บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม - 6 พฤศจิกายน 2559

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ........ขณะนี้ บรรยากาศบ้านเราโดยรวม ก็ทยอยเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใต้ช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัย....เฉกเช่นเดียวกับการแบ่กลุ่มแบ่งข้างทางการเมืองก็เริ่มจะกลับมาเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องราวของข้าวราคาต่ำที่เล่นเอาพวกพี่ๆชาวนาได้เหนื่อยใจกัน ถึงกระนั้น ทั้งสองฝั่งต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ให้ชาวนาขายข้าวเองเลย ไม่ต้องง้อภาษี ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลาง แต่ยังไงซะ ก็ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงถกเถียงกัน ในแง่ของสาเหตุของปัญหา และก็แน่นอนล่ะว่า ต่างฝ่ายก็คงโบ้ยไปยังฝั่งตรงข้ามของพวกตนเช่นเคย.............

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week: ทยอยระบายบนแผงต่อเนื่อง กับ หางนางฟ้า 51 & 7 บาป 15

การ์ตูนออกใหม่ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก......Fairy Tail ศึกจอมเวทอภินิหาร เล่ม 51 พักนี้ก็ออกถี่รัวๆ ซะจนบางคนไล่ซื้อเก็บไม่ทันเลย (ฮา)...."แผนการชำระล้าง" ของอวตาร...คือแผนการชั่วร้ายที่จะเรียกเซเรฟมาโดยการสังเวยชีวิตผู้คนมากมาย เพื่อหยุดยั้งมัน เกรย์จึงร่วมมือกับเอลซ่า แฝงตัวเข้าไปในอวตาร จนในที่สุดนัตสึ ลูซี่ แฮปปี้ เกรย์ เอลซ่า...ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแฟรี่เทลก็กลับมาร่วมทีมกันอีกครั้ง หลังจากที่เวลาผ่านไปหนึ่งปี และเผชิญหน้ากับกองทัพของอวตารด้วยความกล้าหาญและสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น!! อีกด้านหนึ่ง จอมเวทดำเซเรฟที่ร้ายกาจที่สุดและเป็นที่เทิดทูนบูชาของอวตารได้ติดต่อกับ "อีกหนึ่งหายนะ" ...และตอนนี้อดีตอันน่าตกใจของเขาก็เปิดเผยออกมาแล้ว!!

ศึกตำนาน 7 อัศวิน เล่ม 15 ส่วนเรื่องนี้ก็ออกวางแผงถี่ไม่แพ้กัน (เช่นเดียวกะ UQ Holder ที่กำลังจะออกเล่มใหม่ อีกไม่นานเกินรอ) ....อานุภาพของศาสตราเทพ ลอสต์เวย์น! ผนึก 3,000 ปีถูกทำลาย เหล่าเผ่าเทพอสูรลืมตาตื่นขึ้น ผู้ที่เผชิญหน้าขัดขวางพวกมันไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเมลิโอดัส! ตอนที่พบกับการต่อสู้ที่ยากลำบากกับทหารแนวหน้าของเผ่าเทพอสูร เมลิโอดัสก็ได้ศาสตราเทพกลับคืนมา พลังของลอสต์เวย์นที่ระเบิดขึ้น และเงาของเทพอสูรซึ่งคุกคามราชาภูต สงครามศักสิทธิ์เปิดม่านขึ้น! นั้นเป็นความองอาจที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน...!!

โทริโกะ เล่ม 39 โคมัตสึ ปรุงอนาเธอร์เสร็จแล้ว จึงกลับมาจากโลกวิญญาณ ซานี่ , โคโคะ , ซีบร้า ได้ฟูลคอร์สเมนูแต่ละอย่างมาแล้ว จึงมุ่งหน้าสู่สนามรบของโทริโกะ และแล้วก็มีการเล่าถึงอดีตของนีโอ ปิศาจในเซลล์กูร์เมต์

เมไจ เล่ม 27 อาลีบาบากับฮาคุริว อาลาดินกับจูดัล บทสรุปของการต่อสู้อันแสนรุนแรงระหว่าง"ภาชนะแห่งราชา" และ "เมไจ" ที่ต่างเดิมพันด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง! ไม่พอการกบฏที่ฮาคุริวก่อขึ้นยังกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่พัวพันไปทั่วโลก!


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

สิงห์สนาม เล่ม 38,โอตาคุ ปั่นสะท้านโลก เล่ม 34,เมไจ ภาคการผจญภัยของซินแบด เล่ม 7,K2 เล่ม 21 ,DATE A LIVE-พิชิตรัก พิทักษ์โลก เล่ม 11,อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ เล่ม 15


 

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 

 


your name. จบสถิติอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น ด้วยน้ำมือ Death Note Light up the NEW world

อันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. 2016 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนหัวตาราง Box Office ญี่ปุ่น เมื่อ your name.(, Kimi no Na wa.) หนังอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมของ Makoto Shinkai มีอันต้องหยุดสถิติครองอันดับ 1 บน Box Office ญี่ปุ่น ไว้เพียง 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ด้วยน้ำมือของ Death Note Light up the NEW world หนังคนแสดงภาคใหม่ล่าสุดของ Death Note ที่สามารถประเดิมออกฉายสุดสัปดาห์แรก (นับตั้งแต่ 29 ต.ค.) ด้วยรายได้ 458,645,800 เยน กับ ยอดขายตั๋ว 342,309 ใบ เข้าป้ายอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่นสำเร็จ อีกทั้งตัวหนัง Death Note ภาคใหม่นี้ สามารถทำรายได้เปิดตัวคิดเป็น 60.3% ของรายได้หนัง Death Note The Last Name หนังชุดที่ 2 ของ Death Note

ขณะที่ your name ก็หล่นไปอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้จากการออกฉายในขณะนี้รวมกัน 17.6 พันล้านเยน กับ ยอดตั๋วมากกว่า 13 ล้านใบ และ รั้งอันดับ 7 อันดับหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในญี่ปุ่น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ตัวหนังจะทำสถิติรายได้รวมที่ 20 พันล้านเยน ถ้าหากทำได้จริง จะทำให้ตัวหนังมีสิทธิ์ที่จะทำรายได้แซง Princess Mononoke (19.3 พันล้านเยน ) กับ Howl's Moving Castle (19.6 พันล้านเยน) และขึ้นทำเนียบเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในญี่ปุ่น ในอันดับที่ 5 ถึงกระนั้นก็ต้องจับตากันต่อว่า your name จะกลับมาครองอันดับ 1 ได้อีกครั้งหรือไม่? เหมือนดั่งเช่น Frozen ที่เคยครองอันดับ 1 ที่ญี่ปุ่น 5 สัปดาห์ซ้อน ก่อนจะตกลงไปสัปดาห์หนึ่ง และกลับมาครองอันดับ 1 ต่ออีกราว 10 สัปดาห์ติดต่อกัน

อันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ญี่ปุ่น (29-30 ต.ค. 2016)

1 (new). "Death Note Light up the NEW world"

2 (1). "Kimi no na Wa./your name."

3 (new). "Inferno"

4 (new). "Maho Girls PreCure! The Movie: Miracle Transformation! Cure Mofurun!"

