One Hit Wonder - Mangaka :เขียนมาแทบตาย สุดท้ายดังอยู่เรื่องเดียว

ป.ล.บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความนี้เท่านั้น กรุณาใช้วิจารณญานของท่านด้วยครับ
ป.ล.นับเฉพาะนักเขียนการ์ตูนที่มีผลงานเรื่องยาวมากกว่า 2 เรื่อง
ป.ล. สำหรับเรื่องที่มีหลายภาค เราขอนับเป็นซีรี่ย์เดียว

One Hit Wonder คือศัพท์เฉพาะของวงการบันเทิงที่สื่อถึงศิลปินผู้ที่มีผลงานดังเปรี้ยงปร้างอยู่ชิ้นเดียว ชนิดที่กลบความดังผลงานอีกหลายชิ้นของศิลปินผู้นั้นซะเสียชนิด ซึ่งคำๆนี้ มักจะใช้กับศิลปินนักร้องผู้มีซิงเกิ้ลฮิตอยู่เพลงเดียว 

ในวงการการ์ตูนก็เช่นเดียวกัน ก็มีนักเขียนการ์ตูนจำนวนหนึ่งที่มีผลงานการ์ตูนจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็มีซีรี่ย์ที่ฮิตติดลมบนสุดๆเพียงเรื่องเดียว ในตลอดการทำงานบนเส้นทางสายนักเขียนการ์ตูน ชนิดที่พากันลืมเลือนผลงานซีรี่ย์เรื่องอื่นๆของนักเขียนผู้นั้นซะชนิดเลย  ซึ่งนักเขียนการ์ตูนที่เข้าข่าย One Hit Wonder นี้ ก็มีอยู่ด้วยการหลายคน แต่เพื่อความแฟร์ (กับเพื่อสะดวกในการเขียนบทความนี้)  เราจะพิจารณาเฉพาะนักเขียนการ์ตูนผู้มีผลงานการ์ตูนเรื่องยาวมากกว่า 2 เรื่องด้วยกัน


โยอิจิ ทาคาฮาชิ

One Hit  Wonder  Serie :  Captain Tsubasa Serie

ประเดิมกับคนแรก เชื่อขนมกินได้ว่า หลายคนเห็นชื่อนี้คงจะเห็นหน้า "โอโซระ ซึบาสะ" ลอยมาแต่ไกลเลย  และตลอดชีวิตนักเขียนการ์ตูนของเขา ก็คงคล้ายๆกับการที่ซึบาสะมองลูกฟุตบอลเป็นเพื่อนรักฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น  เพราะเขายังคงขุดซีรี่ย์ซึบาสะมาแต่งเติมเรื่องราวสืบสานตำนานโดยตลอดอยู่เนืองๆ ไม่เพียงเฉพาะเรื่องราวของซึบาสะเท่านั้น ยังรวมถึงเรื่องราวของนักเตะคนอื่นๆ เพื่อนร่วมทีมชาติของซึบาสะในการ์ตูนสั้นด้วย แม้ว่า อ.ทาคาฮาชิ จะมีผลงานเรื่องอื่นที่ได้ถูกทำเป็นอนิเมอย่าง  Hungry Heart: Wild Striker  ก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนใหญ่ยังคงนึกถึงซึบาสะกันอยู่ดี หากพูดถึงผลงานการ์ตูนของ อ.ทาคาฮาชิ

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Hungry Heart: Wild Striker , 100 M. Jumper , Ace! ,Chibi ,Sho no Densetsu

 

