บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 25-30 กันยายน 2560

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ..........โดยมาพบเจอกันเร็ว ในคืนวันเสาร์ที่ 30 ก.ย. วันสิ้นเดือน ก.ย. พอดี ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากจะได้ฉลองครบ 100 ปี ธงไตรรงค์ของเราแล้ว ก็อลเวงไปด้วยดราม่าตามเคย ตั้งแต่ศึกการเมืองโลก ระหว่าง เกาหลีเหนือ - สหรัฐ ที่ดูยังไงๆ เหมือนกับเด็กน้อยทะเลาะกัน ยันจนถึง บทสรุปคดีนึง ที่ทำเอาท่านอดีตนายกหญิงได้อยู่เมืองนอกเมืองนายาวๆ ตามรอย ขุ่นพี่ชาย !!!!

และในเดือนต.ค. ที่กำลังจะมาถึง ก็อย่างที่ทราบกันว่า วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ และกิจกรรมบันเมิง รื่นเริงต่างๆ ก็ทยอยงดกันไป เฉกเช่นเดียว การนำเสนอเนื้อหาข่าวสารของเรานั้น ก็จะต้องมีการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ดังกล่าว คือ จะมีการนำเสนอข่าวตามปกติ แต่จะปรับสำนวนการเขียนให้สุภาพยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ คำเกริ่นนำก่อนเข้าข่าวในแต่ละสัปดาห์นั้น ก็อาจพิจารณาตัดทอนให้สั้นลง เช่นกันครับ........

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week: ร..ร..เร็ว!!! กับ เซนต์เซย์ย่า LC ตำนานโกลด์เซนต์ 6

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วย เซนต์เซย์ย่า The Lost Canvas จ้าวนรกฮาเดส ตำนานโกลด์เซนต์ เล่ม 6 ที่ออกมาอย่างว่องไว เกินคาดคิด......โกลด์เซนต์ลิบร้า โดโก ผู้รอดชีวิตจาก "สงครามศักดิ์สิทธิ์" ระหว่าง "ฮาเดส" และ "อาธีน่า" ได้มาอยู่ที่เทือกเขาโกโรโฮ ประเทศจีน ผู้ที่มาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาซึ่งกำลังเฝ้ารอผู้แบกรับภาระของยุคสมัยใหม่อยู่อย่างเงียบสงบ คือเท็มมะ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเซนต์เพกาซัส ซึ่งต่อสู้ร่วมกันในสงครามศักดิ์สิทธิ์ราวกับแกะ!!

สามพลัง(ป่วน)พิทักษ์โลก เล่ม 39 ไม่ได้เห็นบนแผงนานเท่าไหร่ไม่รู้....ที่แน่ๆ เล่มนี้ คือ เล่มสุดท้ายของภาคนักเรียนม.ต้น ....ตามเอาไปช่วยเหล่าสาวน้อยแห่ง Children ในการทำภารกิจช่วยวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้นของยูริ และ เปลี่ยนอนาคตอันแสนเศร้าของเฮียวบุเคียวสึเกะและกิเลียมให้ได้!!

มืออสูร ล่าปิศาจ NEO เล่ม 9 เคนโตะต้องย้ายโรงเรียนเพราะคุณพ่อจอมเอาแต่ใจ!? แม้จะถูกเด็กๆ ที่รู้สึกอึดอัดขอร้องให้ช่วยแต่นูเบเองก็เจ็บปวดเมื่อมืออสูรกลับไร้พลัง เมื่ออยู่ต่อหน้าปัญหาในครอบครัว แม้แต่เคนโตะเองยังยอมแพ้และพูดว่า "ลูกก็คือทรัพย์สินของพ่อแม่นั่นล่ะ..." แล้วคุณพ่อก็มาโรงเรียนเพื่อทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้เรียบร้อยแต่นูเบได้เตรียมแผนการลับที่จะทำลายกฎเอาไว้......!! ความรักระหว่างพ่อลูกจะถูกทดสอบ!!

เกมเทวดา โครงการ 2 เล่ม 21 (จบ) เกมหนีตายเอาตัวรอดในโรงเรียน ได้เดินทางสู่บทสรุปแท้จริง.....

