10 ปี K-D : สุดยอดอนิเมซีรี่ย์ยอดฮิตในรอบ 10 ปี (2005-2015)

บทความใหม่ ฉลองครบรอบ 10 ปีของเว็บไซต์ K-D กับการบอกเล่าถึงสุดยอดอนิเมเรื่องดังเรื่องเยี่ยม ในช่วงปี 2005-2015 !!!!!

นับตั้งแต่ที่เว็บเราได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี 2005 นั้น ก็มีอนิเมหลากหลายร้อยเรื่องที่ได้ผ่านสายตาคออนิเมกันไป แต่ก็มีอนิเมซีรี่ย์จำนวนหนึ่งที่สามารถสร้างกระแสความดังความแรงอย่างโดดเด่น จนใครต่อใครต่างพูดถึงและประทับใจมิรู้ลืม ซึ่งหากจะหยิบมาพูดทุกเรื่อง ก็คงยาวเป็นเดือนเป็นปีไม่มีวันหมดแน่ๆ ก็เลยขอคัดอนิเมซีรี่ย์ฮิตแห่งปรากฏการณ์ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนหนึ่ง มาพูดถึงกันในบทความพิเศษนี้ ส่วนจะมีเรื่องไหนนั้น ไปติดตามกันเลย!!!

หมายเหตุ :
- นับเฉพาะอนิเมที่เริ่มออกฉายช่วงปี 2005-2015
- อนิเมที่หยิบยกในบทความนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรา หากไม่มีเรื่องโปรดของคุณอยู่ในลิสต์ ต้องขออภัยด้วย (บอกตรงๆ จัดเป็นบทความนึงที่เขียนได้ยากเอามากๆ)
* อนิเมเรื่องยาวที่ฉายติดต่อกันหลายปีอย่าง One Piece , Naruto , Doraemon , Shinchan , Precure ฯลฯ ขอเก็บขึ้นหิ้งเอาไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในใจมหาชนคอการ์ตูนกันอยู่แล้ว


Fate/ stay night

ขอเริ่มต้นด้วยซีรี่ย์มหากาพย์ยื้อแย่งจอกศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างชื่อให้กับ Type Moon อย่างมาก จากเกมแนววิชวลโนเวลที่ขายดิบขายดีที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อปี 2004 สู่การบอกเล่าเรื่องราวอีกรูปแบบหนึ่ง ในรูปแบบของอนิเมซีรี่ย์ การมาของอนิเมซีรี่ย์เรื่องนี้ กลายเป็นหนึ่งในอนิเมโด่งดังสุดๆเรื่องหนึ่งในปี 2006 การมาของเรื่องนี้ ทำให้คออนิเมต่างก็หลงเสน่ห์ไปกับตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ อัศวินสาวสุดแกร่ง อย่าง เซเบอร์ รวมถึง มาสเตอร์คนเก่ง อย่าง ริน ด้วย และจากความสำเร็จของเรื่องนี้เอง ทำให้มีการทำอนิเมภาคต่อๆมา ตั้งแต่ภาคต้นกำเนิดแห่งสงครามแย่งจอก อย่าง Fate Zero ช่วงปี 2011-12 จนถึง Fate/ Stay Night : Unlimited Blade Work ช่วงปี 2014-15 อีกทั้ง เรื่องนี้ยังมีการทำภาคแยกอย่าง Fate/kaleid liner Prisma Illya ที่ได้ อิลยา มาเป็นตัวเอกหลัก แถมยังเปลี่ยนแนวเรื่องไปเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ด้วย


