บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง กับควันหลงวันปล่อยผีฝรั่ง ที่คนไทยจำนวนหนึ่งก็ตามกระแส Trick or Treat กันไป แต่ที่แน่ๆ น้องๆหลายคน คงต้องเตรียมตัวไปโรงเรียนกัน เพราะว่า เปิดเทอมใหม่(กันอีกแล้ว) ซึ่งก็มีอยู่บางโรงเรียนได้ทยอยเปิดเทอมกันไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา .....ฟังดูแล้ว อาจเป็นการปิดเทอมที่ไม่เต็มอิ่มนัก เพราะว่าสั้นเหลือเกิน ถึงกระนั้น เด็กวัยเรียนก็ยังมีวันเปิดเทอม เมื่อเทียบกับ ผู้ใหญ่ทั้งหลายแหล่ที่ต้องไปทำงานกันแบบไม่หยุดหย่อน แทบไม่มีปิดเทอม (นอกจากลาพักร้อน)......เอาเป็นว่า เปิดเทอมใหม่ทั้งที ขอให้ตั้งอกตั้งใจเรียนกันให้มากๆ ในตลอดระยะเวลา 4-5 เดือน ก่อนที่ปิดเทอมฤดูร้อนจะกลับมาเยือนกันอีกหนนึง........ แล้วก็วางแผนการเดินทางไปเรียนหนังสือกันให้ดีๆครับ
สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com) สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter Facebook หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ
การ์ตูนออกใหม่ประจำสัปดาห์ ยังอยู่ท่ามกลางงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ในช่วงท้ายๆ จึงมีเรื่องฮิตเรื่องดังอัดแผงคับคั่ง เริ่มจาก คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส เล่ม 27 เล่มนี้มาในอารมณ์ของเพลงพี่กบ ทรงสิทธิ์.......ในศึกปะทะราคุซันรอบไฟนอลของวินเตอร์คัพ คุโรโกะถูกทำลาย!? เพื่อแลกกับชัยชนะที่แล้วมา คุโรโกะต้องสูญเสียคุณสมบัติเด่นของตัวเองไป พวกเซย์รินตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบเท่านี้ไม่พอ สมาชิกคนสุดท้ายของราคุซัน มายุซุมิ จิฮิโระ ยังเปิดฉากจู่โจมซ้ำ ตัวจริงของเขาคือซิกซ์แมนมายารุ่นใหม่ ที่มีจุดเด่นแบบเดียวกับคุโรโกะ!?
ยอดนักปรุงโซมะ เล่ม 13 ศึกรอบชิงฯของ 3 หนุ่มที่เอาชนะผ่านการต่อสู้อันดุเดือดมาได้ สุดท้ายใครจะไปถึงจุดสูงสุดของ "การคัดเลือกฤดูใบไม้ร่วง"...!? หลังจากคัดเลือก การต่อสู้ของพวกโซมะก็เริ่มเข้าสู่บทใหม่! การทดสอบต่อไปที่ต้องถูกทดสอบฝีมือในฐานะพ่อครัวนั้นคืออะไร!? เริ่มภาคใหม่แล้ว!!
Terra Formars ภารกิจล้างพันธุ์นรก เล่ม 8 ขณะที่การต่อสู้ระหว่างกลุ่ม 3 กับกลุ่ม 4 ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เหล่าเทราฟอร์เมอร์ที่เงียบหายไปพักใหญ่ก็ได้โผล่มาแสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ เกิดกลายเป็นสงคราม 3 ฝ่าย! แล้วในที่สุดกลุ่ม 4 ก็นำอาวุธสุดท้ายต้องห้ามออกมาใช้...! การเตรียมใจของเหล่านักรบที่รอดชีวิตอยู่เพื่อทำภารกิจให้ลุล่วง ได้กระตุ้นให้ผืนแผ่นดินของดาวอังคารร้อนระอุยิ่งขึ้น!!
รักลวงป่วนใจ เล่ม 18 วันที่ 3 ของการไปทัศนศึกษาที่เกียวโต ราคุได้ไปยังวัดที่มีชื่อในฐานะพาวเวอร์สป็อต ที่นั้นมีลูกศรที่ว่ากันว่าหากโดนยิงแล้วจะทำให้สมหวังในรักอยู่ ราคุที่ไม่รู้เรื่องนั้น จึงถูกจิโตเกะ มาริกะ และโคซากิรุมเล็งยิง!! ใครจะเป็นคนแผลงศรใส่ราคุได้กันนะ!?
ยุ่งนักหนา เลขาพญายม เล่ม 5 ท่านโอะจิโซะคือร่างอวตารของพญายมเอ็นมะ มีนรกเฉพาะบาปจากการเอาเหล้าให้ช้างดื่มจนอาละวาดด้วยล่ะ ครั้งนี้เองมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับนรก
ที่ไม่มีประโยชน์ในชีวิตจริงเลย มาฝากกันอีกตามเคย ไหนจะการประกวดดอกลิ้นมังกร, หนึ่งวันของชิโระแล้วก็การประชุมตามกำหนดของนรก etc.Executional มหาสงครามโลกออนไลน์ เล่ม 29 Cosmic Grand Battle คืออีเวนท์ที่นำผู้ถืออาวุธไร้เทียมทานทั้งสิบสองมาต่อสู้กัน เพื่อหาผู้ที่เป็นหนึ่ง อีเวนท์นี้ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบท่ามกลางสถานการณ์คับขันที่เพลเยอร์ไม่ สามารถออกไปที่จักรวาลหลักได้อย่างปลอดภัยอีกต่อไป...ในทางอ้อม อีเวนท์นี้ได้เตรียมการไว้เพื่อยกระดับเพลเยอร์ทั้งหลาย เพื่อให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพื่อให้ความหวังที่แสนเจือ จางได้ส่องสว่างอย่างที่มันควรจะเป็น ...และตอนนี้การต่อสู้ในรอบแรกกำลังใกล้จะได้ผลสรุปแล้ว!นิยาย ExEcutional ตำนานวีรบุรุษโลกไม่ (อยาก)จำ นิยายจากมังงะการ์ตูนไทยสุดฮิต ที่ยังคงรักษาความฮาแตกไม่แพ้การ์ตูน...เหล่าเพลเยอร์เอ๋ย เคยมีคำกล่าวว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ แล้ววีรบุรุษสามารถสร้างสถานการณ์หรือไม่? นี่คือตำนานของวีรบุรุษสุดเกรียน กับวีรกรรมสุดเพี้ยน ที่คนทั้งโลกไม่อยากจะจำ เมื่อความมืดมิดครอบงำดวงดาว สาวผมม่วงแดง หนุ่มตาสองสี องค์หญิงติดเกม จานบินปริศนา มะนาวต่างดุ๊ด องค์กรชุดดำ วินมอไซ กับแอปเปิ้ลที่หายไป เชิญพบกับฉากสำคัญที่ไม่เคยมีใครสนใจ (?) ของตัวละครสำคัญที่ไม่เคยมีใครรู้จัก (?) กับเรื่องราวผจญภัยอันหาสาระไม่ได้เลย (?) ส่วนจะถามว่าเขาเป็นใครงั้นหรือ... ขอตอบเลย...เฮ้ย (ไม่บอกเฟ้ย) เอาเป็นว่าเชิญหาเฉลยได้ภายในเล่มละกัน!