5 (3). "Nanimono"

6 (new). "Bridget Jones's Baby"

7 (2). "Yamikin Ushijima-kun The Final"

8 (5). "Kinmedal Otoko"

9 (4). "Star Trek Beyond"

10 (8). "Koe no Katachi"

10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น (หนังญี่ปุ่น + หนังต่างประเทศ):

1. "Spirited Away" (2001/30.8 billion yen)

2. "Titanic" (1998/26.2 billion)

3. "Frozen" (2014/25.48 billion)

4. "Harry Potter And The Sorcerer's Stone" (2001/20.3 billion)

5. "Howl's Moving Castle" (2004/19.6 billion)

6. "Princess Mononoke" (1997/19.3 billion)

7. "your name." (2016/17.6 billion)

8. "Bayside Shakedown 2" (2003/17.35 billion)

9. "Harry Potter And The Chamber Of Secrets" (2002/17.3 billion)

10. "Avator" (2010/15.6 billion)


แหล่งข่าว : Eiga.com , crunchyroll.com

 


Naoki Urasawa เตรียมมีผลงานการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องใหม่ ในปี 2017

ข่าวใหญ่ที่แจ้งแฝงมากับมังงะเรื่องสั้น DAMiYAN! ของ อ.Naoki Urasawa (Billy Bat, Pluto, Master Keaton, Monster, 20th Century Boys) ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Big Comic Spirits ฉบับที่ 49 เมื่อ 31 ต.ค. 2016 ซึ่งได้มีการประกาศว่า อ.Urasawa กำลังจะมีผลงานการ์ตูนซีรี่ย์เรื่องใหม่ล่าสุด ในปี 2017 นี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเบื้องลึกเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขาแต่อย่างใด

มังงะเรื่องสั้น DAMiYAN! ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังกล่าว เป็นเรื่องราวของยากูซ่า 2 กลุ่มกำลังถกปัญหาค้างคากันที่ร้านอาหารครอบครัว ในระหว่างที่กลุ่มยากูซ่ากำลังมีเรื่องกัน ก็มีสมาชิกของแก๊งส่วนหนึ่ง ได้ไปหา Damiyan ชายหนุ่มลึกลับผู้มีพลังพิเศษติดตัว

อ.Urasawa เพิ่งเขียนมังงะเรื่อง Billy Bat จบลง ในนิตยสาร Morning เมื่อ 18 ส.ค. 2016 หลังจากตีพิมพ์ยาวนานตั้งแต่ ต.ค. 2008 ซึ่งผลงานดังกล่าว เขาได้ร่วมงานกับ อ.Takashi Nagasaki และฉบับรวมเล่ม 20 เล่มสุดท้ายของเรื่องนี้ ออกวางขายที่ญี่ปุ่น เมื่อ 23 ก.ย. 2016 ที่ผ่านมา


แหล่งข่าว : Comic Natalie , Mantan Web , animenewsnetwork.com

 


ผกก. Deadpool ร่วมทำหนังจอเงินของเจ้าเม่นสายฟ้า Sonic the Hedgehog

Tim Miller ผกก.จากหนัง Deadpool ผู้ซึ่งประกาศถอนตัวจากโปรเจ็คหนัง Deadpool ภาคต่อ เมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานผู้สร้างหนัง CG +คนแสดงของ Sonic the Hedgehog ซึ่งดัดแปลงมาจากเกมวีดีโอดังของ SEGA โดย Miller จะเข้ามารับหน้าที่เป็น executive producer ในขณะที่ while Jeff Fowler อนิเมเตอร์ กับ โปรดิวเซอร์คู่ใจของ Miller ณ Blur Studio จะขึ้นแท่นเป็นผกก.ครั้งแรกในชีวิต ในการกำกับเรื่องนี้ ส่วน Patrick Casey กับ Josh Miller (Golan the Insatiable) จะรับหน้าที่เขียนบท

Sony Pictures กับ Marza Animation Planet เป็นผู้อำนวยการสร้างโปรเจ็คนี้ร่วมกัน ( Marza Animation Planet มีบริษัทลูกคือ Sega Sammy Holdings ผู้สร้างหนัง CG Captain Harlock) โดย Neal H. Moritz ( Fast and Furious ) จะเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ Takeshi Ito กับ Mie Onishi จาก Marza Animation Planet ขณะที่ Toby Ascher รับหน้าที่เป็น executive producer และ Dmitri Johnson กับ Dan Jevons จาก DJ2 Entertainment เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกัน โดยมี Andrea Giannetti เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คนี้ให้กับทาง Sony Pictures Entertainment.

Fowler เคยมีผลงานกำกับและเขียนบทหนัง "Gopher Broke" ที่เคยคว้ารางวัล Oscar สาขาหนังอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม เมื่อปี 2005 ซึ่งในตอนนั้น Miller รับหน้าที่เป็น executive producer ให้กับหนังเรื่องดังกล่าว อีกทั้ง ทั้งสองคนนี้ ยังเคยร่วมงานกับ David Fincher กับอนิเมชั่นเรื่อง The Goon comic

หนัง CG+คนแสดงของเจ้าเม่นสายฟ้า Sonic มีการประกาศครั้งแรกเมื่อปี 2014 ซึ่งในขณะนั้น ทาง Hollywood Reporter ได้รายงานว่า Evan Susser กับ Van Robichaux จะเป็นผู้เขียนบท และในหนังก็จะมี Dr. Eggman (Robotnik) วายร้ายคู่ปรับตลอดกาลของ Sonic มีบทบาทในหนังด้วย โดยตัวหนังมีกำหนดออกฉายคร่าวๆ ราวปี 2018

แหล่งข่าว : Hollywood Reporter , animenewsnetwork.com

 


มังงะ 'โทริโกะ' ช่วยแนะนำ 'การกินตัวเองของเซล' ให้เป็นที่รู้จัก ก่อนการค้นคว้าวิจัยคว้ารางวัลโนเบลของจริง!!?

ควันหลงมาจากการที่ โยชิโนริ โอสุมิ ศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นแห่งสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว สามารถคว้ารางวัลโนเบล ประจำปี 2016 ในสาขาสรีรศาสตร์ และการแพทย์ จากการที่เขาได้ค้นคว้าวิจัยเรื่อง autophagy หรือ การกินตัวเองของเซล จนเป็นที่รับรู้ของผู้คนทั่วโลก ซึ่ง การกินตัวเองของเซล เป็นกระบวนการในการทำลายส่วนประกอบของเซล พร้อมกับการรีไซเคิลสร้างส่วนประกอบของเซลใหม่ มาทดแทนอันเก่าที่เสื่อมสลายลงไป ซึ่งหากเซลที่กักกินตัวเองเกิดความผิดปกติขึ้น ก็เป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ทว่า ก่อนที่เขาจะคว้ารางวัลโนเบลได้นั้น ได้มีผู้คนบางส่วนได้รับรู้ถึงเรื่องราวการกินตัวเองของเซลกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาคอการ์ตูน ผู้เคยอ่าน/ดู 'โทริโกะ' ผลงานการ์ตูนของ อ.มิตซึโทชิ ชิมาบุคุโระ มาก่อน!!!

โทริโกะ ตีพิมพ์ประจำลงในนิตยสาร Shonen Jump เป็นการ์ตูนแอ็คชั่นที่ว่าด้วยการผจญภัยของ โทริโกะ ตัวเอกของเรื่อง ในการออกตามล่าวัตถุดิบอาหารสุดแปลกพิสดาร ซึ่งในตอนที่ 50 ของเรื่องนี้ ที่ตีพิมพ์ไปเมื่อปี 2009 นั้น ถือเป็นครั้งแรกสุดของเรื่องนี้ ที่ได้แนะนำถึงหลักการ 'การกินตัวเองของเซล' และจากการที่ โอสุมิ คว้ารางวัลโนเบลมาได้นั้น ทางสนพ.ชูเอย์ฉะ ต้นสังกัดของโทริโกะ เลยถือโอกาสเผยแพร่ตอนที่ 48-50 ออนไลน์บนเว็บไซต์หลักของจัมป์ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงหลักการดังกล่าวให้เข้าใจโดยง่าย รวมถึง ยังเป็นการบอกเป็นนัยๆว่า การกินเซลตัวเองในการ์ตูนนั้น มันมีอยู่จริง และผ่านการพิสูจน์โดยคนระดับดร.เช่นกัน!!!