Suzumiya Haruhi

ถัดมา มาถึง อนิเมที่จัดได้ว่าเป็นเรื่องสร้างชื่อและทำเงินให้แก่ Kyoto Animation อย่างมากมาย สำหรับเธอผู้นี้.........สึซึมิยะ ฮารุฮิ!!!!!! นอกจากเนื้อหาจะแหวกแนวไปพร้อมๆกับความเกรียนไฮเปอร์แบบตัวแม่ของ 'พระเจ้า H' ที่มีมาตั้งแต่ฉบับนิยายไลท์โนเวลนั้น ในฉบับอนิเมเธอก็ยังรักษาความเป็นต้นตำหรับเอาไว้ได้อย่างเช่นเคย ซึ่งนอกจากคออนิเมจะจดจำไปกับคาแร็คเตอร์ของฮารุฮิ กันได้ดีแล้ว บรรดาสหาย(ผู้ไม่ปกติ)ของเธอแห่งชมรม SOS ทั้ง นางาโตะ , มิคุรุ , โคอิสึมิ และ เคียวน์ (ยกเว้นตานี้ไว้คน) ก็ยังเป็นที่จดจำของคออนิเมเช่นกัน.... อ้อ!! การมาของอนิเมเรื่องนี้ ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ อายะ ฮิราโนะ ผู้พากย์เสียงเป็น ฮารุฮิ จนมีผลงานการพากย์อนิเมมากมาย รวมถึง เพลงประกอบอนิเมเรื่องนี้ ทั้ง God Know และ Hare Hare Yukai ต่างเป็นเพลงอนิเมสุดฮิตในปีนั้น แถมยังมีคนพากันเต้นเลียนแบบตัวละครในเพลงหลังกันด้วย

และจากความสำเร็จของอนิเมซีรี่ย์เมื่อปี 2006 นี่เอง ก็ทำให้ใครต่อใครต่างรอคอยอนิเมชุดใหม่ของเรื่องนี้ออกมา และ KyoAni ก็ทำให้แฟนๆสมหวัง ด้วยการทำอนิซีรี่ย์ชุดใหม่ เมื่อปี 2009 ซึ่งก็เป็นทั้งรีรันตอนเก่าแบบรีเมค + ตอนใหม่ และที่สำคัญ ยังมาพร้อมกับ 'endless eight' สุดยอดซีรี่ย์ตอนวนลูปที่ทำเอาแฟนๆได้ดูกันจนเอียนกันไปข้างหนึ่ง!!!!!!!!!

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ฉบับไลท์โนเวลของเรื่องนี้ ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเขียนต่อ แต่ ฮารุฮิ ยังมีการทำอนิเม ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ฉบับจอเงิน แล้วก็ อนิเมภาคแยกอย่าง Haruhi chan กับ Nagato Yuki chan ด้วย

 

 

Code Geass

ด้วยการรวมพลังกันระหว่าง Sunrise สตูดิโอผู้สร้าง Gundam อันลือเลื่อง กับ Clamp กลุ่มนักเขียนการ์ตูนรุ่นป้าจอมอาร์ต นั่นเอง ทำให้เกิดสุดยอดอนิเมแนวเมกะอารมณ์เครียดเรื่องนี้ขึ้น!!!!!! กับ Code Geass !!! เรื่องราวของ ลูลูช เด็กหนุ่มผู้มีพลัง Geass ที่สามารถสั่งการใครต่อใครที่อยู่ตรงหน้า ให้ปฏิบัติตามที่ตนเองต้องการได้อย่างไม่ขัดขืน และเขานั้นได้ใช้พลังนี้ในการตามหาคนที่สังหารแม่ของตน พร้อมกับรวมพรรคพวกมาแก้แค้นจักรวรรดิบริททาเนีย เพื่อความสุขของ นันนาลี น้องสาวพิการของตนเอง ในนามของ Zero และตลอดทั้งเรื่องนี้ ทั้งซีซั่น 1 กับ ซีซั่น 2 ก็มีการดำเนินเรื่องได้อย่างหลากหลายอารมณ์ ทั้งความมันส์ การชิงไหวชิงพริบ แล้วก็...........ฉากหักมุมทำร้ายจิตใจแฟนๆ ที่มีอยู่เพียบ!!!!!!!!!! โดยเฉพาะกับการจากไปของตัวละครคนสำคัญๆ อย่างไม่มีใครคาดคิด!!! เล่นเอาใครหลายคนที่ได้ดูต่างพากันช็อค เสียใจไปตามๆกัน!!! แม้เรื่องราวของพวกเขาจะทำให้ผู้ชมรู้สึกจุกปวดตับไตกันไปบ้าง แต่นั่นล่ะคือเสน่ห์หลักของเรื่องนี้ ที่ทำเอาคออนิเมไม่มีวันลืม....