โทรุ ฟูจิซาว่า

One Hit  Wonder  Serie :  GTO Series

แม้ช่วงหลัง เขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนคนขยันแห่งยุค ที่มีผลงานต่างๆมากมายในช่วงหลังๆ  แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่มีเรื่องไหนที่จะเด่นดังเท่ากับ GTO อีกแล้ว  และด้วยวีรกรรมวีรเวรของคุณครูโอนิสึกะนั้น ได้สร้างกระแสความนิยมชมชอบในหมู่ผู้อ่านวัยรุ่น ไปพร้อมๆกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มคนนอกอีกเช่นกัน  ซึ่งต่อมาเรื่องนี้ได้ถูกไปทำในเวอร์ชั่นต่างๆ เช่น อนิเม , ละครซีรี่ย์ และ หนังจอเงินคนแสดง รวมถึงยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับละครไทยเรื่องนึงอีกเช่นกัน  และหลังจาก GTO จบลง อ.ฟูจิซาว่า ก็มีผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึงอย่าง Rose Hip Rose , Rose Hip Zero   , Tokko  ฯลฯ ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้ยังคงรักษาสไตล์ความดิบเถื่อนรุนแรง (เผลอๆจะมากกว่า GTO)  หรือไม่ก็พยายามกลับมาเขียนผลงานที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับ GTO อย่าง Kamen Teacher ก็แล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จซักเรื่อง (เท่านั้นไม่พอ Rose Hip Rose ยังโดนต้นสังกัดสั่งตัดจบ-แก้ไขเนื้อเรื่องใหม่ เนื่องจากเนื้อเรื่องรุนแรงเกิน)  จนกระทั่ง อ.ฟูจิซาว่า จึงตัดสินใจกลับมากินบุญเก่ากับครูโอนิสึกะอีกครั้ง กับภาค Shonan 14 Days  แต่การตอบรับนั้นยังไม่ดีเท่าภาคแรก ปัจจุบัน อ.ฟูจิซาวะ กำลังปลุกปั้นคุณตำรวจจอมฉ้อฉล ซาเอจิมะ เพื่อนซี้ของโอนิสึกะ  เป็นพระเอกเต็มตัวในซีรี่ย์    Ino-Head Gargoyle

อนึ่ง อ.ฟูจิซาว่า ยังมีผลงานเรื่อง   Shonan Junai Gumi  (คู่คนลุยเลอะ) , Bad Company  ซึ่งทั้งสองเรื่องต่างเป็นการ์ตูนที่มีตัวละครและเนื้อหาเชื่อมโยงกับ GTO  ด้วย แต่ถึงกระนั้น ถ้าไม่ได้ความโด่งดังของ GTO แล้วล่ะก็  บ้านเราคงไม่มีทางได้สัมผัสและรับรู้เรื่องราววีรกรรมเบื้องต้นสมัยที่โอนิ สึกะเป็นเด็กนักเรียนสุดโจ๋ล่ะน่า!!!

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Rose Hip Rose , Rose Hip Zero , Tokko,Kamen Teacher,Tooi Hoshi kara Kita ALICE  ฯลฯ


ฮิโรยูกิ ทาเคอิ

One Hit  Wonder  Serie :  Shaman King

นักเขียนการ์ตูนผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ช่วยของ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ (ซามูไรพเนจร) ก่อนที่เขาจะมาดังเปรี้ยงปร้างกับชาแมนคิง (ราชันแห่งภูต) นั้น ก็เคยเปิดตัวด้วยซีรี่ย์เรื่องยาวเรื่องแรกของเขาอย่าง Butsu Zone  ทว่าการ์ตูนเทพพันมือก็ถูกตัดจบเพียงแค่ 3 เล่มเท่านั้น และจากความมีมลทินกับผลงานแรก ก็ทำให้นักเขียนผู้นี้กลายเป็นนักเขียนต้องสาป ทำให้ผลงานเรื่องต่อๆมาของเขา มีอันถูกตัดจบเกือบทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ชาแมนคิง ซึ่งเป็นเรื่องยอดนิยมในสมัยนั้น แต่จู่ๆกลับมาจบแบบปาร์ตี้ปาหมอนซะ เล่นเอาแฟนๆถึงกับแค้นเคืองไปตามๆกัน  ทำให้ชาแมนคิงยังคงเป็นซีรี่ย์การ์ตูนของอ.ทาเคอิ ที่มีคนพูดถึงกันอยู่เสมอ ทั้งในแง่ความประทับใจ และ ฉากจบปาหมอนอันเลื่องลือ !!!!   อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้มีการนำชาแมนคิงไปตีพิมพ์ใหม่ในรูปแบบ Kanzenban ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขเนื้อหาบทสรุปให้ดีกว่าเดิม  ซึ่งนักอ่านบ้านเราคงจะได้สัมผัสกันในอนาคต....