ขณะที่ผู้ร่วมวิจัยเรื่องนี้กับโอสุมินั้น ดูเหมือนจะรู้สึกชอบใจที่หลักการกินตัวเองของเซลที่พวกเค้าค้นคว้า ได้ถูกนำมาพูดถึงในการ์ตูนโทริโกะ

"ตอนที่ผมเอาเรื่องนี้ไปสอนเด็ก ม.ต้น ก็มีเด็กหลายคนต่างพากันยกมือ ในขณะที่ผมถามว่ามีใครคุ้นเคยกับเรื่องนี้หรือเปล่า ซึ่งเด็กๆทั้งหมดต่างพูดเกือบเป็นเสียงเดียวกันว่า เอามาจาก 'โทริโกะ' ทั้งนั้น" ทาโมตสึ โยชิโมริ ศาสตราจารย์จากม.โอซาก้า กล่าว เขาเสริมด้วยว่า หลักการนี้ ที่มีการพูดถึงในการ์ตูนเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ถูกต้องตามนั้น แถมการ์ตูนยังช่วยให้ผู้คนรู้จักคำๆนี้ได้ดียิ่งกว่าวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำเสียอีก

ส่วน โนโบรุ มิซึชิมะ ศาสตราจารย์จากม.โตเกียว ก็ได้หยิบเคสของโทริโกะมาพูดถึงในหนังสือของเขา "Saibo ga Jibun o Taberu: Autophagy no Nazo" (Cells eat themselves: The mystery of autophagy) ที่ตีพิมพ์ขึ้นเมื่อปี 2011 โดยมีประโยคหนึ่งที่เขาเขียนว่า "Autophagy ( การกินตัวเองของเซล ) เป็นคำที่ไม่เป็นที่รู้จักนักในหมู่นักวิทยาศาสตร์ กลับกลายเป็นคำที่ผู้คนทั่วไปสามารถรับรู้ถึงได้ ซึ่งต้องขอบคุณที่ได้มีการหยิบเอาคำๆนี้มาใส่ไว้ในการ์ตูน



แหล่งข่าวและรูปภาพ : The Japan News by Yomiuri Shimbun


การตามล่าอาหารของ 'โทริโกะ' ถึงคราวบทสรุป !?

ยังคงต่อเนื่องกับข่าวคราวของนักล่าอาหารกล้ามโต โทริโกะ แต่ข่าวนี้เป็นข่าวฟังชวนใจหาย เพราะมีรายงานจากนิตยสารโชเน็นจัมป์ ฉบับที่ 49 ที่กำลังจะวางขายวันที่ 7 พ.ย. 2016 ได้ระบุว่า โทริโกะ กำลังจะตีพิมพ์ตอนไคลแมกซ์ ในจัมป์ เล่มที่ 50 ที่จะวางขายในวันที่ 14 พ.ย. นี้ และตอนดังกล่าว มีสิทธิ์ที่จะเป็นตอนจบสูง เพราะจะตีพิมพ์ถึง 31 หน้าด้วยกัน

อนึ่ง คำว่า 'ไคล์แมกซ์' ที่เขียนในตัวอักษรญี่ปุ่นแบบคาตะคานะ ส่วนใหญ่มักจะสื่อถึงตอนจบของการ์ตูนเรื่องนั้นๆ ถ้าหากว่า ตอนดังกล่าวเป็นตอนสุดท้ายของ โทริโกะ จริง ก็ถือเป็นการผลัดใบครั้งใหญ่ของซีรี่ย์การ์ตูนในนิตยสารจัมป์อย่างสุดๆ!!! และจะทำให้ โทริโกะ กลายเป็นซีรี่ย์ดังที่ตีพิมพ์อย่างยาวนาน เรื่องที่ 5 ของจัมป์ ที่จบลงในปี 2016 นี้ ต่อจาก Assassination Classroom , Nisekoi รักลวงป่วนใจ , บลีช เทพมรณะ และ Kochikame คุณตำรวจป้อมยาม


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


ผู้แต่ง 'กินทามะ' ระบายความในใจ จากการที่ซีรี่ย์การ์ตูนดังของจัมป์ทยอยจบลงไล่เลี่ยกัน

ต่อเนื่องจากข่าวที่ โทริโกะ ส่อที่จะอวสานลงในจัมป์ ฉบับที่ 50 ที่จะวางขายวันที่ 14 พ.ย. 2016 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซีรี่ย์การ์ตูนในจัมป์ในรอบหลายๆปี ที่บรรดาเรื่องดังที่อยู่มานานในจัมป์ต่างทยอยจบลงไป ในปี 2016 นี้ นับตั้งแต่ ต่อจาก Assassination Classroom , Nisekoi รักลวงป่วนใจ , บลีช เทพมรณะ รวมไปถึง Kochikame ซีรี่ย์คุณตำรวจป้อมยาม ที่อยู่คู่จัมป์มานานถึง 40 ปี ก็ได้จบลงเช่นกัน

จากการที่ซีรี่ย์การ์ตูนดังในจัมป์ ต่างทยอยกันจบ ราวกับใบไม้ร่วง ในปี 2016 นี้เอง ก็ทำเอา อ.ฮิเดอากิ โซราจิ ผู้แต่งกินทามะ หนึ่งในการ์ตูนอาวุโส ตีพิมพ์มากกว่า 10 ปี เพียงไม่กี่เรื่อง ที่หลงเหลืออยู่ในจัมป์ ได้ออกมาระบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ บนปกพับในของกินทามะฉบับรวมเล่มเล่มล่าสุด (เล่ม 66) มีใจความว่า:

(คำพูดคุณกินในกรอบการ์ตูน)
"ห๊ะ! เหลือเพียง ลุงลูฟี่ กะ ลุงกอร์น มาอยู่ตรงหน้าตรู ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน"

(คอมเมนต์ของ อ.โซราจิ)
"ช่างบังเอิญจริงๆ ที่มีการ์ตูนเรื่องยาวหลายเรื่องในจัมป์ ต่างก็ทยอยจบลงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ผมรู้สึกเหงาเหลือเกิน เพราะเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังคงดำเนินเรื่องราวไปพร้อมๆกับผมน่ะ"

ปัจจุบัน กินทามะ ได้ดำเนินเรื่องราวสู่บทสุดท้ายแล้ว ....ดูจากแนวโน้มแล้ว คุณกินคงปล่อยให้ ลุงลูฟี่ (One Piece) กะ ลุงกอร์น (Hunter x Hunter) ได้อยู่ต่อสู้ในจัมป์ร่วมกับบรรดาซีรี่ย์รุ่นใหม่กันต่อไปเพียงลำพัง !!!


แหล่งข่าว :  crunchyroll.com
ทวีต :  YonkouProd


Fumetsu no Anata e มังงะแนวแฟนตาซีของผู้แต่ง 'รักไร้เสียง'

นิตยสาร Shōnen Magazine ฉบับที่ 49 ได้ออกมายืนยันว่า อ.โยชิโทกิ โออิมะ ผู้แต่งมังงะเรื่อง รักไร้เสียง กำลังจะมีผลงานการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องใหม่ ในรอบ 2 ปี ที่มีชื่อว่า Fumetsu no Anata e (To You, the Immortal) ลงตีพิมพ์ในฉบับที่ 50 ของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายวันที่ 9 พ.ย.