ต่อมาเรื่องนี้มีการทำ OVA ชุด Code Geass: Akito the Exiled ซึ่งเป็นไซด์สตอรี่จากเนื้อหาหลัก

 


Tengen Toppa Gurren Lagann

มาถึงอนิเมหุ่นยนต์สุดแนวประจำปี 2007 ของ Gainax กับเรื่องนี้........ Gurren Lagann อย่าว่าแต่การดีไซน์ ตัวละคร หรือ หุ่นยนต์ ที่ว่าโคตรแนว แนวโคตรๆ แล้ว เนื้อหาของเรื่องนี้ก็ไม่เบาเหมือนกัน!!!!!! กับความพยายามในการทะลุทะลวงสู่สรวงสวรรค์ ต่อสู้กับเหล่าเบื้องบน ของ ชิม่อนและพรรคพวก โดยตลอดทั้งเรื่อง ก็มีคำพูดคำคมสไตล์ลูกผู้ชายมาดเข้มพ่นออกมาบ่อยๆ ทำให้คนดูรู้สึกเร่าร้อน พร้อมหยิบสว่านควงตามไปกับพวกเขาด้วย....แต่ถึงกระนั้น เรื่องนี้มีฉากหักมุม ทำร้ายจิตใจผู้ชม กันได้สุดๆอีกเช่นกัน!!!! จึงเพียงพอแล้วที่จะทำให้เรื่องนี้ คว้ารางวัล Excellence Prize ของ Japan Media Arts Festival 2007 , รางวัลอนิเมทีวียอดเยี่ยม จาก Tokyo International Anime Fair ปี 2008

ในช่วงที่เรื่องนี้ออกฉายทางทีวี ก็ได้รับคำชมเป็นอย่างมากจากบรรดาเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึง ยังช่วยโหมกระแส pop culture ของญี่ปุ่น ในหมู่ต่างชาติในช่วงเวลานั้นด้วย ซึ่งหุ่น Gurren Lagann ยังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบตัวละครหุ่นยนต์ในอนิเมชั่น Transformers Animated เช่นกัน


 

Lucky Star

เรียกได้ว่าเป็นอนิเมที่ปลุกกระแสท้องถิ่นนิยมอย่างแท้จริง สำหรับ 'ดาวโชคดี' Lucky Star !! และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ KyoAni สามารถปลุกปั่นอนิเมจากการ์ตูนสาวน้อยมุกเปิ่นแสนน่ารัก ของ คางามิ โยชิมิสึ ให้กลายเป็นที่รู้จัก เป็นขวัญใจของบรรดาโอตาคุสายสาวน้อยโมเอะไปไม่น้อย!!!! และที่สำคัญ การมาของอนิเมเรื่องนี้ในปี 2007 ก็ช่วยทำเงินสะพัดให้กับ เมืองคุกิ จ.ไซตามะ (ที่ถูกใช้เป็นฉากในการ์ตูน) กลายเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจคึกครื้นคึกคักมากที่สุดในปีนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศาลเจ้า วาชิโนมิยะ ที่สองพี่น้องฝาแฝดฮิอิรากิ มารับจ๊อบเป็นมิโกะ (ในเรื่อง) กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่าโอตาคุ รวมถึง คออนิเม ทั่วสารทิศญี่ปุ่น ต่างพากันมาแสวงบุญกันที่นั่น (หากมีโอกาส) โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่นั้น ก็มานับหมื่นๆ เลยทีเดียว

อ้อ!! อีกทั้งเพลงเปิดอนิเมของเรื่องนี้อย่าง Motteke! Sailor Fuku! ก็จัดเป็นหนึ่งในเพลงอนิเมยอดนิยมที่ชักชวนบรรดาแฟนๆพากันอัดคลิปเต้นตามตัวละครในเรื่องด้วยเช่นกัน

 

 

