวเอก เหตุการณ์สังหารตั๋งโต๊ะนั้น ก็ให้ ลิโป้นั้น เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เป็นต้น

  ในแง่การดำเนินเรื่องนั้น นอกจากฉากรบของกองทหาร หรือ ฉากการต่อสู้ของตัวละคร ในสไตล์สามก๊กแล้ว หงสาฯดูจะเน้นหนักไปทางการใช้สมองมาประลองกันของเหล่าตัวละครมากกว่า ซึ่งแต่ละฝ่ายนั้นต่างก็หักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างดุเดือดสุดฤทธิ์ ไม่มีใครยอมใคร ชนิดที่อ่านแล้วคาดไม่ถึง อึ้งไปกับไอเดียของผู้แต่งประมาณว่า คิดไปได้ยังไงเนี่ย สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะ ฉากการไขปริศนาข้อความลับใต้ผืนผ้าระหว่าง พิสดารเจ็ด("มังกรหลับ" ขงเบ้ง) และ สุมาอี้ รวมไปถึงฉากการวางแผนการรบของกุนซือดังแห่งยุค ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากในการได้รับชัยชนะในการรบโดยเสียไพร่พลฝ่ายตนให้น้อยที่สุด หรือจะเป็นการแก้ปัญหาการรบของฝ่ายตนที่ทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำนั้น ก็กลับมาอยู่เหนืออีกฝ่ายหนึ่งได้ เรียกได้ว่าเป็นแผนซ้อนแผน ซึ่งรับรองว่า เวลาอ่านต้องคิดตามไปด้วย และต้องอ่านหลายๆรอบถึงจะเข้าใจ และที่สำคัญ ยุทธพิชัยสงครามที่ใช้ในเรื่องนั้น ล้วนมีอยู่จริง และ การที่ผู้แต่งนั้น ปรับเปรี่ยนคาแร็คเตอร์ตัวละครในเรื่องให้ฉลาดกันทั้งเรื่อง ก็ทำให้ฉากการต่อสู้โดยใช้สมองของตัวละครแต่ละตัวนั้น รู้สึกมันส์ได้อรรถรสมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียในแง่ของการขาดเสน่ห์ ไม่สมจริงเท่าไหร่

  ในส่วนของของลายเส้นนั้น รับรองว่าถูกใจคอการ์ตูนญี่ปุ่นแน่ เพราะ ลายเส้นนั้นแทบไม่เหมือนกับการ์ตูนจีนที่เคยเห็นกันบ่อยๆ ดูแล้วสวยงาม ไม่แข็ง การออกแบบฉากก็ทำได้ดีเยี่ยม ส่วนการออกแบบตัวละครนั้น ก็ออกแบบตัวละครได้เจ๋ง,เท่ห์ ,งาม โดยเฉพาะ สุมาอี้,เหลี่ยวหยวนหว่อ,ลิโป้,เตียวเลี้ยว,เตียวหุย(ขนาดหน้าลายนะเนี่ย),เสี่ยวม่าน เป็นต้น รวมไปถึง กลุ่มแปดพิสดาร ซึ่งสมาชิกแต่ละคนตอนถอดหน้ากากออกมานั้น ก็ดูเท่ห์ หล่อ บาดตาบาดใจ (แต่บางคนหน้าออกสวย โดยเฉพาะ "พิสดารห้า" จิวยี่) รับรองว่าเป็นที่ถูกใจสาวๆ จนน่าจะเรียกนักอ่านกลุ่มนี้ได้บ้างเหมือนกัน

   โดยรวมนั้นก็เป็นการ์ตูนที่อ่านแล้วประทับใจมาก อ่านแล้วไม่รู้สึกน่าเบื่ออย่างที่คิด ทำเอาบางคนที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องสามก๊กมากนัก ให้อยากรู้และศึกษาเรื่องราวของสามก๊กมากขึ้น ถึงอ่านเรื่องนี้แล้วจะทำให้รู้เรื่องราวของสามก๊กส่วนหนึ่ง แต่ทางที่ดีควรจะหาสามก๊กฉบับดั้งเดิม(หลอกว้านจง)มาอ่านประกอบด้วย นอกจากนี้ ก็ยังแฝงคำคมจากเรื่องนี้ไปด้วย ส่วนหนึ่งที่อ่านเรื่องนี้แล้วได้อรรถรส ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับคุณ ม.ประภา ผู้แปลการ์ตูนเรื่องนี้ จากสำนวนที่ซับซ้อนเข้าใจยาก ให้กลายเป็นภาษาที่สละสลวยเข้าใจง่ายขึ้นอีกด้วย

 


ลายเส้น:9.5/10
เนื้อเรื่อง:9/10
ความสนุก+ประทับใจ:9/10
พิเศษ:10/10


quote: แฟนสามก๊กไม่ควรมองข้ามการ์ตูนเรื่องนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนสามก๊กแต่อยากลอง ขอแนะนำว่า ขอให้มีความรู้เรื่องสามก๊กในระดับหนึ่ง จึงจะอ่านเรื่องนี้ได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น

 
free hit counter javascript