ผลงานเรื่องนี้ เป็นแนวแฟนตาซีตามที่ อ.โออิมะ ตั้งใจจะทำ จะนำเสนอเรื่องราวของโลกที่มีทั้งความรุนแรงและโอบอ้อมอารี ที่ช่วยเยียวยาหัวใจ
กับเรื่องราวการผจญภัยที่เริ่มต้นจากการจากลา เมื่อ คิว สุนัขตัวหนึ่ง ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้เพียงลำพัง หลังที่กำลังเดินทางอย่างไร้จุดเขา คิวได้พบกับเด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวบนพื้นหิมะ

แหล่งข่าว : Mantan Web , animenewsnetwork.com


Kodansha ระส่ำ......ยอดขาย Shonen Magazine ต่ำกว่า 1 ล้านเล่มแล้ว!!!!!

วงการสื่อสิ่งพิมพ์ญี่ปุ่น ยังคงประสบกับสถานการณ์อันไม่สู้ดีขอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับเรื่องของยอดขายหนังสือที่ดูจะสาละวันเตี้ยลงทุกที .....ส่วนหนึ่งก็มาจากรสนิยม วิธีการอ่านที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้อ่าน

ล่าสุด สนพ. Kodansha ต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ นิตยสารการ์ตูน Shōnen Magazine ของพวกเขา ที่ตอนนี้มียอดขายต่ำกว่า 1 ล้านเล่มแล้ว จากการรายงานของสมาคมผู้ผลิตนิตยสารแห่งญี่ปุ่น โดยระบุว่า นิตยสารหัวนี้ มียอดขายเฉลี่ยช่วง ก.ค. - ก.ย. 2016 เหลือเพียง 995,017 เล่ม เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ Magazine ที่มียอดขายลดลง นิตยสารการ์ตูนคู่แข่งสำคัญอย่าง Shonen Jump (สนพ.Shueisha) กับ Shonen Sunday (สนพ.Shogakukan) ต่างมียอดขายลดน้อยลงในช่วงเวลาดังกล่าว เช่นกัน กล่าวคือ Jump มียอดขายเหลือเพียง 2,151,667 เล่ม ลดลงจากยอดขายช่วง เม.ย.-มิ.ย. 2016 ถึง 17,000 เล่ม ขณะที่ Sunday มียอดขายเหลือเพียง 330,000 เล่ม ลดลงจากยอดขายช่วง เม.ย.-มิ.ย. 2016 ถึง 40,000 เล่ม ด้วยกัน ซึ่งสาเหตุหลักที่นิตยสารการ์ตูนยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น 3 หัวหลัก มียอดขายลดลง ก็มาจากการที่แต่ละสนพ. ต่างพยายามที่จะเผยแพร่นิตยสารการ์ตูนของตนในรูปแบบดิจิตอลมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้ นิตยสารฉบับรูปเล่มมีการลดกำลังการพิมพ์เช่นกัน

ช่วงเวลา Weekly Shōnen Magazine Weekly Shonen Jump Weekly Shonen Sunday
ม.ค.-มี.ค. 2014 1,277,500 2,715,834 461,250
เม.ย.- มิ.ย. 2014 1,245,417 2,677,500 445,500
ก.ค.-ก.ย. 2014 1,211,750 2,665,834 428,417
ต.ค.-ธ.ค. 2014 1,192,267 2,605,000 411,250
ม.ค.-มี.ค. 2015 1,156,059 2,422,500 393,417
เม.ย.- มิ.ย. 2015 1,127,042 2,395,000 388,417
ก.ค.-ก.ย. 2015 1,107,840 2,376,667 369,231
ต.ค.-ธ.ค. 2015 1,085,110 2,321,667 356,584
ม.ค.-มี.ค. 2016 1,038,450 2,238,333 345,667
เม.ย.- มิ.ย. 2016 1,015,659 2,168,333 369,833
ก.ค.-ก.ย. 2016 *,995,017 2,151,667 330,000


สมาคมผู้ผลิตนิตยสารแห่งญี่ปุ่น เคยรายงานไว้ เมื่อเม.ย. 2015 ว่า Magazine มียอดขายลดลง 10% จากปี 2014 เช่นเดียวกับ Jump และ Sunday ต่างมียอดขายลดลงถึง 11% กับ 15% จากปี 2014 ตามลำดับ

แหล่งข่าว :  ITMedia , 0takomu , animenewsnetwork.com

 


ScarJo + โปรดิวเซอร์ ให้ความเห็นฉบับคนแสดงของ Ghost in the Shell

Ghost in the Shell ฉบับหนังคนแสดงฮอลลิวู้ด ก็ได้ดำเนินการถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคออนิเม ในแง่ของการแคสติ้งนักแสดง ที่ดูจะเน้นไปทางฝรั่งจ๋ามากกว่านักแสดงเอเชีย.....ล่าสุด เว็บไซต์ Nerdist ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ Scarlett Johansson นักแสดงนำของหนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับ ฉบับคนแสดงของ Ghost in the Shell ที่ดัดแปลงมาจากผลงานการ์ตูนของ อ.Masamune Shirow

Johansson บอกว่า ตัวละครในหนังจะมีคาแร็คเตอร์ที่ไม่ตรงกับต้นฉบับการ์ตูนนัก "สิ่งหนึ่งที่มันแตกต่างกันมาก บางทีนะ เราจะไม่สร้างโลกของ Frank Miller ที่เต็มไปด้วยกราฟิกโนเวล ให้เกิดขึ้นจริง แต่เราจะยึดถือความโดดเด่นจากการ์ตูน-อนิเมเป็นหลัก แต่ชั้นคิดว่า หลายคนคงจะรู้สึกประหลาดใจไปกับความกล้าเล็กๆที่จะสร้างตัวหนังให้มันสมจริง สำหรับใครที่ไม่มีใจมาก่อน เห็นแล้วก็จะรู้สึกหลงรักกันมากขึ้น ชั้นคิดว่า นี่ล่ะ คือวิธีทางที่เราจะเล่าเรื่องราวของหนังแบบนี้"

จากนั้น Johansson ได้พูดถึงที่มาที่ไปของ Major บทบาทตัวละครที่เธอได้รับในหนัง "ชั้นคิดว่า มันสำคัญมากสำหรับตัว Major ในการรับเอาประสบการณ์ที่เธอเคยผ่านมา และเธอไม่มีตัวเลือกเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเธออย่างแท้จริง ซึ่งแทนที่จะต่อสู้กับมัน เธอกลับเลือกที่จะยอมรับมัน เธอจึงกลายเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาๆ รู้มั๊ย? เธอเติบโตมาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหญิงสาว...ซึ่งก็มีการสูญเสียความบริสุทธิ์เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน แต่เธอก็ยังได้รับสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงเข้ามาอีกด้วย"

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ IGN ได้สัมภาษณ์ Michael Costigan กับ Avi Arad executive producer กับ producer ของหนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับ ฉบับคนแสดงของ Ghost in the Shell เช่นกัน

Arad กล่าวว่า "เมื่อเราได้เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการคว้าสิทธิ์ในการทำหนังเป็นครั้งแรก ทางทีมผู้สร้างต่างแนะนำว่า เราอย่าพยายามจะดัดแปลงเพียงแค่สิ่งนั้นสิ่งเดียว" ดังนั้น ตัวหนังจะมีส่วนผสมทั้ง Ghost in the Shell ต้นฉบับ กับอนิเมชุด Ghost in the Shell: Stand Alone Complex กับ Ghost in the Shell: Stand Alone Complex 2nd GIG เนื้อหาสำคัญของฉบับคนแสดง ก็เอามาจากตอน 'Affection' ของอนิเม Ghost in the Shell: Stand Alone Complex 2nd GIG เป็นหลัก และตัวหนังจะสื่อถึงการที่ Major สามารถรับรู้ได้ด้วยตนเอง