Inazuma Eleven

มาถึงอนิเมแนวเตะบอลขวัญใจเด็กๆทั่วญี่ปุ่น ของ Level5 จากความสำเร็จของเวอร์ชั่นเกมวีดีโอ สู่เรื่องราวสังเวียนลูกหนังบนจอแก้วกับอนิเมซีรี่ย์ชุดแรกเมื่อปี 2008 จากความเว่อร์สุดติ่งได้ใจคุณน้องคุณหนู จึงทำให้อนิเมเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง จึงมีการจัดทำต่อในภาคต่อๆมา แล้วก็หนังอนิเมจอเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้จัดเป็นอนิเมยุคใหม่เพียงไม่กี่เรื่องที่ช่อง 9 ได้ไล่ทยอยออกฉายจนจะครบทุกภาค (ผิดกะ Precure ที่บ้านเราตามหลังเค้าเยอะ) อีกทั้ง ด้วยคาแร็คเตอร์ตัวการ์ตูนที่ดีไซน์ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน จึงทำให้ตัวละครจากเรื่องนี้ทั้งชายหญิง ต่างเคยติดอันดับต้นๆในชาร์ตตัวละครของนิตยสาร Newtype มาแล้ว โดยเฉพาะกับภาค Inazuma Eleven GO เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเหมาอันดับท็อปหลายสาขาของ Anime Granprix เมื่อไม่กี่ปี เช่นกัน!!

 

 

Fullmetal Alchemist : Brotherhoods

เป็นความโชคดีของคู่พี่น้องเอลริค ที่มีการทำอนิเม 'แขนกล คนแปรธาตุ' เวอร์ชั่นใหม่กว่า ที่ออกฉายเมื่อปี 2009 จนได้รับการพิจารณาเข้าทำเนียบนี้ (อนิเม FMA เวอร์ชั่นแรกสุด ออกฉายปี 2003 ซึ่งยังไงก็ไม่เข้าลิสต์นี้อยู่นี้)...... โดย อนิเมบท Brotherhoods นี้ ก็คล้ายๆกับ อนิเมชุดแรกสุด เพียงแต่ เวอร์ชั่นนี้จะเป็นการรีบู้ต เล่าเรื่องราวการผจญภัยการตามหาหินนักปราชญ์ (หรือศิลานักปราชญ์) ของ เอ็ดเวิร์ด กับ อัลฟอนซ์ (อัลฟอนเซ่) เพื่อทวงสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไป ให้กลับคืนมา ได้อย่างละเอียดยิบ อิงจากมังงะต้นฉบับมากกว่าของเดิม ตั้งแต่ต้นเรื่อง ยันจนจบเรื่อง....จากแอ็คชั่นสุดมันส์ ที่มีมากพอๆกับพล็อตเรื่อง ที่อัดแน่นด้วยแนวคิด ปรัชญา รวมถึง ฉากดราม่า สะเทือนอารมณ์ ของเรื่อง ที่มีมากกว่าเดิม จึงไม่แปลกที่ภาคนี้ จะมีกระแสความดังที่ดีเยี่ยม ไม่แพ้เวอร์ชั่นเก่าเลย

 

 

K-ON!

มาถึงอนิเมอีกเรื่องที่สตูดิโอ KyoAni ส่งเข้าประกวดเช่นกัน และก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจใดๆที่เหล่าก๊วนสาวนักดนตรีแป๋วแหววจะติดในลิสต์นี้ด้วย ก็ต้องยอมรับว่า ฉบับอนิเมของพวกเธอเหล่านี้ที่ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2009 นั้น ได้สร้างกระแสความโด่งดังกันไปทั่ว โดยเฉพาะกับหนุ่มๆสายสาวน้อยโมเอะ เพราะนอกจาก สินค้าต่างๆจากเรื่องนี้ ทั้งสินค้าคาแร็คเตอร์ รวมถึง อัลบั้มเพลงประกอบในเรื่อง ก็ทำเงินจากคนกลุ่มนี้ได้มากโข รวมถึงบรรดาสาวๆตัวหลักในเรื่องอย่าง ยุย ,มิโอะ,ริตสึ,สึมุกิ รวมถึง อาซึสะ(อาซึเนี้ยว) กลายเป็นที่รู้จักของคออนิเม แลวก็มีผลทำให้ฉบับมังงะของ Kakifly ที่แต่เดิมไม่ค่อยมีใครพูดถึง ต่างก็มีแต่คนถามหากันทั่ว และยังสร้างแรงบันดาลใจให้คออนิเมบางส่วนอยากจะลองเล่นดนตรีเหมือนพวกเธอเหล่านี้