Love Live! School idol diary เล่ม 4 ~นิชิกิโนะ มากิ~ , Love Live! School idol diary เล่ม 5 ~โคอิสึมิ ฮานาโยะ~ , Love Live! School idol diary เล่ม 6 ~โฮซึโซระ ริน~ รวมถึง นิยาย K SIDE:RED
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:
Psychometrer เล่ม 10,อลิสในแดนมรณะ เล่ม 7,GTO - Paradise Lost เล่ม 2 ,LUNATIC AKOMA! แก๊งป่วน ก๊วนโคม่า เล่ม 3,Biorg Trinity โรคร้ายกลายพันธุ์มนุษย์ เล่ม 6,Van Helsing Darkness Blood เล่ม 2,นิยาย ชมรมคนไร้เพื่อน เล่ม 9-10,Date A Live Dead End Tohka เล่ม 2
รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp
เป็นเคส 'ตัดจบ'การ์ตูนที่นานๆจะเกิดขึ้นที ซึ่งเคสที่ว่ามานี้ไม่ได้มาจากสาเหตุความนิยมต่ำ แต่เป็นเพราะกระแสสังคมต่างหาก .... ล่าสุด บก.ของนิตยสาร Morning ของสนพ.Kodansha ได้แจ้งว่า ผลงานการ์ตูนเรื่อง Himo Zairu ของ อ.อากิโกะ ฮิงาชิมุระ (Princess Jellyfish) ไม่ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Morning Two ตั้งแต่ฉบับ ธ.ค. 2015 (วางขาย 22 ต.ค. 2015) เป็นต้นไป ทั้งๆที่เรื่องนี้เดิมทีมีกำหนดลงตีพิมพ์ในฉบับดังกล่าว ซึ่งพวกเขาได้กล่าวขออภัยถึงผู้อ่านที่กำลังติดตามผลงานเรื่องนี้ ซึ่งการที่เรื่องนี้ตัดสินใจหยุดตีพิมพ์ไปนั้น เป็นไปตามความต้องการของ อ.ฮิงาชิมุระ เอง
อีกทั้ง บก.ของ Morning ได้ตีพิมพ์คำแถลงของ อ.ฮิงาชิมุระ เกี่ยวกับเคสที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เธอได้รับฟีดแบ็คด้านลบจากผลงานเรื่องนี้เป็นจำนวนมากนับตั้งแต่เรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์ เธอจึงออกมากล่าวขอโทษ สำหรับผู้อ่านส่วนหนึ่งที่รู้สึกไม่พอใจต่อผลงานเรื่องนี้ รวมถึง คนที่กำลังรอคอยติดตามเรื่องนี้ เช่นกัน โดยเธอบอกอีกว่า ผลงานเรื่องนี้เธออิงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่จากการที่ผลงานเรื่องนี้ออกมาไม่ถูกใจกับทุกคน เธอจึงตัดสินใจที่จะหยุดเขียนเรื่องนี้ต่อ ส่วนอนาคตความเป็นไปของเรื่องนี้หลังจากหยุดตีพิมพ์นั้น ทางเธอ(รวมถึงบก.)ขอนำไปพิจารณาอีกที
ผลงานดังกล่าว ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Morning Two ฉบับ ต.ค. ที่ออกวางขายไปเมื่อ 22 ส.ค. 2015 เป็นเรื่องราวของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า himo ซึ่งสื่อถึง พวกนีท คนไม่ทำงานทำการ ที่คอยแต่เกาะผู้หญิงกิน ในเรื่องเงินๆทองๆ โดยมีคำโปรยถึงเรื่องนี้บนนิตยสารว่า "ไม่มีเงิน , ไม่เด่นดัง , ไม่มีงาน ก็เพราะชั้นนั้นไร้ประโยชน์สุดๆ ชั้นถึงกลายเป็น himo ไง!! สำนักฝึกฝนกลายเป็น himo ของ อากิโกะ ฮิงาชิมุระ ได้รูดม่านเปิดฉากขึ้น!" ซึ่งข้อมูลบนเว็บไซต์นสพ. Asahi Shimbun ได้เสริมว่า ผลงานการ์ตูนเรื่องนี้ อ.ฮิงาชิมุระ เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของผู้ช่วยชายของเธอ กับ ผู้ชายคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเธอ มาเป็นต้นแบบของเรื่อง ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอถูกนักอ่านวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในแง่ที่เธอมีมุมมองส่วนตัวที่ค่อนข้างดูถูกผู้ช่วยกับผู้ชายคนอื่นๆจนเกินไป
แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com
"ดิฉันยอมรับว่า การโต้แย้งในเรื่องของเสรีภาพด้านการแสดงออกมันมากล้นจนเกินไป เราควรจะควบคุมตรงส่วนของการ์ตูนมังงะด้วย ในเมื่อมันมากับภาพลามกอนาจาร" De Boer-Buquicchio กล่าว
De Boer-Buquicchio เพิ่งเสร็จสิ้นการบรรยายศึกษา เกี่ยวกับสถานการณ์การทารุณกรรมทางเพศในญี่ปุ่น ในช่วง 8 วันที่ผ่านมา ซึ่งเธอนั้นได้พูดคุยกับบุคคลหลายฝ่ายของญี่ปุ่น ทั้งรัฐบาล ,เจ้าหน้าที่กฎหมาย,องค์กรเอกชน และ เหยี่อ