ทั้ง Costigan กับ Arad ยังได้พูดถึงความตั้งใจในการทำหนังเรื่องนี้ "ผมรู้สึกชอบใจจนแทบบ้าเลย ที่ได้ทำหนังเรื่องนี้ เพราะว่า เราจะทำมันให้มันมีชีวิตชีวาจริงๆ" Costigan กล่าว "เราจะนำสิ่งที่เราเห็นในอนิเมมาทำในรูปแบบคนแสดง ผมล่ะรู้สึกตื่นเต้นสำหรับแฟนๆที่กำลังรอคอยเหลือเกิน"

แหล่งข่าว :  Nerdist , IGN , animenewsnetwork.com

 


Fate/Grand Order ประกาศทำอนิเมทีวี

ซีรี่ย์ตระกูล Fate ก็กำลังจะมีโปรเจ็คอนิเมเพิ่มเติม ล่าสุดมีการประกาศว่า Fate/Grand Order เกม RPG บนมือถือสมาร์ทโฟน กำลังจะถูกทำเป็นอนิเมทีวีแล้ว โดยจะเริ่มต้นด้วย อนิเมทีวีชุดพิเศษ ชุด Fate/Grand Order ‐First Order- ที่จะออกฉายช่วงสิ้นปี 2016 นี้ โดย Hitoshi Nanba (Go Sick, Heroman) รับหน้าที่กำกับ ขณะที่ Lay-duce (Classroom Crisis) เป็นสตูดิโอผู้ผลิตหลัก โดยมี Takuro Tsukada (Chaika) คอยช่วยเหลือการผลิต ส่วน Kinoko Nasu กับ Takashi Takeuchi ได้รับเครดิตเป็นผู้แต่งกับคนออกแบบตัวละครต้นฉบับ ซึ่ง Keisuke Goto (Yatterman Night) จะเป็นผู้ออกแบบตัวละครให้กับอนิเม โดยมี Ayumi Sekine (makuranodanshi) เป็นผู้เขียนบท และจะใช้เพลง Color ของ Maaya Sakamoto เป็นเพลงประกอบหลัก

นักพากย์

Ritsuka Fujimaru พากย์โดย Nobunaga Shimazaki

Mashu Kirieraito พากย์โดย Rie Takahashi

Fou พากย์โดย Ayako Kawasumi

Olga Marie Animusphere พากย์โดย Madoka Yonezawa

Romani Archaman พากย์โดย Kenichi Suzumura

Lev Lainur Flauros พากย์โดย Tomokazu Sugita


แหล่งข่าว :  crunchyroll.com

 



Ryo Yoshizawa รับบทนำ ฉบับคนแสดงของ "Tomodachi Game"

มังงะ Tomodachi Game ของ อ.Mikoto Yamaguchi กับ อ.Yuki Sato ที่มีการประกาศทำละครซีรี่ย์ กับ หนังคนแสดง 2 พาร์ท ในก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด ได้เปิดตัวนักแสดงนำของเรื่องแล้ว นั่นคือ Ryo Yoshizawa นักแสดงจาก Kamen Rider Fourze และ Gintama ฉบับคนแสดง โดยเขาจะมารับบทเป็น Yuichi Katagiri เด็กหนุ่มผู้ให้ความสำคัญด้านมิตรภาพ มากกว่า เงินตรา ทว่าวันหนึ่ง เงินทัศนศึกษาในห้องเรียนของเขาได้สูญหายไป แถมเขากับเพื่อนๆจำนวนหนึ่ง ได้ถูกลักพาตัวพร้อมร่วมเล่นเกมเอาตัวรอดที่จัดขึ้นโดยบุคคลลึกลับ เพื่อเป็นการทดสอบถึงมิตรภาพระหว่างกันและกัน ซึ่งคราวนี้ มิตรภาพที่ว่าเหนียวแน่น ก็มีสิทธิ์ที่จะแตกหักได้

Tomodachi Game ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ส่วนละครซีรี่ย์ กับ หนังคนแสดงของเรื่องนี้ มีกำหนดออกฉายในปี 2017




แหล่งข่าว : Comic Natalie , Otakomu , Crunchyroll.com

 


เอเจนซี่ I'm Enterprise Talent โร่ปรึกษาตำรวจ จากคดีนักพากย์ในสังกัดถูกคุกคาม

หนึ่งในปัญหาคาราคาซังที่เกิดขึ้นกับบรรดานักพากย์ของญี่ปุ่นในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นการที่พวกเขาถูกคุกคาม ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว บนอินเตอร์เน็ต กับ สื่อโซเชียล ซึ่งนับวันกลายเป็นปัญหาใหญ่อันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด I'm Enterprise บริษัทเอเจนซี่บันเทิงญี่ปุ่น ได้ออกมาเปิดเผยว่า นักพากย์ในสังกัดของพวกเขากำลังประสบปัญหาที่ว่านั้นจริง มีตั้งแต่การถูกใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องไม่เป็นความจริง รวมถึงมีการเผยแพร่รูปถ่ายของพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย และจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะเข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด และ หากพวกเขาพบว่านักพากย์ในสังกัดถูกคุกคามจริง ก็จะดำเนินการแจ้งความกับตำรวจทันที

โดย I'm Enterprise เป็นต้นสังกัดของนักพากย์หนุ่ม-สาวคนดังในญี่ปุ่นหลายคน อาทิ Mai Nakahara, Saori Ōnishi, Kana Ueda, Maaya Uchida กับน้องชาย Yūma Uchida, Kōhei Amasaki, Hiroyuki Kagura, Kazutaka Ishii เป็นต้น

แหล่งข่าว : Otakomu , animenewsnetwork.com


แฟนๆ Pokémon พากันลงชื่อเรียกร้อง Serena มีบทบาทต่อในอนิเม Pokémon Sun & Moon

อนิเม Pokémon XY & Z ตอนที่ 47 และเป็นตอนสุดท้ายของอนิเม Pokémon ชุดดังกล่าว ได้สร้างกระแสฮือฮาจากผู้ชมพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากอำลาของ Serena ตัวละครหญิงสุดฮ็อตประจำภาค ที่แฟนๆมองว่า คู่ควรกับ 'พี่ชิ' Satoshi (หรือ Ash ตามชื่อที่ฝรั่งเรียก) มากที่สุด (แถมมาในฐานะตัวละครหญิงคนแรกที่ทำเอาหัวใจพี่ชิได้หวั่นไหว หลังจากพ่ายแพ้ลีกใหญ่อย่างซ้ำซากร่วม 20 ปี - -") พร้อมกับฉากบันไดเลื่อนสุดฟินอันเป็นที่จดจำประทับใจของผู้ติดตาม Pokémon ไปอีกนานเท่านาน จนมีบางคนนำมาล้อเลียนเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ตไปตามๆกัน

ทว่า อีกด้านนึง ก็มีแฟนๆอีกจำนวนหนึ่ง รู้สึกไม่ชอบใจที่ Serena จะหมดบทบาทแต่เพียงแค่นี้ (อาจรวมถึงรับไม่ได้กับ 'พี่ชิ' รูปโฉมใหม่ในอนิเม Pokémon Sun & Moon อนิเมชุดใหม่ล่าสุดที่จะฉายต่อจาก Pokémon XY & Z) ก็เลยทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะยื่นเรื่องผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อเรียกร้องให้ Serena มีบทบาทติดสอยห้อยตามพี่ชิ ต่อไป ในอนิเมภาค Sun & Moon อันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขต Aloha จนถึงขณะนี้ก็มีผู้ลงชื่อมากกว่า 28,000 กว่าคนแล้ว จากจำนวนที่ต้องการทั้งหมด 35,000 คน.....จากการที่คนเรียกร้องกันมามากกว่าครึ่งหนึ่ง งานนี้ก็คงต้องเดาใจทีมผู้สร้างอนิเมกันต่อไปว่า จะให้ 'น้องน่า' โผล่มาเซอร์ไพรส์เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของพี่ชิ หรือเปล่า?