จากความสำเร็จอย่างล้นหลามจากอนิเมชุดแรก ทำให้เรื่องนี้มีการทำต่อในอนิเมซีซั่น 2 แล้วก็หนังจอเงิน รวมถึงมังงะ ก็มีการต่อยอดในส่วนของภาคมหาวิทยาลัย กับ ภาครุ่นน้อง ซึ่งเป็นมังงะ 2 ชุดสุดท้ายที่ Kakifly ได้ทิ้งทวน ก่อนจะกลับไปเล่นดนตรีอีกครั้ง สร้างความเสียดายแก่แฟนๆของเรื่องนี้ ที่อยากติดตามวีรกรรมความเปิ่นสไตล์จิบน้ำชายามบ่ายของพวกเธอกลุ่มนี้ต่อไป

 

 

To Aru Majutsu no Index & To Aru Kagaku no Railgun

เนื่องจาก 2 เรื่องนี้ เกิดขึ้นบนโลกเดียวกัน จุดเริ่มต้นนั้นมาจาก นิยายต้นฉบับ Index ของ คาสุมะ คาวาจิ ตามด้วย มังงะภาคแยกชุด Railgun ในเวลาต่อมา ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเม ออกฉายไล่เลี่ยกันอีก ช่วงปี 2008-2009 (จะมีซีซั่น 2 ของทั้งสองเรื่องที่ทิ้งช่วงนานหน่อย ; 2010 กับ 2013) เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนสถานที่ที่เรียกว่า "นครแห่งการศึกษา" ซึ่งมีโรงเรียนหลายโรงเรียนตั้งอยู่ติดกัน แต่ก็เกิดเหตุวุ่นวายทุกวันไม่หยุดหย่อน เนื่องจากฝังวิทย์ กับ ฝั่งเวท ต่างตามล่าตัว แม่ชีน้อย นาม Index ที่คาดว่าจะเป็นตัวอันตรายในอนาคต ทำเอา เด็กหนุ่มหัวเม่นนาม โทมะ ต้องเจอภาระหนักอึ้งเมื่อต้องอยู่กับเธอ โดย Index จะนำเสนอเน้นไปทางฝั่งเวทมนตร์ ขณะที่ Railgun จะนำเสนอฝั่งวิทยาศาสตร์ โดยมี มิซากะ เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก และจะเน้นเรื่องราวสอบสวนมากกว่า ถึงกระนั้น ก็มีตัวละครจากสองเรื่องตางก็ข้ามฝั่งแจมกันไปมา ได้อย่างอรรถรส ซึ่งการมาของทั้งสองเรื่องนี้ ก็เกิดการถกประเด็นน่าสนใจจากแฟนๆ เกี่ยวกับฝั่งเวท และ ฝั่งวิทย์ และจากความดังของอนิเมนั้น มีส่วนให้ นิยายต้นฉบับ Index ของ คาสุมะ คาวาจิ ติดทำเนียบไลท์โนเวลของหนังสือ Kono Light Novel ga Sugoi! ถึง 3 ปี ซ้อน (เคยขึ้นสูงถึง อันดับ 1 ในฉบับปี 2011) ขณะที่ มิซากะ ก็ติดทำเนียบตัวละครหญิงยอดฮิตอันดับ 1 ในหนังสือเล่มนี้หลายสมัยอีกด้วย อีกทั้ง Index ยังมีการทำในรูปแบบหนังอนิเม เช่นกัน

 


Madoka Magica

อนิเมที่สร้างความตกตะลึงพรึงเพลิดพากันปวดแสบเครื่องในกันไปทั่ว ตลอดปี 2011 กับ ตำนานสาวน้อยเวทมนตร์บทใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน!!!!! จากฝีมือการเขียนบทของ เก็น อุโรบุจิ รวมถึงการกำกับจากผกก.สุดแนวอย่าง อาคิยูกิ ชินโบ ทำให้เรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ ได้ถือกำเนิดเป็นเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์สายดาร์ก มืด(มน)ขนาดแท้ โดยตลอดทั้งเรื่องจะเน้นนำเสนออความดาร์ก ความมืดมน เต็มไปด้วยฉากโหดร้าย สิ้นหวัง แทบจะลบภาพลักษณ์ความสดใสร่าเริงของสาวน้อยเวทมนตร์ซะมิดเลย และจากความแนวที่เกิดขึ้น จึงทำให้ใครหลายคน พากันติดงอมไปตามๆกัน จากกระแสความดังที่เกิดขึ้นของสาวน้อยมาโดกะ ทำให้สินค้าของพวกเธอต่างขายดีกันเทน้ำเทท่า รวมไปถึง การคว้าถึง 12 สาขารางวัลของ Newtype Anime Awards ในปีนั้น และด้วยความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้เรื่องนี้กำลังจะมีโปรเจ็คหนังไตรภาคตามมา