Heavy Object S ยุทธการอาวุธมหาประลัย S เล่ม 1 มังงะจากนิยายของผู้แต่งไลท์โนเวล Index ....อ๊อบเจคท์ อาวุธขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกที่ประเทศเกาะแห่งหนึ่งจนถูกกองกำลังพันธมิตร 14 ประเทศรวมกำลังกันโจมตีใส่แต่ทว่า – – อ๊อบเจคท์ก็สามารถทำลายกองกำลังทั้งหมดนั่นลงได้ ผลการรบครั้งนี้จึงถูกบันทึกลงในหนังสือเรียนว่า อ๊อบเจคท์คือตัวแทนของสงครามแล้วนั่นเอง

ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี เล่ม 3-4 มังงะจากไลท์โนเวลฮาเร็มลุยโลกแฟนตาซีเรื่องดัง ที่ปล่อยออกมาทีร 2 เล่มรวด

Berserk เล่ม 1-2 Berserk ฉบับรีปริ้นท์ ภายใต้บ้านหลังใหม่ย่่านลาดพร้าว

นิยายน่าอ่าน : Black Clover บันทึกของกระทิง,ไอดอลสาวชาวไร่ เล่ม 7,คุณซาซามิ@ไม่พยายามหน่อยเหรอ เล่ม 4


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

ยุ่งนักหนา เลขาพญายม เล่ม 14 ,Fairy Girls เล่ม 4 (จบ),โคบายาชิน่ารักเกินห้ามใจ!! เล่ม 13}ร้านหนังสือป่วนก๊วนตัวแสบ เล่ม 7 ,SHERLOCK เล่ม 2 ,Kantai Collection – Kan Colle – Comic a la Carte บทฐานทัพเรือไมซึรุ เล่ม 2,Berserk เล่ม 1-2,อาเรีย กระสุนแดงเดือด เล่ม 13,Pastel เล่ม 27,สักวันที่ฉันมีเธอ เล่ม 13 (จบ),บากิ จอมระห่ำ BAKI-DOU เล่ม 16,GIANT KILLING เล่ม 26,IS (Infinite Stratos) เล่ม 3

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



Touken Ranbu ป่วยดาบกันต่อ รูปแบบอนิเมจอเงิน เพิ่มเติม

ข่าวเซอร์ไพรส์แฟนๆอนิเมสายป่วยดาบ เมื่อมีการประกาศในตอนจบของอนิเมชุด Katsugeki/Touken Ranbu ที่ออกฉายไปเมื่อ 24 ก.ย. 2017 ที่ผ่านมาว่า อนิเมชุดนี้กำลังจะมีการจัดทำต่อในรูปแบบอนิเมจอเงิน ส่วนรายะเอียดเพิ่มเติม จะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง

หลังจาก Katsugeki/Touken Ranbu มีการประกาศทำหนังอนิเมไปไม่นาน แม่ยกสายป่วยดาบได้เฮกันต่อเนื่อง เมื่อ อนิเมชุด Touken Ranbu: Hanamaru กำลังจะถูกนำไปทำในรูปแบบหนังอนิเมฉบับตัดต่อ ในชื่อ Touken Ranbu: Hanamaru - Makuai Kaisouroku มีกำหนดออกฉายบนโรง 2 อาทิตย์ เริ่ม 1 ธ.ค. 2017 โดยตัวหนังมีเนื้อหาเป็นการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนิเมทีวีซีซั่นแรก ก่อนที่ อนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ จะออกฉายในช่วงฤดูหนาว 2018 (ประมาณ ม.ค. 2018)

ทั้ง Katsugeki/Touken Ranbu กับ Touken Ranbu: Hanamaru ต่างดัดแปลงมาจากเกม Touken Ranbu เกมแนววางแผนเกมดังของค่าย DMM ที่เป็นการนำเอาดาบเล่มดังในตำนานของญี่ปุ่น มาดัดแปลงให้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงามมากหน้าหลายตา โดย Katsugeki/Touken Ranbu ออกฉายเมื่อช่วงฤดูร้อน 2017 ที่ผ่านมา ขณะที่ อนิเมซีซั่นแรกของ Touken Ranbu: Hanamaru ออกฉายเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2016





แหล่งข่าว : Comic Natalie , Moca News , MAL#1 , MAL#2



นักศึกษาจากม.เบลเยี่ยม สร้าง Game Boy ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