ญี่ปุ่นเพิ่งผ่านกฎหมายว่าด้วยการครอบครองภาพลามกอนาจารเด็ก เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2014 แม้ว่า กฎหมายดังกล่าวจะไม่ได้ครอบคลุมถึงมังงะกับอนิเมก็ตาม แต่กฎหมายนี้ยังมีช่องโหว่อีก ในแง่ของการครอบครองภาพถ่ายของเด็กๆที่เปลือยครึ่งตัว หรือ แต่งกายรัดรูป โชว์ผิวหนังเยอะๆ รวมไปถึง การครอบครองและจำหน่าย DVD - ภาพถ่ายของเด็ก ที่มีเนื้อหายั่วยุทางเพศ ทางออนไลน์และขายอย่างโจ่งแจ้งบนร้านค้า ยังเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ดี
De Boer-Buquicchio กล่าวถึงประเด็นกฎหมายข้างต้นว่า "ของพวกนี้มันเป็นธุรกิจที่ทำกำไรอย่างงามอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งก็คือ มันกลายเป็นเทรนด์ที่ดูเหมือนว่าสังคมญี่ปุ่นจะให้การยอมรับ ยอมทน กับมันไปแล้ว" โดยอ้างว่า ทางผู้ใช้กฎหมายของญี่ปุ่นไม่เด็ดขาดจริงจังเท่าที่ควร เลยทำให้ญี่ปุ่นมีผู้ก่อเหตุทารุณกรรมทางเพศในเรตที่สูงเอามากๆ เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาอื่นๆ และด้วยปัจจัยเหล่านี้ รวมไปถึงความจำทนด้านสถาบันกับสังคมของญี่ปุ่น ที่ทำเอาเกิดคดีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กมากขึ้น เธอจึงเสนอแนะให้ญี่ปุ่นดำเนินมาตรการแบนการ์ตูนโป๊ลามกแบบสุดขั้วเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว รวมถึงยังได้เสนอให้หามาตราการลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำการรับชมภาพลามกเด็ก อีกเช่นกัน
The Japan Times , The Straits Times , animenewsnetwork.com
มิยาตะ เริ่มเข้าสู่อาชีพนักเขียนการ์ตูน เมื่อปี 2007 กับผลงานสั้นเรื่อง "Neko de Tandem" (Tandem With a Cat) ลงในนิตยสาร Comic Beam Fellows! ของสนพ.Kadokawa จากนั้น เขามีผลงานการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกในชีวิต กับ Kikimimi Zukan (Pictorial Book of Sound), ในนิตยสาร Comic Beam เมื่อปี 2008 ต่อจากนั้น เขามีผลงานการ์ตูนอีก 2 เรื่อง กับ Mahiru ni Miyoko (Miyoko at Noon) และ Inugami-hime ni Kuchizuke (A Kiss for the Dog God Princess) ลงในนิตยสาร Fellows! หรือ Harta ในปัจจุบัน ซึ่งเรื่อง Mahiru ni Miyoko มีลิขสิทธิ์ในไทยโดย สนพ.Zenshu ในชื่อ 'สาวแสบวิญญาณซ่าส์ '
นอกจากนี้ เขามีผลงานการ์ตูนเรื่องสั้นอีกมากมาย และตีพิมพ์รวมลงในมังงะชุด Utatane Hime (Napping Princess) กับ Yome ga Kore na Mon de.
แหล่งข่าว : Narinari , animenewsnetwork.com
โนริโยชิ โอราอิ ศิลปินนักวาดโปสเตอร์ให้กับหนัง-อนิเมไซไฟเรื่องดัง อย่าง Godzilla กับ Star Wars ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 79 ปี จากอาการปอดบวม เมื่อช่วงสายของวันที่ 27 ต.ค. 2015 ณ รพ.แห่งหนึ่งในเมือง คุนิโทมิ จ.มิยาซากิ
โอราอิ เกิดที่เมือง อาคาชิ จ.เฮียวโก เมื่อปี 1935 เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ กับดนตรี แห่งโตเกียว (ม.ศิลปะโตเกียว ในปัจจุบัน) หลังจากหยุดเรียนกลางคัน เขาก็อุทิศให้กับงานศิลปะอย่างเต็มที่ เมื่อปี 1962 จากนั้น เขาได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่ จ.มิยาซากิ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยาเขา
โอราอิ เป็นที่รู้จักจากผลงานออกแบบโปสเตอร์ระดับโลก ให้กับหนัง Star Wars Episode V: The Empire Strikes Back จากนั้นเขามีโอกาสในการออกแบบโปสเตอร์ในหลากหลายชิ้นงาน หลังจากโปสเตอร์ Star Wars ของเขา ได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสารไซไฟ ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของ George Lucas ผู้ให้กำเนิดหนัง Star Wars ยิ่งนัก และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงนอกประเทศญี่ปุ่น
อีกทั้ง เขามีผลงานทำโปสเตอร์ให้กับหนัง Godzilla หลายภาค ตั้งแต่ The Return of Godzilla, Godzilla vs. Boliante, Godzilla vs. King Ghidora, Godzilla vs. Mothra, Godzilla vs. MechaGodzilla II, Godzilla vs. SpaceGodzilla, รวมถึง Godzilla vs. Destroyah ที่ออกฉายช่วงปี 1984 - 1995 อีกทั้ง เขายังทำโปสเตอร์ให้หนัง Godzilla อีก 2 ชุด ทั้ง Godzilla vs. Megaguirus กับ Godzilla: Final Wars ที่ออกฉายในปี 2000 กับ 2005 ตามลำดับ นอกจากนี้ เขามีผลงานออกแบบโปสเตอร์ให้กับหนัง The Goonies ,The Sinking of Japan โปสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับอนิเมดัง จาก Macross Perfect Memory book ,Mobile Suit Gundam: Char's Counterattack , โปสเตอร์จากเกมวีดีโอ Metal Gear Solid รวมถึงมีผลงานออกแบบปกนิยายกับมังงะจำนวนหนึ่ง อาทิ Lensman , Genma Taisen ,Jurassic Park ,Spider-Man และ MazinSaga