แหล่งข่าว : Change.org


บลีช ยังมีต่อกับฉบับนิยายอีก 2 ชุด + ผู้แต่งหวนกลับมาเปิด twitter ส่วนตัว

เรื่องราวการต่อสู้ของยมทูต บลีช ได้จบสิ้นลง พร้อมกับฟีดแบ็คทั้งดีและยี้ ผสมปนเปกันไป อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของบลีชก็ยังไม่หมดลงเท่านี้ เพราะเรื่องนี้กำลังจะมีการจัดพิมพ์ต่อในรูปแบบนิยายไซด์สตอรี่อีก 2 ชุดด้วยกัน!!! จากการเปิดเผยบนแถบคาดปกฉบับรวมเล่ม เล่มสุดท้าย เล่มที่ 74 ของ บลีช ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยนิยายชุดแรก เขียนโดย มาโคโตะ มัตซึบาระ จะนำเสนอเรื่องราวของเร็นจิ กับ ลูเคีย มีกำหนดวางขายที่ญี่ปุ่น ธ.ค. 2016 ส่วนนิยายเล่ม 2 เขียนโดย เรียวโก นาริตะ ผู้แต่งไลท์โนเวล Baccano! กับ Durarara!! ซึ่งจะนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ของ ฮิซางิ ชูเฮย์ มีกำหนดวางขายในญี่ปุ่น ปี 2017

นอกจาก บลีช จะได้รับการตีพิมพ์ฉบับนิยายเพิ่มเติมแล้ว ก็ยังมีข่าวดีของแฟนๆเรื่องนี้ นั่นคือ อ.ไทเท คุโบะ ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ ได้ตัดสินใจกลับมาเปิด twitter ส่วนตัวอีกครั้ง หลังจากปิดไปพักหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่ ก.ย.2015 และพร้อมกันนี้ เขายังได้โพสต์รูปถ่ายที่ตัวเองคอสเพลย์เป็น มายูริ เป็นการฉลองการกลับมาของ twitter ของเขาอีกครั้ง

แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


Ajin สายพันธุ์อมนุษย์ กำลังจะทำเป็นหนังคนแสดง

Ajin สายพันธุ์อมนุษย์ มังงะฟอร์มแรงของ อ.กามง ซากุไร ก็ได้รับการดัดแปลงเพิ่มเติม ในรูปแบบของหนังคนแสดง มีกำหนดออกฉายปี 2017 โปรเจ็คดังกล่าวได้ คัตซึยูกิ โมโตฮิโระ (Psycho-Pass, Space Travelers, Bayside Shakedown) รับหน้าที่กำกับ และนำแสดงโดย ทาเครุ ซาโต้ นักแสดงหนุ่มผู้เคยผ่านตากับบทบาท เคนชิน จากหนัง Rurouni Kenshin และ Kamen Rider Den-O มารับบทเป็น เคย์ นากาอิ ตัวหนังมีกำหนดเปิดกล้องในปี 2017 ซึ่งตัวละคร เคย์ ในฉบับหนัง จะมีการเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ ทั้งอายุ แล้วก็เปลี่ยนอาชีพเป็นนักศึกษาแพทย์ ให้เข้ากับซาโต้พอดี

อีกทั้ง Ajin ฉบับคนแสดง ยังได้ว่าจ้างทีมงานคิวบู๊จากหนัง Kenshin มาร่วมงานโปรเจ็คนี้ โดย ซาโต้ กล่าวว่า เขาเคยอ่านมังงะ Ajin เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวเขาในฐานะของคนอ่าน รู้สึกว่าเป็นมังงะที่สนุกมากและอยากให้เรื่องนี้ได้ทำเป็นหนังเหลือเกิน

Ajin เป็นเรื่องราวของ พวกสิ่งมีชีวิตอมตะที่ปรากฏตัวครั้งแรกที่สมรภูมิรบแอฟริกา เมื่อ 17 ปี ก่อน จากนั้นมันก็ได้กลายพันธุ์แฝงตัวมากับมนุษย์ และถูกเรียกขานว่า Ajin โดยเมื่อช่วงก่อนปิดเทอมฤดูร้อน เคย์ เด็กนักเรียน ม.ปลายชาวญี่ปุ่น ได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการหลบหนีการตามล่าจากมนุษย์ ปัจจุบันเรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงในรูปแบบหนังอนิเมไตรภาค แล้วก็ อนิเมทีวี 2 ชุด


แหล่งข่าว : Comic Natalie , animenewsnetwork.com


รายละเอียดเพิ่มเติม มังงะ spin off ชุดใหม่ของ ซามูไรพเนจร

จากข่าวที่เคยรายงานไปว่า อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ กำลังจะเขียนมังงะภาคแยกชุดใหม่ล่าสุดของ Rurouni Kenshin หรือ ซามูไรพเนจร ไปนั้น ล่าสุด ก็มีรายละเอียดเพิ่มของมังงะภาคแยกชุดดังกล่าวออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อว่า The Tale In Rurouni Kenshin - Ashitaro's Criminal Record ซึ่งเพิ่งมีการตีพิมพ์ตอนแรกไป ในนิตยสาร Jump SQ ฉบับ ธ.ค. ที่ออกวางขายไปเมื่อ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา และ จะตีพิมพ์ตอนที่ 2 ซึ่งเป็นตอนจบ ในนิตยสารดังกล่าว ฉบับ ม.ค. 2017 ที่จะวางขายวันที่ 2 ธ.ค.นี้

โดยมังงะดังกล่าวจะเป็นเรื่องราวของ อาชิทาโร่ (บนขวา ของภาพล่าง) ตัวละครใหม่ที่เพิ่งมีการกล่าวถึง อีกทั้ง มังงะภาคแยกของเคนชินชุดนี้ เป็นการตีพิมพ์เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 9 ปี ของ Jump SQ อีกด้วย



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Cinema Today , crunchyroll.com


Universal สานต่อโปรเจ็ค Live Action ของ Voltron

Deadline ได้รายงานว่า ทาง Universal Pictures ได้ใช้ประโยชน์จากการที่ NBCUniversal บริษัทแม่ของตน เป็นหุ้นส่วนของ DreamWorks Animation ด้วยการเตรียมรับงานโปรเจ็คหนังคนแสดงของ Voltron ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนอนิเมชั่นหุ่นยนต์ยุค 80 มาสานต่อ โดยจะได้ David Hayter คนเขียนบทให้กับหนัง X-Men กับ Watchmen รวมถึงเป็นผู้ให้เสียงตัวละคร Solid Snake จากเกม Metal Gear จะมารับหน้าที่เขียนบทให้กับหนังเรื่องนี้ อีกทั้งยังได้ Tom Engelman เป็นผู้อำนวยการสร้าง

Deadline กล่าวอีกว่า ทางสตูดิโอไม่ได้พูดถึงความคืบหน้าของโปรเจ็คดังกล่าว แต่พวกเขาจะรับเอาบทที่มีการร่างเสร็จแล้ว มาพิจารณาต่ออีกทีว่า จะดำเนินการไปในทิศทางไหน อีกทั้ง พวกเขายังเตรียมที่จะรื้อฟื้นโปรเจ็คอื่นๆของ DreamWorks Animation ที่ได้มีการผลิตให้กับ Netflix ด้วยเช่นกัน

Voltron เป็นอนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากอนิเมญี่ปุ่น เรื่อง GoLion อีกที ออกฉายช่วงปี 1984-85 ก่อนที่จะมีการทำอนิเมชั่นอีกชุดนึง กับ Vehicle Team Voltron (ดัดแปลงมาจากอนิเมญี่ปุ่น Armored Fleet Dairugger XV) ซึ่งออกฉายคู่ขนานกับอนิเมชั่นแรกสุดอีกด้วย การมาของเรื่องนี้ ก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมตะวันตกพอสมควร และมีการต่อยอดในอีกหลายโปรเจ็คด้วยกัน


แหล่งข่าว : Deadline , crunchyroll.com


ตัวแสบแอบเกรียน อุมารุจัง จ่อเป็นละครซีรี่ย์แดนมังกร!!?