ปัจจุบัน อ.ทาเคอิ ยังคงมีผลงานเรื่อง Ultimo ลงตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องในนิตยสารการ์ตูน แต่ความนิยมของซีรี่ย์นั้น ดูจะราบเรียบเกินไปหน่อย แม้ว่าจะได้ Stan Lee  ผู้แต่งซีรี่ย์มาร์เวลซุปเปอร์ฮีโร่หลากเรื่อง มาช่วยแต่งเรื่องให้ก็ตามที จน อ.ทาเคอิ อดไม่ได้ที่จะกลับมาหากินกะชาแมนคิงอีกครั้ง กับตอนพิเศษ (Shaman King 0 , Shaman King Flowers) ลงในนิตยสาร Jump X

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Butsu Zone , Jumbor , Ultimo


ฮิโรฮิโกะ อารากิ

One Hit  Wonder  Serie :  JoJo Series

สำหรับคนนี้ต้องบอกว่า เกิดมาเพื่อโจโจ้จริงๆนะแหละ เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเขียน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ นั้น เขาเคยมีผลงานซีรี่ย์จำนวนนึง แต่ก็ไม่ติดหูเลยซักเรื่อง จนกระทั่งมาเริ่มลงตัวจุดไฟติดกับโจโจ้นี่ล่ะ และจากความสำเร็จของโจโจ้ภาคแรก จึงทำให้โจโจ้มีซีรี่ย์ภาคต่ออีกหลายภาคอย่างต่อเนื่องในตลอดระยะเวลา 25 ปี นับจากโจโจ้ภาคแรกตีพิมพ์เมื่อปี 1987  จนไม่สามารถบอกได้ว่าซีรี่ย์ปลดปล่อยสแตนด์สุดฮิตเรื่องนี้จะสิ้นสุดลงยัง ไง?  และจากการที่ อ.อารากิ ยังคงผูกพันกับบรรดาตัวละครในโจโจ้มาก  จึงทำให้ผลงานชิ้นอื่นๆของเขายังคงสลัดภาพของโจโจ้ไม่ออกอยู่ดี โดยเฉพาะกับ Steel Ball Run ที่แรกเริ่มเดิมที อ.อารากิ ต้องการจะให้เป็นซีรี่ย์ใหม่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจโจ้เลย แต่จากการที่เรื่องนี้ ยิ่งเขียนยิ่งผูกกับโจโจ้ภาคก่อนหน้า รวมถึง มีชื่อตัวละครจากโจโจ้โผล่มามากขึ้น จึงทำให้ อ.อารากิ ถือโอกาสประกาศให้ Steel Ball Run  รวมเป็นซีรี่ย์นึงของโจโจ้ พร้อมกับย้ายนิตยสารเล่มใหม่ซะเลย!! ปัจจุบัน อ.อารากิ ยังคงเขียนซีรี่ย์โจโจ้อย่างต่อเนื่อง กับ ภาคล่าสุด JoJolion

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Buso Poker , Autoto Man ,Virginia ni Yohroshiku ,Magic Boy B.T. ,Baoh  ฯลฯ