ด้วยผลงานเหล่านี้ ทำให้เขาเคยคว้ารางวัลสาขาศิลปะ ของ Seiun Awards ครั้งที่ 11 มาแล้ว เช่นกัน
ตัวอย่างผลงานของโอราอิ เพิ่มเติมดูที่นี่
แหล่งข่าวและรูปภาพ : Sankei , Asahi , Hachima Kikō , Yaraon! , animenewsnetwork.com
Gundam: Iron-Blooded Orphans อนิเมซีรี่ย์เรื่องล่าสุดของหุ่น Gundam ก็ได้รับการดัดแปลงในรูปแบบมังงะแล้ว และเพิ่งตีพิมพ์ตอนแรก (จำนวน 63 หน้า + หน้าเปิดสี) ในนิตยสาร Gundam Ace ฉบับ ธ.ค. ที่วางขายไปเมื่อ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมังงะดังกล่าวได้ คาสึมะ อิโซเบะ เป็นผู้วาดภาพ โดยให้เครดิตแก่ ฮาจิเมะ ยาตาเตะ กับ โยชิยูกิ โทมิโนะ ในฐานะผู้สร้างต้นฉบับ
Gundam: Iron-Blooded Orphans เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์สงคราม "CalamityWar" ถึง300 ปี เมื่อบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน "Chryse Guard Security" (CGS) ที่เด็กหนุ่ม" มิกะสึกิึ ออกัส" สังกัดอยู่ ได้รับงานอารักขา "คูเดเลีย ไอนะ" หญิงสาวทีเคลื่อนไหวเพื่อแบ่งแยกนคร Chryse เมืองหลวงของดาวอังคาร ให้เป็น อิสระจากการปกครองแบบเบ็ดเสร็จของผู้มีอำนาจบนโลก ทว่าเมื่อ CGS โดนโจมตีจากองค์กรติดอาวุธ "Gjallarhorn" ที่กำลังสืบหาต้นตอของความวุ่นวาย มิกะสึกิและพวกเด็กๆ กลับถูกใช้เป็นเหยื่อล่อเพื่อหลบหนีหัวหน้าของกลุ่มเด็กหนุ่ม "ออลก้า อิซึกะ" จึงใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นต่อต้านพวกผู้ใหญ่ที่กดขี่พวกตนมาโดยตลอดด้วยการตัดสินใจทำรัฐประหารและ มิกะสึกิที่ได้รับมอบหมายจากออลก้าให้กลับไปถล่ม "Gjallarhorn" ได้ใช้โมบิลสูทเก่าจากสมัย "Calamity War" ที่ถูกใช้งานเป็นเตาปฏิกรณ์ของCGS "กันดั้ม บาร์บาธ" ออกไปร่วมสมรภูมิ
แหล่งข่าว : Comic Natalie , animenewsnetwork.com
Mobile Suit Gundam Thunderbolt ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Big Comic Superior (ที่เจาะกลุ่มคนอ่านวัยทำงานอายุ 30-40 ปี เป็นหลัก) ตั้งแต่ มี.ค. 2012 โดยเป็นเรื่องราวไซด์สตอรี่ เกิดขึ้น ณ ปีศักราช UC 0079 ซึ่งเป็นช่วงสงครามระหว่าง Zeon กับ สหพันธ์โลก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าสู้อย่างดุเดือด ณ Thunderbolt Sector ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากของโคโลนีที่ถูกทำลาย โดย Io Flemming นักขับโมบิลสูทฝั่งสหพันธ์ ได้ถูกส่งให้ไปปฏิบัติภารกิจที่นั่น ซึ่งที่ตรงนั้นก็มี Daryl Lorenz มือปืนสไนเปอร์จากฝั่ง Zeon กำลังรอซุ่มโจมตีอยู่
แหล่งข่าว : Yaraon! , MAL
ยืนยัน My Hero Academia ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีซีรี่ย์!! HeroAca.com ที่ทาง TOHO ได้ดำเนินการจดไว้ก่อนหน้านี้ด้วย รวมถึง Twitter ของฉบับอนิเม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ twitter หลักของฮีโร่ในฉบับมังงะ ได้แจ้งข่าวประกาศทำอนิเมออกมาด้วย แต่ถึงกระนั้น ทวีตข่าวดังกล่าว ก็ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว เช่นกัน
My Hero Academia ตีพิมพ์ในโชเน็นจัมป์ ตั้งแต่ ก.ค. 2014 เป็นต้นมา เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ ที่พวกมนุษย์ต่างมี 'อัตลักษณ์' หรือ พลังความสามารถพิเศษ ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ยกเว้นเพียงแต่ มิโดริยะ อิซึคุ หนุ่มน้อยผู้ซึ่งเกิดมาไม่มีอัตลักษณ์พิเศษใดๆ เป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันถึงการเป็นฮีโร่ และแล้วเส้นทางการฝึกฝนตนเองกลายเป็นฮีโร่ผู้แข็งแกร่งของอิซึคุ ได้เริ่มต้นขึ้น!!
แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com
การ์ตูนดังกล่าวตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2013 และมีฉบับรวมเล่มออกวางขาย 2 เล่มแล้ว โดยจะเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของเหล่าสาวน้อยที่ทำงานในวงการผลิตเกมวีดีโอ เมื่อ อาโอบะ สึซึคาเสะ ตัวเอกของเรื่อง ได้ตัดสินใจเข้าทำงานในบริษัทเกม Eaglejump หลังเรียนจบ ม.ปลาย ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่ เธอนั้น ได้พบกับรุ่นพี่ที่บริษัท ผู้ซึ่งเป็นคนทำเกมที่เธอชื่นชอบในสมัยเรียนอีกด้วย
แหล่งข่าวและรูปภาพ : earlbox , 0takomu , animenewsnetwork.com
ทาคาเบะ เปิดตัวด้วยผลงานการพากย์เสียงให้กับอนิเม Sweet Blue Flowers (Aoi Hana) ในบทบาทของ ฟุมิ มันโจเมะ จากนั้นเธอมีผลงานการพากย์เรื่องอื่นๆอีก อาทิ Wandering Son (ในบทของ โฮโร มุสึโกะ), Sacred Seven, the Sacred Seven: Shirogane no Tsubasa, และ Kill Me Baby อีกทั้ง เธอยังเป็นสมาชิกของกลุ่มไอด้อล Bishōjo Club 31 iรวมถึงมีผลงานการแสดงละครให้กับ Fuji TV กับ TV Asahi อีกด้วย
จากข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ Oscar Promotion บริษัทต้นสังกัดของเธอ ได้จัดการยกเลิกสัญญาเธอเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงได้ดำเนินการลบข้อมูลโปรไฟล์ รวมถึง บลอกของเธอ ออกไป จนหมด เมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. เท่านั้นไม่พอ บรรดาเว็บไซต์สตรีมออนไลน์ในญี่ปุ่น ได้จัดการเอาผลงานอนิเมที่เธอนั้นมีส่วนร่วมอย่าง Kill Me Baby, Sweet Blue Flowers และ Wandering Son ลบออกไปจากเว็บจนหมดอีกเช่นกัน
แหล่งข่าวและรูปภาพ : Tokyo Sports , Hachima Kikō , animenewsnetwork.com
โดยมังงะภาคแยกดังกล่าว จะเป็นการเล่าเรื่องราวบรรยากาศแสนวุ่น ถ้าหากการ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกทำในรูปแบบละครทีวี !! ซึ่งนอกจากจะได้เห็น เมลิโอดัส สวมวิญญาณนักแสดงมารับบทเป็นเด็กแสนอัจฉริยะแล้ว เราจะได้เห็นด้านแย่ๆ รั่วๆ หลุดๆ พร้อมกับชีวิตประจำวันของนักแสดง หรือตัวละครอื่นๆ ในระหว่างการถ่ายทำละครด้วย
ก่อนหน้านี้ '7 บาป' มีมังงะภาคแยกชุด Mayoe! Nanatsu no Taizai Gakuen! (The Seven Deadly Sins Academy) ลงในนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ตั้งแต่ ส.ค. 2014 รวมถึงภาคแยกชุด Naku na, Tomo yo (Don't Cry, My Friend) ที่เป็นเรื่องราวสมัยหนุ่มของเฮนดริกสัน กับ เดรย์ฟุส และภาคแยกชุด Gilthunder no Shinjitsu (Gilthunder's Truth) ที่ให้ กิลธันเดอร์เป็นตัวเอกหลักแทน
แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , animenewsnetwork.com
หนังจอเงินคนแสดงของ Bakuman ที่ออกฉายในญี่ปุ่น ตั้งแต่ 3 ต.ค. จนถึงขณะนี้ หนังจากการ์ตูนดังของ อ.สึกุมิ โอบะ กับ อ.ทาเคชิ โอบาตะ ได้ฉายในญี่ปุ่นถึง 4 สัปดาห์แล้ว โดยมียอดผู้ชมทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ด้วยจำนวนยอดตั๋ว 1,000,007 คน เมื่อ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา และสามารถทำรายได้จากการออกฉายถึง 1,307,058,000 เยน จากการออกฉาย 324 โรง ติดอยู่ในอันดับ 4 บน Box Office ญี่ปุ่น ในสุดสัปดาห์ล่าสุด โดยเรื่องนี้ใช้เวลา 25 วัน ในการทำยอดคนดูถึง 1 ล้านคน ซึ่งช้ากว่าหนัง Parasyte: The Final Chapter ที่ออกฉายในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (หนัง Parasyte มีคนดูถึงล้านคน จากการออกฉาย 23 วัน กับจำนวนโรงหนัง 422 โรง)
โดยอันดับ Box Office ญี่ปุ่น เมื่อสุดสัปดาห์ล่าสุด Library Wars: The Last Mission หนังภาค 2 ของ Library Wars มีอันต้องตกจากอันดับ 1 ซะแล้ว ด้วยน้ำมือของ Galaxy Turnpike หนังตลกไซไฟจากผกก.โคกิ มิทานิ ขณะที่ Tobidasu PriPara: Mi~nna de Mezase! Idol☆Grand Prix หนัง 3D ชุดแรกของ PriPara เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกด้วยอันดับที่ 13 จากการออกฉายเพียง 73 โรง
แหล่งข่าว : Eiga.com , Movie Natalie , crunchyroll.com
ต่อจากนั้น ก็มีการเปิดตัว นักร้องสาวคนใหม่ ผู้ที่จะมาพากย์เสียงและขับร้องเพลงให้กับ Macross ภาคนี้ นั่นคือ มิโนริ ซึซึกิ สาวน้อยวัย 18 ปี จาก จ.ไอจิ ผู้สามารถเอาชนะการออดิชั่นคัดเลือกนักร้องหน้าใหม่ จากผู้เข้าร่วมการคัดตัวนับ 8,000 คน ซึ่งเธอคนนี้จะมาพากย์เสียงในบทบาทของ Freyja Wion ตัวละคร 1 ใน 5 สมาชิกของวงดนตรี Walküre ซึ่งถือเป็น Macross ภาคแรก ที่มีนักร้อง-กลุ่มนักร้องหลักประจำภาค เป็นวงดนตรีหญิงล้วน ถึงกระนั้น ยังไม่มีการระบุนางเอกตัวจริงของเรื่องแต่อย่างใด