ช่วงนี้คงเป็นช่วงเวลาที่ชาวอาตี๋-อาหมวยใหญ่จากจีนแผ่นดินใหญ่ เริ่มติดใจกับการเอาการ์ตูนอนิเมดังของญี่ปุ่น มาดัดแปลงในรูปแบบคนแสดงของจีน หลังจาก City Hunter ได้ถูกดัดแปลงเป็นหนังคนแสดงของจีน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน..... ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก Gamersky.com เว็บไซต์บันเทิงของจีน ที่ระบุว่า Himouto! Umaru-chan หรือ ตัวแสบแอบเกรียน อุมารุจัง ผลงานการ์ตูนของ อ.Sankaku Head กำลังจะได้รับการดัดแปลงเป็นละครคนแสดงของจีน มีกำหนดออกฉายในปี 2017 ข่าวดังกล่าวมีการประกาศอย่างเป็นทางการในงานอีเว้นต์เปิดตัวลิขสิทธิ์อุมารุจังที่เมืองจีน ซึ่งมีตัวแทนของสนพ.Shueisha ต้นสังกัดการ์ตูนเรื่องนี้ที่ญี่ปุ่น มาปรากฏตัวในงานด้วย (เป็นการยืนยันโดยนัยๆว่า ทางจีนได้รับอนุญาตให้นำอุมารุจังไปทำเป็นละครจริงๆ นาจา)

ขณะนี้อยู่ในระหว่างจัดทำบทละคร ที่จะอิงจากมังงะต้นฉบับซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young Jump โดยละครชุดนี้จะได้บริษัทในท้องถิ่นอย่าง NetEase ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในจีน , Caesar Co., Ltd. บริษัทเทรดดิ้ง, Penguin Compass สนพ.ในจีน, และ Haiti TV ร่วมด้วยช่วยกันสร้าง

อุมารุจัง เป็นการ์ตูนแนวตลกวุ่นวาย กับเรื่องราวของ อุมารุ น้องสาวของไทเฮย์ ผู้เป็นเด็กผู้หญิงสุดเพอร์เฟ็คทั้งรูปร่าง หน้าตา และความสามารถต่างๆ ทว่า พอเธออยู่ที่บ้าน เธอจะกลายไปเป็นคนอีกบุคลิกหนึ่ง นั่นคือเป็นคนขี้เกียจแบบสุดๆ เอาแต่เล่นเกม ดูทีวี กินขนม อยู่อย่างเดียว แถมยังชอบสวมชุดหนูทำตัวหดจิ๋วอีกต่างหาก โดยอุมารุในโหมด'อยู่บ้าน' ก็สร้างความว้าวุ่นใจให้แก่ไทเฮย์อย่างมาก


แหล่งข่าว : Yaraon! , Gamersky.com , crunchyroll.com


เป็นเรื่อง.........เทศมนตรีเมือง Ichinomiya ได้รับเมล์ขู่ กรณีการจัดระเบียบเกม Pokémon Go

แม้ว่า เกมไล่จับโปเกม่อน Pokémon Go จะมีกระแสที่ซาลงไป ถึงกระนั้น ก็ยังคงมีอยู่หลายคนที่ยังคงขะมักเขม่นในการตามหาตัวโปเกม่อนหายากเพื่อเป็นเกียรติของตัวเอง ....ยังไงซะ เกมนี้ ยังคงมีประเด็นให้คนในสังคมได้พูดถึง เช่นเคย ซึ่งข่าวนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การที่มีชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่ง ถูกตำรวจ จ.ไอจิ จับกุมตัวในข้อหาเล่น Pokémon Go ขณะขับรถ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกในอนาคต ทางจนท.ตำรวจไอจิ กับ Nakano Masayasu นายกเทศมนตรีเมือง Ichinomiya ใน จ.ไอจิ ได้ดำเนินการติดต่อไปยัง Niantic Inc. ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go เพื่อเรียกร้องให้บริษัทดังกล่าว ดำเนินการอัพเดตตัวเกมให้มีฟังก์ชั่นหยุดทำงาน ในขณะที่ผู้เล่นกำลังขับรถ รวมถึง ถอดถอนตัวโปเกม่อน ไม่ให้ปรากฏอยู่ตามถนนหรือข้างทาง

จากความพยายามในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของเทศมนตรีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กลับสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาผู้เล่นเกมนี้ ที่มองว่าทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพยายามที่จะกำจัดหรือกีดกันผู้เล่น Pokémon Go ยิ่งไปกว่านั้น นายกเทศมนตรีก็ได้รับอีเมล์หลายฉบับ ที่มีใจความเรียกร้องให้ยกเลิกคำร้องขอถึง Niantic ,บ้างก็ส่งมาข่มขู่ อย่างเช่น "มันคงจะดีใช่มั๊ย ที่จะได้เห็นสภาเมืองลุกเป็นไฟ" เป็นต้น ขณะที่ Nobusuke Kawai ชายผู้เป็นผู้ต้องหาในคดีเล่นเกม Pokémon Go ขณะขับรถ ได้กล่าวแนะนำสั้นๆว่า "ระวังตัวด้วย หากอยู่บนถนนในเวลาค่ำคืน"

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไอจิ อยู่ในระหว่างสืบสวนการหาต้นตอของอีเมล์ขู่ถึงนายกเทศมนตรี โดยพวกเขาจะตั้งข้อหา "พยายามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐบาล" ให้แก่ผู้ต้องหา หรือ ชาวเมือง ผู้ซึ่งส่งอีเมล์ขู่เหล่านั้น

แหล่งข่าว : Otakomu ,crunchyroll.com


P.A. Works ออกแถลงการณ์ กรณีลูกจ้างโพสต์ข้อความไม่พอใจสตูดิโอ บนสื่อโซเชียล

ประเด็นสภาพการทำงานอันไม่สู้ดีของอนิเมเตอร์ญี่ปุ่น กลายเป็นปัญหาคาราคาซังที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงๆจัง .......ล่าสุดก็มีดราม่าบังเกิดขึ้น เมื่อมีพนักงานของ สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังอนิเม Shirobako, Kuromukuro, Charlotte, The Eccentric Family ได้โพสต์ข้อความเชิงไม่พอใจสตูดิโอต้นสังกัดเกี่ยวกับสภาพการทำงานของที่นั่นบนสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ร้อนถึง P.A. Works ต้องออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ก่อนอื่น ขอขอบพระคุณที่สนับสนุนบริษัทของเรากับผลงานของเราเป็นอย่างดีเสมอมา ซึ่งจากกรณีที่มีพนักงานของเราได้ใช้สื่อโซเชียลในการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับรายละเอียดค่าจ้างและอื่นๆ ทางเราขออภัยทุกท่านสำหรับความไม่สบายใจและความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทางเราได้ติดต่อพนักงานคนนั้น เพื่อสอบถามพูดคุยและยืนยันความจริงที่เกิดขึ้น โดยการพูดคุยนั้นเป็นไปอย่างจริงจังทั้งในมุมมองของบริษัทกับพนักงาน