แม้ว่าในยุคพ.ศ.นี้ Game Boy เครื่องเล่นเกมพกพาของค่าย Nintendo นั้น จะตกรุ่นไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น เครื่องเกมดังกล่าวได้สร้างความประทับใจให้กับใครหลายคนในช่วงยุคบุกเบิกของเครื่องเกมแบบพกพาเครื่องนี้ จึงทำให้เกิดข่าวนี้ขึ้น....เมื่อ Ilhan Ünal นักศึกษาหนุ่มจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ได้รับการบันทึกสถิติลง Guinness World Record ในฐานะที่เขาเป็นผู้สร้าง Game Boy เครื่องเล่นเกมพกพาของค่าย Nintendo ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมือของเขาเอง

Ünal นักศึกษาหนุ่มผู้กำลังศึกษาด้านมัลติมีเดียและการสื่อสาร รวมถึงทำงานเป็นนักพัฒนา hardware กับ software ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้ลงมือสร้าง Game Boy แบบจำลองขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มีความสูง 1.01 เมตร , กว้าง 0.62 เมตร , ลึก 0.2 เมตร และใช้ Raspberry Pi มาเป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลเป็นหลัก ที่สำคัญยังสามารถรองรับตลับเกมบอยของ Nintendo ได้ทุกเกมอีกด้วย ซึ่ง Ünal ได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการสร้าง Game Boy ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกว่า " Game Boy จัดเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนสำคัญ ของใครหลายคนเมื่อสมัยยังเด็ก รวมถึงตัวผมด้วย ผมติด Game Boy อย่างหนัก เมื่อสมัยตอนเป็นเด็ก ผมก็เลยอยากจะสร้างบางสิ่งที่จะเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกๆคนที่ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในใจ"


 

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Guinness World Record , Otakomu , crunchyroll.com


 Wake Up, Girls! เตรียมงัดเทคนิคอนิเมชั่นแบบใหม่ ในการนำเสนอโชวของไอด้อลให้สมจริงยิ่งขึ้น

จากงานอีเว้นต์ของอนิเม Wake Up, Girls! ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เมื่อ 23 ก.ย. 2017 ก็มีการเปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆของ Wake Up, Girls! New Chapter อนิเมซีซั่นใหม่ล่าสุดของอนิเมแนวไอด้อลหญิงแห่งเซ็นไดเรื่องนี้ โดยผกก. Shin Itagaki ที่มาปรากฏตัวพร้อมกับ ไอด้อล Mayu, Minami, Kaya, และ Miyu (ทั้งหมดมีชื่อเดียวกันกับตัวละครอนิเมดังกล่าว)

ผกก. Itagaki ได้เปิดเผยว่า อนิเมซีซั่นใหม่ของ Wake Up, Girls! จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะกับฉากการแสดงของนักร้องสาวไอด้อล จะมีผสมผสานการจัดทำอนิเมชั่น ทั้งในรูปแบบ 3DCG และ motion-capture ในการจัดทำการแสดงของเหล่าไอด้อลในอนิเมให้มีความสมจริงยิ่งขึ้น กล่าวคือ 3DCG จะช่วยในเรื่องของจำนวนสาวน้อยไอด้อลในโชว์การแสดง ส่วน motion-capture จะช่วยบันทึกภาพการแสดงของไอด้อล เป็นต้น ขณะที่ ไอด้อลสาว Minami ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เทคนิคเหล่านี้ จะช่วยให้แฟนๆได้เห็นสไตล์การเต้นของสาวๆแต่ละคน ในระหว่างการแสดง ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

อีกทั้ง Itagaki ยังได้พูดถึงความเข้าขากันระหว่างสมาชิกไอด้อลสาวตัวจริง ผู้พากย์เสียงในอนิเมชุดใหม่นี้ว่า ตัวบทจะเปิดโอกาสให้พวกเธอได้ใช้ทักษะ ad-lib กันมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มไอด้อลตัวจริง (ผู้รับหน้าที่พากย์เสียงให้กับตัวละครหลักในเรื่อง) ได้ใช้โอกาสนี้ในการแจ้งข่าวสำคัญ เพิ่มเติม คือ พวกเธอกำลังจะมีคอนเสิร์ต Wake Up, Girls! Special Party ~I'm Sorry for Saying Sorry~ ในวันที่ 18 พ.ย. 2017 ณ สำนักงานสาขาเซี่ยงไฮ้ ของ Bandai Namco ในประเทศจีน รวมถึง มีการโปรโมทผลิตภัณฑ์น้ำหอมของวง ที่เปิดให้แฟนๆได้สั่งซื้อล่วงหน้า ช่วง 29 ก.ย. - 25 ต.ค. 2017