Macross Δ เป็นเรื่องราวเกิดขึ้น 8 ปี ให้หลัง จากซีรี่ย์ Macross Frontier ณ ปี 2067 สถานที่ดำเนินเรื่องราวนั้นอยู่ในดาวเคราะห์แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลบนกาแล็กซี่ ซึ่งที่นั่นเองก็เกิด "Verle (Waal / Wahl?) Syndrome" ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนบ้าคลั่งไปทั่ว และเพื่อที่จะหยุดความปั่นป่วนนั้น ก็เลยมีการจัดตั้งวงดนตรีหญิงล้วน 2 วง ประกอบด้วย "Walküre" กับ "Valkyrie Unit" ให้มาเปิดการแสดง ณ ที่นั่น ในระหว่างนั้น ก็มีหน่วย Valkyrie ลึกลับ ที่เรียกตัวเองว่า "Aerial Chivalry Order" จากอาณาจักรแห่งลม ได้เริ่มออกปฏิบัติการแล้วเช่นกัน จนทำให้เกิดเรื่องราวที่มีมากไปกว่ารักสามเส้าธรรมดาๆขึ้น
สต๊าฟ
Supervising Director: Shouji Kawamori
Director: Kenji Yasuda (Shugo Chara!, Croisée in a Foreign Labyrinth)
Series Composition/Scenarios: Toshizo Nemoto (Dog & Scissors, Inu x Boku SS)
Original Character Design: Chisato Mita (CAPCOM)
Anime Character Design: Majiro (Barakamon)/Yu Shindo (Persona4 the Golden ANIMATION)
Macross Visual Artist: Hidetaka Enjin (Aquarion EVOL mechanical art)
Color Design: Kanako Hayashi
Art Director: Shigemi Ikeda/Yukiko Maruyama (Atelier Musa)
World Design: Thomas Romain
Art Design: Niem Vincent
Valkyrie Design: Shouji Kawamori
Mechanic Design: Brunet Stanislas
Director of Photography: Atsushi Iwasaki (T2 Studio)
CG Director: Hironori Morino
CG Supervisor: Hiroyuki Kashima (unknownCASE)
CG Animation Director: Atsushi Sakiyama (unknownCASE)
Editing: Kentaro Tsubone (REAL-T)
Music Production: Flying Dog
Sound Director: Masafumi Mima
Anime Production: Satelight
แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , Cinima Today , crunchyroll.com
มังงะสุดหื่นของ อ.ยูมิ นาคาตะ (Chu-Bra!!) เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของ ฮายาโตะ หนุ่มม.4 หัวดีเป็นที่ที่นับหน้าถือตา กำลังหัวเสียเมื่อถูกแย่งตำแหน่งประธานนักเรียนไปโดย อุอิ สาวสวยผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ปัญญา และ ความเป็นผู้นำแก่กล้า ซ้ำร้ายนโยบาย "เสรีทางความรัก" ของเธอยังทำให้ฮายาโตะปวดประสาทจนต้องมาสมัครเป็นรองประธานเพื่อไม่ให้ อุอิ ออกนอกลู่นอกทาง ทว่าความเวียนเศียรก็ยังไม่สิ้นซาก เมื่อ อุอิ คนนั้นกลับมาปรากฏตัวที่บ้านในฐานะ "เจ้าสาว" ของ ฮายาโตะ ...ซึ่งเรื่องนี้ถูกทำเป็นอนิเมซีรี่ย์ 12 ตอน ออกฉายไปเมื่อ 1 ก.ค. 2015 โดยมังงะเรื่องนี้มีลิขสิทธิ์ในไทยโดย รักพิมพ์
แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com
เป็นการรวมการเฉพาะกิจอย่างไม่(มีใคร)คาดฝัน!!! ฟินสมหมายทั้งคนอ่านชายกับหญิง!!!!! เมื่อเราจะได้เห็นการปะทะกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเหล่านักบาสหนุ่มรูปหล่อกับแก๊งนักสู้ผ้าเตี่ยวเลือดเดือด!!!!!!!! โดยนิตยสารโชเน็นจัมป์ ฉบับที่ 49 ได้แจ้งว่า พวกเขากำลังจะตีพิมพ์การ์ตูนตอนสั้นพิเศษที่เป็นการจอยกันระหว่าง Kuroko no Basket หรือ คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส กับ Hinomaru Zumō หรือ ฮิโนมารุ ซูโม่กะเปี๊ยกฟัดโลก ลงในจัมป์ ฉบับที่ 50 ที่มีกำหนดวางขายในญี่ปุ่น วันที่ 9 พ.ย.นี้ มังงะดังกล่าว ได้อ.ผู้แต่งทั้ง 2 เรื่อง อย่าง อ.ทาดาโทชิ ฟูจิมากิ (คุโรโกะ) กับ คาวาตะ (ฮิโนมารุ) มาร่วมงานกันในเรื่องของภาพ โดยที่ อิจิโร่ ทาคาฮาชิ ผู้แต่งนิยายชุด Kuroko no Baket -Replace- มารับหน้าที่เขียนบท ส่วนเนื้อเรื่องนั้น ไม่ได้ระบุไว้ บอกเพียงสั้นๆว่า "จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น? เมื่อทีมฮิโนมารุ ได้พบเจอกับ ทีมคุโรโกะ? "
แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com
สงสัยเกรงจะเป็นการทำลายความฝันของน้องๆหนูๆมากเกินไป จนเกิดเคสนี้ขึ้น!? ..... ล่าสุด ยูอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ TV Tokyo ได้ออกมาแถลงข่าวกล่าวขออภัยผู้ชม เมื่อ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่ 3 ของอนิเม Mr. Osomatsu ที่เพิ่งออกฉายไปเมื่อ 19 ต.ค.
ตอนดังกล่าว ที่ออกฉายในครั้งแรกนั้น เป็นการปรากฏตัวขึ้นของตัวละครฮีโร่นาม Dekapan หรือ Dekapan-Man ซึ่งก็ล้อเลียน Anpanman แทบจะทุกอย่าง (ออกจะเสื่อมสุดๆ) !!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับท่าทางของ Anpanman ตอนแบ่งชิ้นส่วนตรงหัว (ขนมปัง) ของเขาให้เด็กๆได้กิน ซึ่งทางฝั่ง Dekapan-Man นั้น จะเป็นการเอาของที่ควักมาจากกางเกงไซส์ใหญ่ของเขา มาให้แทน ซึ่งหนึ่งในของที่เขาควักมานั้น ก็มี คารินโต ขนมปังแป้งทอดรสหวาน มีขนาดยาวสีน้ำตาล แล้วก็ ลูกบอลทอง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ ก็สื่อถึง.......(ไปคิดจินตนาการเอาเอง)