จากการมาของเรื่องนี้ นอกจากบรรดาสาวน้อยเวทมนตร์อย่าง มาโดกะ , โฮมุระ และผองเพื่อน กลายเป็นตัวละครยอดนิยมแล้ว ก็ยังทำให้ คิวเบย์ สัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ เจ้าของวลี "อยากจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ จงมาทำสัญญากับกระผม" กลายเป็นตัวละครที่ใครหลายคนรู้สึกหมั่นไส้ในสายตาของแฟนๆ เช่นกัน

 

 

Sword Art Online

เรื่องราวของเกมออนไลน์บนโลกจอแก้วนั้น ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในช่วงปี 2012 จากการที่เรื่องราวของอนิเมชุดนี้ ค่อนข้างจะโดนใจคออนิเม (โดยเฉพาะพวกขาเกมออนไลน์) ไปตามๆกัน พร้อมกับลุ้นเอาใจช่วยคู่พระนาง คิริโตะ - อาสึนะ สามารถเคลียร์เกม Sword Art Online (SAO) ให้ได้ พร้อมกับเปิดโปงเหล่าคนชั่วร้ายตัวจริงที่ทำให้อีเว้นต์ต่างๆที่ปรากฏขึ้น ถึงคราปั่นป่วน.......และจากความสำเร็จของอนิเม SAO (ที่บ้านเราเรียกเล่นๆว่า อบต.) ก็ส่งผลดีในหลายๆอย่าง ทั้งไลท์โนเวลต้นฉบับเรื่องนี้ของ เรกิ คาวาฮาระ รวมถึงเรื่อง Accel World ต่างมียอดตีพิมพ์ ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเรื่องนี้ยังได้รับการยกย่องเป็นไลท์โนเวลน่าอ่านที่สุด เป็นอันดับที่ 1 ประจำปี 2012 จากนิตยสาร Kono Light Novel ga Sugoi 2013 แล้วก็ คิริโตะ กับ อาสึนะ ต่างก็ขึ้นทำเนียบกลายเป็นตัวละครชายหญิงขวัญใจอันดับ 1 ของนิตยสาร Newtype เช่นกัน รวมถึงยังมีการต่อยอดเรื่องราว ในรูปแบบอนิเมจอเงินด้วย

ไม่เพียงแค่นั้น เรื่องนี้ยังสร้างปรากฏการณ์ความดังข้ามประเทศไปยังประเทศไทย โดยเฉพาะกับงานมหกรรมหนังสือฯ เมื่อ ต.ค. 2012 ก็มีแฟนๆจำนวนนับร้อย ต่างก็สนใจเข้าแถวรอคิวซื้อฉบับนิยายของ SAO กันเป็นแถวยาวเหยียดเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนักในวงการวรรณกรรมแปลไทยเลยทีเดียว!!

 

 