คัตซึฮิโระ โอโตโมะ

One Hit  Wonder  Serie :  Akira

สำหรับนักเขียนท่านนี้ เรื่องประสบการณ์และฝีมือคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาผู้นี้ได้ปลุกปั้น Akira การ์ตูนไซไฟเนื้อหาเข้มข้น ให้กลายเป็นที่รู้จักของใครต่อใครในยุคนั้น และยังได้รับการยอมรับจากบรรดาคอการ์ตูนทั่วโลกอย่างกว้างขวาง จนได้รับความสนใจจาก Warner Bros. กับ ลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ้ ในการที่จะนำเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นหนังฮอลลิวู้ดตามมา แต่โปรเจ็คนั้นก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ....ส่วนผลงานเรื่องอื่นๆของอ.ท่านนี้ แม้จะไม่ค่อยมีใครพูดถึงหรือรู้จัก แต่ก็ยังคงความยอดเยี่ยมเอาไว้ จนได้ลุ้นรางวัลระดับนานาชาติ อาทิ  Domu ,  The Legend of Mother Sarah เป็นต้น

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Domu ,  The Legend of Mother Sarah ฯลฯ


สึคาสะ โอชิม่า

One Hit  Wonder  Serie :  Shoot!

ส่วน นักเขียนหญิงท่านนี้ ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Shoot !  ซึ่งเป็นการ์ตูนฟุตบอลที่ผสมผสานเรื่องราวของเกมการแข่งขันในสนาม กับเรื่องราวดราม่าชีวิตของวัยรุ่นได้อย่างลงตัว และจากฉากสุดช็อคคาสนามของคุโบนี้เอง ทำให้เรื่องนี้มีเรตติ้งที่ดียิ่งขึ้น จึงทำให้เรื่องนี้ได้ถูกนำไปทำเป็นอนิเม ต่อด้วย การสร้างตำนานบทใหม่ในมังงะภาคต่อ  หลังจาก Shoot ได้ปิดฉากตำนานบนพื้นสนามหญ้าเมื่อปี 2003  อ.โอชิม่า ก็พยายามจะเข็นซีรี่ย์การ์ตูนกีฬาชนิดอื่นๆนอกจากฟุตบอล อย่าง Stay Gold (เทนนิส) กับ Attack! (วอลเล่ย์บอล) ให้ฮิตติดลมบน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Stay Gold , Attack

 

 

ยูเดะทามาโกะ (ทาคาชิ ชิมาดะ กับ โยชิโนริ นาคาอิ)

One Hit  Wonder  Serie :  Kinnikuman Series

ไม่น่าเชื่อว่า นักเขียนเจ้าของนามปากกา "ไข่ต้ม" คู่นี้ ก็มีผลงานการ์ตูนซีรี่ย์จำนวนมากเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้น คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงซีรี่ย์การ์ตูนมวยปล้ำพิทักษ์โลกอย่าง คินนิคุแมน  มากกว่าเป็นแน่ เพราะเป็นซีรี่ย์ที่ทำให้พวกเขาได้แจ้งเกิดจริงๆจังๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ลองผิดลองถูกกับแนวการ์ตูนที่เหมาะสมและถนัดไปกับเรื่องสั้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งพอทั้งคู่ได้ปิดฉากการต่อสู้ของคินนิคุแมนรุ่นแรกแล้ว ซีรี่ย์เรื่องอื่นๆของเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แม้แต่ Tatakae!! Ramenman ที่พวกเขาอุตส่าห์ดัน ราเม็งแมน ตัวละครเด่นคนหนึ่งจากคินนิคุแมนมาฉายเดี่ยวก็แล้ว แต่เรื่องนีก็ดังแบบเงียบๆไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ แม้จะได้ลงตีพิมพ์ลงใน Fresh Jump  ยาวนานถึง 7 ปี แถมยังได้ทำเป็นอนิเมทีวีด้วยก็ตาม จนในที่สุด ยูเดะทามาโกะ จึงตัดสินใจกลับมาสืบสานตำนานยอดนักมวยปล้ำฝ่ายธรรมะ ด้วยการดันซีรี่ย์ทายาท คินนิคุแมนรุ่น 2 ออกมา (ส่วนบ้านเราก็ได้สัมผัสซีรี่ย์รุ่น 2 เพียงภาคแรกเท่านั้น จากนั้นก็หายไปกับสายลม) ขณะที่ซีรี่ย์ต้นตำหรับรุ่นพ่อ ก็กลับมาลงตีพิมพ์ในนิตยสารออนไลน์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011

   ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง :Tatakae!! Ramenman ,Yūrei Kozō ga Yattekita! ,Scrap Sandayū ,Kick Boxer Mamoru ,Total Fighter Kao ,Lion Heart ,Guruman-kun


โทโมโกะ นิโนมิยะ

One Hit  Wonder  Serie :  Nodame Cantabile

กว่าที่ อ.โทโมโกะ นิโนมิยะ จะประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ  Nodame Cantabile นั้น เธอได้มีประสบการณ์จากผลงานการ์ตูนหลากเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นก็ดังในหมู่คนอ่านเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ (แม้บางเรื่องจะมีจำนวนรวมเล่มถึง 10 เล่ม ก็เถอะ) จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้รับจดหมายแนบรูปถ่ายของสาวน้อย "โนดะ เมงุมิ"  ซึ่งเป็นรูปของเธอที่กำลังนั่งเล่นเปียโนอยู่ท่ามกลางห้องพักอันสุดแสนจะรก!!!  และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของ อ.นิโนมิยะ  ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนโรแมนติคสุดบ๊องเคล้า เสียงดนตรี อย่าง Nodame Cantabile (วุ่นรักนักดนตรี) ขึ้นมา  และกลายเป็นการ์ตูนเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธออย่างสูง ทำรายได้จากยอดขายรวมเล่มมากมาย ถึงขนาดถูกนำไปทำเป็นอนิเม ละครคนแสดง และ หนังคนแสดงตามมา  และจากความดังของ โนดาเมะ นี่เอง ทำให้นักอ่านการ์ตูนบ้านเรา ต่างก็ได้สัมผัสกับผลงานเรื่องอื่นๆของ อ.นิโนมิยะด้วย อาทิ  Green (รักนี้มีคลอโรฟิลด์ - สนพ.เนชั่นฯ) , Tensai Family Company (บ้านบ๊องต๊องไม่จำกัด - สนพ.TKO)  และ  87 Clockers ของ สนพ.เนชั่นฯ

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Tensai Family Company,Green , 87 Clockers ฯลฯ


ยูริโกะ นิชิยาม่า

One Hit  Wonder  Serie :  Harlem Beat

รายต่อมาก็คือ นักเขียนหญิงคนนี้ ผู้ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการวาดตัวละครได้ทันสมัยคนหนึ่ง (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) ซึ่งผลงานของอ.นิชิยาม่า ที่ใครต่อใครต่างรู้จักมากที่สุด คงหนีไม่พ้น Harlem Beat อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย แม้ว่าความดังของเรื่องนี้อาจยังไม่ถึงระดับได้ทำเป็นอนิเม (แต่เคยถูกนำไปสร้างเป็นเกมวีดีโอลงเครื่อง PS)  แต่อย่างน้อย การ์ตูนบาสเรื่องนี้ ถือเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่วัยรุ่นชาวญี่ปุ่นและชาวไทย ในยุคที่การ์ตูนสแลมดังก์กำลังได้รับความนิยม หลังจากฮาร์เลมบีทจบลง อ.นิชิยาม่า ก็มีผลงานเรื่องอื่นๆตามมา เช่น ดราก้อนว้อยซ์  กับ เจ้าชายจอมฉุนกับสิงห์นักตบ (JUNJYOU KAREN NA ORETACHI DA!) ถึงแม้ ดราก้อนว้อยส์จะนำเสนอจุดขายแปลกใหม่กับเสียงแปลกๆของพระเอกกับเรื่องราววง การบันเทิง กับเจ้าชายจอมฉุนฯ ที่นำเสนอวอลเลย์บอลเป็นจุดขายกับเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับฮาร์เลมบีทก็แล้ว  แต่ทั้งสองเรื่องนี้ต่างก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร  ปัจจุบัน อ.นิชิยาม่า ก็มีผลงานการ์ตูนเรื่อง Japonica no Arukikata กับบรรยากาศที่เกิดขึ้น ณ ประเทศลาว ลงในนิตยสาร Evening รวมถึงยังรับหน้าที่เป็นคนออกแบบตัวละครให้กับเกมวีดีโอบางเกมอีกด้วย