และจากความเสื่อมแบบจัดหนักจนเกินไปในตอนออกฉายครั้งแรก เลยทำให้ตอนที่ 3 ของเรื่องนี้ ที่ออกฉายทางช่องดาวเทียมเมื่อ 24 ต.ค นั้น ได้มีการเซ็นเซอร์แก้ไขฉากกันอย่างแหลกหลาน ไม่ให้ดูเหมือนเป็นการจงใจล้อเลียน Anpanman จนเกินไป ตั้งแต่ ผ้าคลุมของ Dekapan-Man ถูกเปลี่ยนสี ,สีแก้มกับจมูกของ Dekapan-Man ถูกตัดออกไป เช่นเดียวกับ ฉากแบ็คกราวน์อันคุ้นเคยจาก Anpanman ถูกเปลี่ยนไปเช่นกัน รวมไปถึงชื่อเรื่องทางการ เรียกเป็น Dekapan-Man เฉยๆ (จากเดิมเป็น Horeike! Dekapan-Man) , สิ่งของที่ควักจากกางเกงของเขา ทั้ง คารินโต มีการเปลี่ยนไปเป็นสีชมพูแทน แล้วก็ ลูกบอลสีทอง ถูกเปลี่ยนไปเป็นลูกเบสบอล เป็นต้น
โดย ทาคาฮาชิ ได้ให้เหตุผลที่ตัดสินใจเซ็นเซอร์บางฉากของตอนนี้ในการออกฉายรอบหลัง เนื่องจากพวกเขาได้รับการร้องเรียน ร้องขอจากผู้ชมบางกลุ่ม ให้มีการแก้ไขตอนดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ในระหว่างการออกฉายทางทีวี อีกทั้ง Anpanman เอง ก็เป็นอนิเมยอดนิยมในหมู่ของเด็กๆอีกด้วย ซึ่งการที่ตอนดังกล่าวได้นำเสนอแบบนี้ มันเป็นการไม่ให้เกียรติฮีโร่ขวัญใจเด็กๆอย่าง Anpanman มากจนเกินไป
แหล่งข่าวและรูปภาพ : Daily Sport Online , Nijimen , animenewsnetwork.com
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ Stan Lee นักเขียนคอมิคชาวอเมริกัน ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อก้องอย่าง Spider-Man, X-Men กำลังจะมีเอี่ยวกับวงการอนิเมญี่ปุ่นอีกหน กับ อนิเมทีวีซีรี่ย์แนวซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ล่าสุดของ Studio DEEN ที่มีชื่อว่า The Reflection ซึ่งนอกจากอนิเมความยาว 30 นาที เรื่องนี้ จะได้ ฮิโรชิ นางาฮามะ จาก Mushishi, Flowers of Evil, Detroit Metal City มาร่วมสร้างกับกำกับแล้ว ยังได้ Pow! Entertainment บริษัทของปู่ Lee มาร่วมสนับสนุนในการผลิตอนิเมชุดนี้เช่นกัน
The Reflection เป็นเรื่องราวของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า The Reflection ที่ทำให้บางคนจากทั่วทุกมุมโลก สามารถค้นพบตนเองว่ามีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ โดยส่วนหนึ่งนั้น นำพลังนี้ในการใช้ปกป้องผู้คนกลายเป็นฮีโร่ ส่วนอีกด้านหนึ่ง ก็เอาพลังไปใช้ในทางที่ไม่ดี กลายเป็นพวกวายร้ายแทน แล้วปรากฏการณ์ที่ว่านี้มันเกิดขึ้นยังไง? มีสาเหตุจากอะไร? และด้วยปริศนาลึกลับที่ไม่สามารถไขกระจ่างได้ มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ก็นำไปสู่ความปั่นป่วนของโลกใบนี้
โปรเจ็คอนิเมดังกล่าว มีการนำเสนอกันบนเวทีกลางงาน Comikaze Expo 2015 ณ Los Angeles สหรัฐ เมื่อ 30 ต.ค. โดยจะออกฉายอนิเมซีรี่ย์ชุดนี้ทางทีวีที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะนำไปทยอยออกฉายทั่วโลกต่อไป
ก่อนหน้านี้ Lee เคยร่วมงานโปรเจ็คการ์ตูนอนิเมญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง มีตั้งแต่ ร่วมงานกับสตูดิโอ BONES กับอนิเมซีรี่ย์ชุด Heroman , ร่วมงานกับ อ.ฮิโรยูกิ ทาเคอิ กับผลงานมังงะเรื่อง Ultimo รวมถึง ร่วมงานกับ YOSHIKI แห่งวง X-Japan ในการทำโปรเจ็คการ์ตูนโปรเจ็คหนึ่ง อีกทั้ง ผลงานคอมิคของเขาก็ได้รับการดัดแปลงเป็นมังงะกับอนิเมญี่ปุ่นจำนวนหลายเรื่อง เช่นกัน
VIDEO
แหล่งข่าวและคลิป : animenewsnetwork.com
นิตยสาร Dengeki G's Comic ฉบับ ธ.ค. ได้เปิดเผยเนื้อเรื่องในฉบับอนิเมจอเงินของ Sword Art Online ที่มีข่าวประกาศกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องราวในหนังนั้นจะเป็นเรื่องราวใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากบท Mother's Rosario เรื่องราวบทสุดท้ายที่ปรากฏในอนิเมซีรี่ย์ซีซั่นที่ 2 ของเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาบท Mother's Rosario จะปรากฏในเล่ม 7 ของ SAO ฉบับไลท์โนเวล ในขณะที่ บท Calibur ที่ปรากฏในช่วงครึ่งหลังของอนิเม SAO ซีซั่น 2 เหมือนกัน กลับปรากฎในเล่ม 8 ของฉบับไลท์โนเวล ซะงั้นๆ พูดง่ายคือ ในอนิเมซีซั่นที่ 2 จะลำดับเนื้อหา 2 บทดังกล่าวข้างต้นนี้ สลับกัน
หนังจอเงินชุดนี้ ได้ เรกิ คาวาฮาระ ผู้แต่ง SAO มาเขียนเนื้อเรื่องในฉบับหนัง โดยที่ โทโมฮิโกะ อิโต้ ผกก.จากอนิเมซีรี่ย์ 2 ซีซั่น (+ตอนพิเศษ) ที่ออกฉายช่วงปี 2012-2014 มารับหน้าที่กำกับ ผลิตโดย A-1 Pictures ส่วน ชินโงะ อาดาจิ ยังคงรับหน้าที่ออกแบบตัวละครให้เช่นเคย
แหล่งข่าว : @Kagayakiru , animenewsnetwork.com
นิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 49 ได้แจ้งว่า ทางสนพ. Shueisha เตรียมออกวางจำหน่ายหนังสือ+DVD ชุด Jump Ryū ทั่วประเทศญี่ปุ่น วันที่ 7 ม.ค. 2016 นี้ หลังจาก Jump Ryū ได้มีการจัดทำและทดสอบการออกวางจำหน่ายเฉพาะใน จ.ชิซึโอกะ เท่านั้น และวางจำหน่ายได้ 3 เล่มแล้ว นับตั้งแต่ออกขายครั้งแรกในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