Kuroko no Basket

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ จะไม่ได้พูดถึงอนิเมแนวกีฬาชวนจิ้นบรรดาหนุ่มหล่อนั้น มันก็กระไรอยู่? โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็มีอนิเมแนวกีฬาจำนวนหนึ่งที่สร้างกระแสความกรี๊ด ความฟิน ในหมู่ผู้ชมสาวๆได้ ซึ่งมีตั้งแต่ หนุ่มนักว่ายน้ำ Free! , หนุ่มนักตบลูกยางวอลเลย์ Haikyu!! , หนุ่มนักปั่นจักรยาน Yowamushi Pedal หรือ โอตาคุน่องเหล็ก รวมถึง ก๊วนนักบาสจาก Kuroko no Basket เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ ก็รู้สึกรักพี่เสียดายน้อง เลือกกันไม่ถูกเลย เพราะแต่ละเรื่องต่างก็มีกระแสความดังที่ไม่ต่างกันนัก ซึ่งในที่สุด เราเลยกัดฟันเลือกกลุ่มนักบาสรุ่นปาฏิหารย์ทีมนี้!!!!!! ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมาของหนุ่มจืดจางคุโรโกะ กับ ผองเพื่อนแห่งทีมปาฏิหารย์ ได้สร้างความดังกันไปทั่ว นอกจากมังงะ-อนิเมจะขายดิบขายดีแล้ว ยังฟันกำไรจากสินค้าคาแร็คเตอร์ สินค้าที่เกี่ยวข้องของพวกเขาอีกเพียบเลย อย่างไรก็ตาม มีช่วงหนึ่งที่พวกคุโรโกะได้กระแสความเห็นใจจากคอการ์ตูนไปทั่ว อันเนื่องมาจากมีการส่งจดหมาย วัตถุต้องสงสัย ข่มขู่ไปยัง สถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ อ.ทาดาโทชิ ฟูจิมากิ จากบุคคลผู้ไม่หวังดี แม้จะโดนข่มขู่คุกคามถึงขนานนั้น แต่ อ.ฟูจิมากิ หาได้สนใจไม่ เขายังคงสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อ จวบจนกระทั่ง คนร้ายตัวจริงถูกรวบตัว ส่วน อ.ฟูจิมากิ ก็ได้เคลียร์บทสรุปของเรื่องนี้ช่วงกลางปี 2014 ในช่วงที่เรื่องนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอยู่..... ซึ่งในช่วงที่เรื่องนี้ถูกคุกคามอยู่นั้น ก็ทำเอาบรรดางานโดจินชิ หลายงาน ถึงกับสูญเสียรายได้กันเยอะทีเดียว!!

 


Attack on Titan

มาถึงอนิเมที่สร้างปรากฏการณ์ความดังถึงขีดสุดในช่วงปี 2013 ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีแต่คนพูดถึง 'ไททัน' กันสนั่นเมือง สำหรับซีรี่ย์การ์ตูนอนิเมไล่ปราบยักษ์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นผลจากการที่ซีรี่ย์มังงะแนวแอ็คชั่นของ อ.ฮาจิเมะ อิซายามะ ได้รับความนิยมอย่างสูง จนได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์ และด้วยความพิถีพิถัน คุณภาพเยี่ยมแทบจะทุกอย่างของอนิเมชุดนี้เอง กอปรกับเนื้อเรื่องที่มีทั้งแอ็คชั่นมันส์ๆ ไปพร้อมๆกับฉากหักมุมจิตตกสิ้นหวัง เลยทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ไททันฟีเวอร์" ทั่วทั้งเมือง ซึ่งการมาของฉบับอนิเมซีรี่ย์ของผ่าพิภพไททัน ทำให้ฉบับหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้มีพัฒนาการในด้านยอดตีพิมพ์และยอดขายที่พุ่งทะลุยิ่งขึ้น รวมถึงมีการต่อยอดในฉบับนิยายกับมังงะภาคแยกอีกจำนวนหนึ่ง แล้วก็ยังทำให้เพลงเปิดอนิเมเพลงแรกอย่าง Guren no Yumiya ของ Linked Horizon กลายเป็นเพลงอนิเมที่ฮ็อตฮิตที่สุดประจำปีนั้นไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้มีการนำไปดัดแปลงในรูปแบบหนังคนแสดง 2 ชุดด้วย เสียแต่ว่าฟีดแบ็คนั้น ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร (ทั้งที่ตัวหนังเปิดตัวครั้งแรกด้วยอันดับ 1 ในญี่ปุ่น) เนื่องจากตัวละครสุดโปรดจากฉบับการ์ตูนจำนวนนึง ดันไม่ยอมปรากฏในเวอร์ชั่นคนแสดงซะนี่!! ถึงกระนั้นจากกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นกับไททันนั้น ก็ ถือเป็นปรากฏการณ์หนึ่งแห่งศตวรรษนี้เลยทีเดียว!!!!!!!!!! จากการรายงานข่าวบนเว็บไซต์นิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine

 


Love Live!