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Dragon Voice , JUNJYOU KAREN NA ORETACHI DA!,Queen's Butler Karin ฯลฯ

นาโอโกะ ทาเคอุจิ

One Hit  Wonder  Serie :  Sailor Moon Series

สำหรับคนนี้ ถ้าจะติดอยู่ในลิสต์นี้ ก็ไม่แปลกใจอะไร สำหรับ อดีตศรีภรรยาของ อ.โยชิฮิโระ โทงาชิ  ผู้แต่ง Hunter X Hunter , Yu Yu Hakusho  เพราะ ไม่มีซีรี่ย์เรื่องไหนๆของอ.ทาเคอุจิ ที่จะโด่งดังถล่มทลายเท่าเซเลอร์มูนอีกแล้ว   ซึ่งในช่วงแรกๆที่เธอก้าวเข้ามาในวงการการ์ตูนนั้น เธอได้แต่งการ์ตูนแนวรักโรแมนติคธรรมดาๆ ที่น้อยคนนักจะจำได้  แต่สำหรับผลงานซีรี่ย์ชุด  Codename: Sailor V นั้น แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ดังมากนัก แต่ก็ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ อ.ทาเคอุจิ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความดังของเซเลอร์มูน  และตัวละคร Sailor V ในเรื่องดังกล่าว ก็มาปรากฏตัวใน เซเลอร์มูน ในนามของเซเลอร์วีนัส คอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเซเลอร์มูน และเหล่าอัศวินเซเลอร์คนอื่นๆ  ซึ่งซีรี่ย์เซเลอร์มูนนั้นได้ทำกำไรมหาศาลแก่เธอผู้นี้   ไม่ได้ดังเพียงเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น  แต่ดังไปทั่วโลก ซึ่งความดังของเซเลอร์มูน ก็ส่งผลให้ Sailor V ฉบับตีพิมพ์ใหม่ในภาษาอังกฤษ ขายดิบขายดีที่อเมริกาอีกด้วย

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Chocolate Christmas ,Maria,The Cherry Project,Codename: Sailor V ฯลฯ


ริโยโกะ อิเคดะ

One Hit  Wonder  Serie :  The Rose of Versailles

สำหรับนักเขียนการ์ตูนหญิงรุ่นลายครามผู้นี้ ก็มีผลงานการ์ตูนแนวโชโจมากมายหลายเรื่อง แต่เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับ อ.อิเคดะ มากที่สุด คงหนีไม่พ้น The Rose of Versailles หรือ กุหลาบแวร์ซายส์ ซึ่งถือเป็นการ์ตูนผู้หญิงดราม่าหนัก อิงประวัติศาสตร์ ที่บรรดานักอ่านการ์ตูนทั่วโลกต่างก็ซูฮกไปตามๆกัน  พร้อมกับรู้สึกนิยมชมชอบ "เลดี้ ออสการ์"  หญิงสาวผู้มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ราวกับชายหนุ่มเช่นกัน  ซึ่งผลงานเรื่องกุหลาบแวร์ซายส์เรื่องเดียวของเธอนั้น ก็คว้ารางวัลเกียรติคุณมาประดับมากมาย และต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นอนิเม , ภาพยนตร์คนแสดง และ ละครเวที  อย่างไรก็ตาม อ.อิเคดะ ก็มีผลงานการ์ตูนอีกเรื่องที่บางคนพอจะรู้จักและผ่านตาบ้าง อย่าง Oniisama e  (แด่พี่ชายที่รัก) ซึ่งเคยมีฉบับอนิเมออกฉายบ้านเราทางช่อง 9 อีกด้วย