เบื้องต้น ทางบริษัทยังไม่ยกเลิกสัญญาจ้างของพนักงานคนดังกล่าว รวมถึง ไม่ได้สั่งให้พนักงานคนดังกล่าวลบข้อความที่โพสต์บนโซเชียลออกไป ในระหว่างที่เรากำลังพูดคุยกับพนังงานคนนั้น เราขออภัยสำหรับบุคคลที่ถูกพาดพิงบนข้อความบนโซเชียล และขออภัยอีกครั้ง โดยเฉพาะ ผู้ถูกพาดพิง ที่ตกเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่

นอกจากนี้ รูปภาพและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานคนดังกล่าวกับพนักงานคนอื่น ที่พนักงานคนนั้นโพสต์เป็นการส่วนตัว ได้ถูกนำไปเผยแพร่ออกไปโดยพลการ ซึ่งเป็นการกระทำอันไม่เป็นการเคารพและละเมิดส่วนบุคคล โปรดช่วยกันพิจารณาถึงการกระทำดังกล่าว

ประเด็นดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อผู้ใช้ twitter นาม @hoke_hokke ได้โพสต์ข้อความเชิงไม่พอใจเกี่ยวกับการทำงานอนิเมเตอร์ ที่ P.A. Works พร้อมกับได้โพสต์ภาพถ่ายที่เป็นใบเสร็จเงินเดือนซึ่งได้มีการเซ็นเซอร์ชื่อพนักงาน โดยเนื้อความของข้อความที่ถูกโพสต์ขึ้น เป็นการระบายความไม่พอใจเกี่ยวกับเงินเดือนของอนิเมเตอร์ และความคาดหวังต่างๆ ซึ่ง twitter ของเขาได้ตั้งค่าเป็นการส่วนตัว และมีเพียงไม่กี่คนที่จะเห็นข้อความนั้น

เมื่อปี 2015 สมาคมผู้สร้างอนิเมชั่นญี่ปุ่น (JAniCA) ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเกี่ยวกับสภาพการทำงาน รายได้เฉลี่ย ชั่วโมงการทำงานของอนิเมเตอรืในวงการอนิเมชั่นญี่ปุ่น ซึ่งพบว่า รายได้เฉลี่ยต่อปีของอนิเมเตอร์ระดับล่าง ในปี 2013 อยู่ที่ 1.113 ล้านเยน ขณะที่ ผู้กำกับ กับ หัวหน้าผู้กำกับอนิเมชั่น เป็นตำแหน่งงานอนิเมเตอร์ที่ได้รับเงินเดือนสูงที่สุด ต่างมีรายได้ต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าวที่ 6.486 ล้านเยน กับ 5.638 ล้านเยน ตามลำดับ


แหล่งข่าว : Hachima KikōYaraon! , animenewsnetwork.com

 


อนิเมฤดูใบไม้ร่วง 2016 ที่แฟนๆต้องการจะรับชมกันต่อ?

Charapedia ได้ทำการสำรวจแฟนๆอนิเมนับหมื่น เกี่ยวกับกระแสการตอบรับของอนิเมทีวีที่ออกฉายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หลังจากผ่านพ้นไป 1 เดือน แล้วมีเรื่องไหนบ้างที่พวกเขาต้องการจะรับชมต่อ โพลดังกล่าว มีการสอบถามช่วงวันที่ 27 ต.ค. - 2 พ.ย. ผู้ตอบโพลส่วนใหญ่ เป็นผู้หญิง 53.9% กับ เป็นกลุ่มวัยรุ่นถึง 68%

(วงเล็บข้างหลัง คือ อันดับความคาดหวัง ที่มีการโหวตก่อนที่อนิเมเรื่องเหล่านี้จะออกฉาย)

1 (2). "Natsume's Book of Friends" 5th season - 605 pt

2 (-). "WWW.WORKING!!" - 538 pt

3 (3). "Sound! Euphonium" 2nd season - 455 pt

4 (-). "Yuri!!! On ICE" - 415 pt

5 (6). "March Comes in like a Lion" - 415 pt

6 (4). "Bungo Stray Dogs" 2nd cour - 379 pt

7 (12). "Drifters" - 348 pt

8 (1). "Haikyu!! Karasuno High School vs Shiratorizawa Academy" - 307 pt

9 (7). "Mobile Suit Gundam: Iron-Blooded Orphans" 2nd season - 304 pt

10 (10). "The Great Passage" - 287 pt

11 (9). "Touken Ranbu -Hanamaru-" - 285 pt

12 (11). "Magical Girl Raising Project" - 256 pt

13 (-). "Izetta: The Last Witch" - 247 pt

14 (17). "Girlish number" - 228 pt

15 (5). "Uta no Princesama Maji LOVE Legend Star" - 201 pt

16 (-). "Vivid Strike!" - 197 pt

17 (-). "Scorching Ping Pong Girls" - 185 pt

18 (16). "Magic of Stella" - 176 pt

19 (-). "Occultic;Nine" - 170 pt

20 (14). "Kiss Him, Not Me" - 160 pt

Top 5 ของผู้โหวตชาย:

1. "Sound! Euphonium" 2nd season - 353 pt

2. "WWW.WORKING!!" - 263 pt

3 "Mobile Suit Gundam: Iron-Blooded Orphans"2nd season - 249 pt

4. "Izetta: The Last Witch" - 211 pt

5. "Yuri!!! On ICE" - 175 pt


Top 5 ของผู้โหวตหญิง:

1 "Natsume's Book of Friends" 5th season - 498 pt

2. "Bungo Stray Dogs" 2nd cour -348 pt

3. "WWW.WORKING!!" - 275 pt

4. "Yuri!!! On ICE" - 240 pt

5. "Touken Ranbu -Hanamaru-" - 239 pt



แหล่งข่าว :  Charapedia , crunchyroll.com



อันดับการ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่น ประจำวันที่ 24-30 ต.ค. 2016

10 อันดับการ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่น ของ Oricon ประจำวันที่ 24-30 ต.ค. 2016 ปรากฏว่า Omoi, Omoware, Furi, Furare ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้แต่ง Ao Haru Ride ก็พาเล่ม 4 เปิดตัวสัปดาห์แรกด้วยอันดับ 1 ตามด้วย คู่หูหน้าละม้ายพระเยซุ พระพุทธเจ้า จาก Saint☆Onii-san ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 กับเล่ม 13 ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ Kyou wa Kaisha Yasumimasu. สักวันที่ฉันมีเธอ เล่ม 12


(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 168,863 168,863 Omoi, Omoware, Furi, Furare เล่ม 4
*2. 141,606 277,014 Saint☆Onii-san เล่ม 13
*3. 135,502 135,502 Kyou wa Kaisha Yasumimasu. สักวันที่ฉันมีเธอ เล่ม 12
*4. 128,592 550,539 Kingdom เล่ม 44
*5. *99,940 427,489 Nanatsu no Taizai ศึกตำนาน 7 อัศวิน เล่ม 23
*6. *87,275 192,751 Kinou Nani Tabeta? เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? เล่ม 12
*7. *82,207 174,974 Giant Killing เล่ม 42
*8. *76,565 *76,565 ReRe Hello เล่ม 11
*9. *62,094 240,651 Diamond no Ace / Ace of Diamond Act II เล่ม 5
10. *61,017 *61,017 I Am a Hero ข้าคือฮีโร่ เล่ม 21


แหล่งข่าว : Oricon , MAL


 

 
free hit counter javascript