เหล่าไอด้อลสาวน้อยวัยใส จัดเป็นอนิเมอีกเรื่องที่ดึงดูดบรรดาผู้ชมหนุ่มๆ มากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอนิเมชุดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คสื่อผสมที่ นิตยสาร Dengeki G's Magazine, ค่ายเพลง Lantis และ สตูดิโอ Sunrise ได้ร่วมกันทุ่มสุดตัว ช่วงปี 2010 พร้อมกับให้แฟนๆมีส่วนร่วมในการกำหนดคาแร็คเตอร์ตัวละครสาวๆด้วย (ผ่านการโหวต) แต่กว่าที่พวกเธอจะได้โลดแล่นในรูปแบบอนิเมได้นั้น ก็ต้องรอถึงปี 2013 ก่อนจะมีซีซั่น 2 ตามมาในปี 2014 เลย ซึ่งการมาของพวกเธอนั้น ก็มาแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยอดขายซิงเกิ้ล ยอดขายอัลบั้มเพลง ที่โกยกันอย่างต่อเนื่อง จนสร้างสถิติใหม่ให้ตนเอง รวมถึง ยังทำเงินจากสินค้าคาแร็คเตอร์ได้อย่างงดงาม เท่านั้นไม่พอ หนังอนิเมจอเงิน ที่ออกฉายปี 2015 ก็มาแรงไม่แพ้กันทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ อีกทั้ง บรรดาตัวละครสาวๆแห่ง μ's (Muse) ต่างก็ติดทำเนียบตัวละครขวัญใจหนุ่มๆชาวญี่ปุ่น แทบจะทุกโพล หลากหลายหัวข้อเลย....ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเธออยู่ในใจของเหล่าสาวก Liver อีกนานเท่านาน!!!!!

 


Yokai Watch

ปิดท้ายลิสต์นี้ กันด้วยซีรี่ย์อนิเมที่กลายเป็นขวัญใจหนูน้อยชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กับเรื่องนี้!!!!! โดยซีรี่ย์ตามหา-ผูกมิตรกับเหล่าวิญญาณภูตผี ผ่านนาฬิกาข้อมือดังกล่าว เป็นโปรเจ็คที่ผุดขึ้นมาโดย Level 5 บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเกม-อนิเม นักเตะแข้งสายฟ้า Inazuma Eleven ที่เตะกันระเบิดระเบ้อสะเทือนแผ่นดินเกาะญี่ปุ่นมาแล้ว โปรเจ็คนี้เริ่มต้นครั้งแรกกับฉบับมังงะ เมื่อปลายปี 2012 ก่อนจะมีการทำต่อในรูปแบบเกมวีดีโอ กับ อนิเมซีรี่ย์ ตามลำดับ

โดยอนิเมออกฉายเมื่อปี 2014 และด้วยเรื่องราวของ Yokai Watch ที่ค่อนข้างจะเข้าใจง่าย เข้าถึงง่ายในหมู่เด็กๆและคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงตัวละครภูตผีนั้น ก็มีการออกแบบที่น่ารัก มีจำนวนมากกว่า 10 กว่าตัวอีก จึงไม่แปลกที่ซีรี่ย์ชุดนี้จะเป็นที่ดึงดูด ล่อตาล่อใจ คนอ่านวัยเด็ก มากมายอย่างถล่มทลาย ซะจนติดทำเนียบเป็นสุดยอดตัวการ์ตูนขวัญใจของเด็กๆอีกเรื่องหนึ่ง เทียบเท่ากับ อันปังแมน ที่เป็นขวัญใจของเด็กญี่ปุ่นเสมอต้นเสมอปลายมานาน ซึ่งมีผลทำให้ สินค้าจากเรื่องนี้ กลายเป็นแบรนด์สินค้าที่มีรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น เมื่อปี 2014 เท่านั้นไม่พอ ฉบับอนิเมจอเงินของเรื่องนี้ ทำสถิติเป็นหนังที่มียอดจำหน่ายตั๋วสูงที่สุดตลอดกาลของ TOHO ไปเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน รวมถึง ลีลาการเต้นของหนูน้อยเคตะ กับ เหล่าผี นั้น ก็ชวนเอาน้องๆหรืใครหลายคนในญี่ปุ่น พากันเต้นระบำตาม เช่นกัน

 




kartoon-discovery.com
Nov 2015


 
free hit counter javascript