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Bara Yashiki no Shōjo,Soyo Kaze no Mary,Shōko no Etude,Claudine,Oniisama e ฯลฯ


ชิเงรุ มิซึกิ

One Hit  Wonder  Serie :  GeGeGe no Kitaro

ตลอดชีวิตของ อ.มิซึกิ นั้น ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย นับตั้งแต่เรื่องราวในสมรภูมิรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทำให้เขาได้รู้จักกับมาลาเรีย พร้อมกับสูญเสียแขนข้างซ้ายจากแรงระเบิด ,ชีวิตหันเหไปเป็นพนังงานในโรงหนัง จวบจนกระทั่งชีวิตมาลงตัวในฐานะนักเขียนการ์ตูนจ้าวแห่งแนวสยองขวัญคนหนึ่ง ซึ่งผลงานการ์ตูนของเขาส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นเรื่องผีสาง ไม่ก็บอกเล่าถึงประสบการณ์เป็นทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  ซึ่ง GeGeGe no Kitaro นั้น ถือเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตลอดอาชีพนักเขียนการ์ตูนของเขา จนถึงขนาดถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมหลายต่อหลายรอบ รวมถึงได้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังคนแสดงด้วย อีกทั้งได้รับการยกย่องจากเมืองซาไกมินาโตะ  ด้วยการเนรมิตรเมืองบ้านเกิดของเขากลายเป็นเมืองของเหล่าภูตผีจากคิทาโร่ และทำรายได้จากการท่องเที่ยวไปเป็นจำนวนไม่น้อย  อนึ่ง นอกจากคิทาโร่แล้ว ผลงานเรื่องอื่นๆของอ.มิซึกินั้น ก็มีชื่อได้เข้าชิง/คว้ารางวัลในระดับเวทีนานาชาติอีกด้วย  อีกทั้ง ผลงานเรื่อง Akuma-kun นั้น เคยมีอนิเมออกฉายช่วงเย็นวันธรรมดาทางช่อง 3 เช่นกัน

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Hakaba ,Akuma-kun,Yamato,Hitler: A BiographyKappa no Sanpei

 

โคจิ คุเมตะ

One Hit  Wonder  Serie :  Sayonara Zetsubou Sensei

มาถึงนักเขียนการ์ตูนสุดแนว ยากที่จะเข้าใจในความอาร์ตของเขาเสียจริง สำหรับ อ.คุเมตะ ซึ่งก่อนที่ใครหลายคนจะรู้จักกับแนวคิดอันสุดบรรเจิด ไม่เหมือนใคร และไม่เข้าใจจาก Sayonara Zetsubou Sensei นั้น เขาเคยมีผลงานการ์ตูนแก๊กก่อนหน้านี้ก็หลายเรื่อง แถมทุกเรื่องก็ออกแนวสติสตังแตก ประชดสังคมกลายๆอีกเช่นกัน ทว่าจากการที่คุณครูสิ้นหวังได้ประกาศศักดา ด้วยการคว้ารางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมประเภทโชเน็นของ Kodansha Manga Award เมื่อปี 2007  รวมถึงการมาของฉบับอนิเมเรื่องนี้เอง ทำให้คนอ่านการ์ตูนเริ่มจะรู้จัก และ โดนใจไปกับมุขเสียดสีสังคมแบบสิ้นหวังไปตามๆกันมากขึ้น และด้วยความดังของครูสิ้นหวังนี้เอง ทำให้ Katte ni Kaizō หรือ โอ้! พระเจ้าจอร์จ!! มันยอดมาก!!! หนึ่งในซีรี่ย์ที่แต่เดิมไม่ใคร่มีใครสนใจ   ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเม OAD ตามมา รวมถึง ผลงานเรื่องปัจจุบันอย่าง Joshiraku  ที่จะได้เห็นในรูปแบบอนิเมกันเร็ววันนี้!!