Jump Ryū ฉบับวางขายทั่วญี่ปุ่น เล่มแรกจำหน่ายในราคา 702 เยน แต่สำหรับเล่มสองและเล่มต่อๆไปนั้น จะวางขายประจำทุกวันพฤหัสฯ สัปดาห์ที่ 1 กับ 3 ของเดือน ในราคา 1,393 เยน (วันที่ออกวางขายจะแตกต่างกันไปตามท้องที่นั้นๆ)
Jump Ryū จะนำเสนอเรื่องราวและเบื้องหลังการทำงานของนักเขียนการ์ตูนคนดังประจำนิตยสาร Jump ประกอบด้วย บุ๊คเล็ต กับ DVD ในบุ็คเล็ตจะมีข้อมูลบทสัมภาษณ์ของนักเขียนการ์ตูน ที่จะเปิดเผยความลับเบื้องหลังอาชีพของพวกเขา , ภาพอาร์ตเวิร์คที่เกี่ยวข้อง แล้วก็กระดาษเปล่าที่ให้คนอ่านลอกลายและวาดภาพฉากเด่นดังจากผลงานการ์ตูนเรื่องนั้นๆ ส่วน DVD จะนำเสนอเบื้องหลังห้องทำงานเขียนการ์ตูน , บทสัมภาษณ์ต่างๆ รวมถึง การเปิดเผยขั้นตอนความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองในการใช้ชีวิตของนักเขียนคนนั้นๆ
โดยหนังสือฉบับที่วางขายใน จ.ชิซึโอกะ ทั้ง 3 เล่ม จะนำเสนอเรื่องราวของ อ. Akira Toriyama (Dragon Ball), อ. Masashi Kishimoto (Naruto), และ Eiichiro Oda (One Piece) ซึ่ง 3 ฉบับแรกที่จะวางขายทั่วประเทศ ก็จะเป็นเรื่องราวของนักเขียน 3 ท่านนี้เหมือนกัน ส่วนฉบับอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องราวของนักเขียนเหล่านี้ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
Osamu Akimoto (Kochikame)
แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com
Kyoto Animation ได้ประกาศในงาน KyoAni & Do Fan Days 2015 ว่า Sound! Euphonium (Hibike! Euphonium) อนิเมสาวน้อยบรรเลงดนตรีคลาสสิคของพวกเขา กำลังจะมีการทำอนิเมทีวีชุดใหม่ต่อ รวมไปถึง ฉบับภาพยนตร์อนิเมที่มีชื่อว่า Gekijō-ban Hibike! Euphonium ~ Kitauji Kōkō Suisōraku-Bu e Yōkoso~ (Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert Band) โดยเรื่องราวในฉบับหนังนั้น จะอยู่ในเนื้อหาอนิเมชุดแรกที่ออกฉายเมื่อฤดูใบไม้ผลิ 2015 กับการเดินทางไปแข่งขันวงดนตรีระดับจังหวัดของชมรมดนตรีม.ปลายประจำโรงเรียนของพวกตัวเอก ขณะที่ อนิเมชุดใหม่ เป็นเรื่องราวต่อจากอนิเมชุดแรก
Sound! Euphonium ดัดแปลงมาจากนิยาย Hibike! Euphonium Kitauji Kōkō Suisōraku-Bu e Yōkoso ของ อายาโนะ ทาเคดะ ที่วางขายเมื่อปี 2013 กับเรื่องราวของวงดนตรีคลาสสิคของโรงเรียนม.ปลายคิตาอุจิ ที่มักผ่านเข้ารอบในการชิงชัยระดับประเทศบ่อยครั้ง จนกระทั่ง ชมรมดนตรีแห่งนี้มีการเปลี่ยนครูที่ปรึกษาชมรม ก็ส่งผลทำให้วงดนตรีนี้ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกในระดับทัวร์นาเม้นต์ของภูมิภาคคันไซได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยคำแนะนำอย่างเข้มงวดของครูที่ปรึกษาคนใหม่ ทำให้นักเรียนในชมรมต่างคล้อยตาม ตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะของตนเอง โดยชีวิตประจำวันของสมาชิกในวงนั้น ก็ขึ้นๆลงๆ รวมถึงการต่อสู้กับความโดดเดี่ยว และ การตัดสินใจออกจากการทำกิจกรรมในชมรมเพื่อมุ่งเป้าไปที่การเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
แหล่งข่าว : MoCa , Banira-san , Hachima Kikō , animenewsnetwork.com
Crayon Shin-chan หรือ ชินจังจอมแก่น ซีรี่ย์การ์ตูนเด็กหัวมันจอมกวน ได้มีการประกาศทำหนังอนิเมชุดใหม่ ชุดที่ 24 อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว กับ The Eiga Crayon Shin-chan Bakusui! Yumemi World Dai Totsugeki (Crayon Shin-chan the Movie Fast Asleep! The Large Attack on the Dreaming World) มีกำหนดออกฉายทั่วญี่ปุ่น 16 เม.ย. 2016 ซึ่งเนื้อหาของหนังชุดใหม่นั้น จะเป็นการผจญภัยของครอบครัวโนะฮาร่ากันในโลกแห่งความฝัน
วาตารุ ทาคาฮาชิ ผกก.จากจอเงิน Crayon Shin-chan ชุดที่17-23 ยังคงมากำกับหนังชินจังชุดใหม่นี้เหมือนเคย ขณะที่ ฮิโตริ เกคิดัน นักแสดงตลกจากหนัง Trainman, Fusé: Memoirs of a Huntress รับหน้าที่เขียนบทร่วมกับทาคาฮาชิ ส่วนนักพากย์หลักๆ อย่าง อากิโกะ ยาจิมะ (ชินจัง), มิกิ นาราฮาชิ (มิซาเอะ), เคย์จิ ฟูจิวาระ (ฮิโรชิ) และ ซาโตมิ โคโอโรงิ (ฮิมาวาริ) ก็มาพากย์เสียงให้เช่นเคย
แหล่งข่าว : Anime! Anime! , animenewsnetwork.com
10 อันดับการ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon ประจำช่วงวันที่ 19-25 ต.ค. 2015 ปรากฏว่า วันพีซ เล่ม 79 ที่ครองอันดับ 1 ยาว 3 สัปดาห์ติดกัน มีอันต้องร่วงลงซะแล้ว ด้วยน้ำมือของ 3 เรื่องเหล่านี้ เริ่มจาก Kingdom เล่ม 40 ในอันดับ 1 , ศึกตำนาน 7 อัศวิน เล่ม 17 ในอันดับ 2 และ Magi เล่ม 27 ในอันดับ 3(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)
แหล่งข่าว : Oricon,MAL
New Release Comics of the Week: ...ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง..... กับ คุโรโกะ 27
กระแสสังคมต้าน......มังงะ Himo Zairu ตัดสินใจหยุดตีพิมพ์