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Go!! Southern Ice Hockey Club ,Sodatte Darling!! ,The Sun's Soldier Poka Poka ,Katte ni Kaizō ,Joshiraku


เท็ตซึโอะ ฮาระ

One Hit  Wonder  Serie :  Hokuto no Ken ( Fist of the North Star ) Series

นักเขียนการ์ตูนต้นตำหรับสายพลังมัดกล้ามที่เป็นมลพิษสายตาของคอการ์ตูนแนวสาว น้อยในยุคนี้  ก็มีผลงานภาพให้กับการ์ตูนหลายเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้จักกันเท่าไหร่ นอกจาก Hokuto no Ken  หรือ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ที่กลายเป็นหนึ่งในผลงานขึ้นหิ้งอีกเรื่องหนึ่งในหมู่นักอ่านการ์ตูนหนุ่ม รุ่นเก๋า ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จของหมัดดาวเหนือนั้น ไม่เพียงเฉพาะ อ.ฮาระ เท่านั้น ต้องให้เครดิตแก่ บุรอนซอน ที่คอยสร้างสรรค์เรื่องราวการต่อสู้ของเคนชิโร่ กับ สายตระกูลหมัดอุดรเทวะคนอื่นๆ ด้วย จึงไม่แปลกใจที่คนอ่านหลายคนจะมองว่า เท็ตซึโอะ ฮาระ ต้องคู่กับ บุรอนซอน เท่านั้น !! และด้วยความดังอย่างถล่มทลายของหมัดดาวเหนือ แถมดันไปแป้กกับผลงานเรื่องอื่นๆ อ.ฮาระ จึงได้ผสานพลังกับบุรอนซอน ในการเขียนภาค 2 ของหมัดดาวเหนือต่อ (Sōten no Ken / Fist of the Blue Sky ) ที่เป็นเรื่องราวของรุ่นพ่อ

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Sakon - Sengoku Fūunroku-  CYBER Blue ,Keiji  ฯลฯ

 

นัตซึกิ ทาคายะ

One Hit  Wonder  Serie :  Fruits Basket

มาถึงนักเขียนการ์ตูนหญิงที่มีเอกลักษณ์ในการทำการ์ตูนแนวรักโรแมนติคตาหวาน ได้รู้สึกอบอุ่นจรรโลงหัวใจ (ไม่ปวดตับม้ามไตเหมือนสาวน้อยเวทมนตร์บางเรื่อง)  โดย อ.ทาคายะ  เริ่มต้นอาชีพนักเขียนการ์ตูน ด้วยซีรี่ย์ยาวอย่าง Phantom Dream ,Tsubasa: Those with Wings แต่ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก จนกระทั่งการมาของเรื่องยาวเรื่องที่ 3 ในชีวิตอย่าง  Fruits Basket หรือ เสน่ห์ข้าวปั้น นี่เอง ที่ทำให้ อ.ทาคายะ เป็นที่รู้จักมากขึ้น  และ กลายเป็นการ์ตูนแนวโชโจที่ทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น และขึ้นทำเนียบเป็นการ์ตูนโชโจที่ขายดีที่สุดในฝั่งอเมริกาด้วย อีกทั้งเรื่องนี้ยังคว้าเกียรติยศด้วยการคว้ารางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมประเภท โชโจของ Kodansha Manga Award เมื่อปี 2001 อีกเช่นกัน หลังจาก  Fruits Basket จบลง อ.ทาคายะ ก็มีผลงานอื่นๆประปราย อาทิ Hoshi wa Utau (ลำนำรักจากดวงดาว) กับ Liselotte to Majo no Mori ซึ่งเรื่องแรกนั้น สนพ.บ้านเราออกช้าเหลือเกิน.......

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Hoshi wa Utau ,Liselotte to Majo no Mori

 


kartoon-discovery.com
Apr 2012


 
free hit counter javascript