แหล่งข่าว : Anime Anime! , crunchyroll.com



กลัวชะตาขาด....ผู้แต่ง Chi to Hai no Joō ขอร้องแฟนๆหนุนฉบับรวมเล่มเยอะๆ เพื่อรอดพ้นจากการถูกตัดจบ

สิ่งที่นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น ต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้ง เห็นจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานซีรี่ย์การ์ตูนของตัวเองให้ดีพอที่จะรอดพ้นจากการถูก "ตัดจบ" ซึ่งการที่การ์ตูนถูกตัดจบนั้น มีปัจจัยหลักๆ คือ ซีรี่ย์การ์ตูนมีเรตติ้งไม่สู้ดีนักในนิตยสารการืตูน หรือไม่ก็ มียอดขายฉบับรวมเล่มต่ำกว่าเกณฑ์ที่สนพ.กำหนดไว้ และหากผลงานการ์ตูนไหนเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ผลงานการ์ตูนเรื่องนั้นๆ จะถูกพิพากษาโทษให้ตัดจบทันที และนั่นคือสิ่งที่นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นหลายต่อหลายคน รู้สึกหวาดผวา และพยายามพัฒนาตนเองอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้ผลงานตัวเองโด่งดัง จนนำไปสู่การต่อยอดผลงานในหลากหลายรูปแบบ ส่วนนักเขียนคนไหนไม่สามารถปั้นผลงานตัวเองให้รุ่ง อาจมีผลต่ออนาคตในเส้นทางอาชีพนี้ด้วยเช่นกัน

เพราะความที่เกรงกลัวผลงานตัวเองจะชะตาขาดอย่างไวว่องนี่เอง เลยทำให้ อ.Hajime Bako ผู้แต่งมังงะเรื่อง Chi to Hai no Joō ออกมาขอร้องแฟนๆ ผ่านแอพ MangaOne ของสนพ.Shogakukan ให้ช่วยกันอุดหนุนฉบับมังงะรวมเล่มเรื่องนี้กันให้เยอะๆ โดยเขาได้อ้างคำพูดจากผู้ดูแลมังงะเรื่องนี้ของเขาที่ระบุว่า หากยอดขายฉบับรวมเล่ม 1 ของเรื่องนี้ ไม่สามารถขายได้อย่างน้อย 1,000 เล่ม ก่อนที่ ฉบับรวมเล่ม 3 จะวางขายในเดือน พ.ย. 2017 ก็อาจส่งผลต่อซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนี้ ที่จะถูกตัดจบลง0แค่ ฉบับรวมเล่ม 4 เท่านั้น!! มังงะดังกล่าวปัจจุบันเผยแพร่บนแอพ MangaOne รวมไปถึง ตีพิมพ์ฉบับรูปเล่มในนิตยสาร Ura Sunday อยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่ง อ.Bako ขอร้องแฟนๆให้ช่วยกันซื้อฉบับรวมเล่มมังงะเรื่องนี้กันเยอะๆ ภายในเดือน ต.ค. 2017 โดยมังงะเรื่องนี้จะวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วญี่ปุ่น รวมถึง วางจำหน่ายแบบออนไลน์ตามเว็บไซต์ที่เขาได้ให้ลิงค์ไป

จากเคสที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ที่จะได้เห็นนักเขียนการ์ตูนมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผลงานการ์ตูนที่มีโอกาสจะโดนตัดจบ อย่างตรงไปตรงมา โดยก่อนหน้านี้มีมังงะจำนวนหลายเรื่องที่มีการประกาศตัดจบอย่างกระทันหัน หลังจาก มีการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดจากทางสนพ.เรียบร้อยแล้ว

โดยชาวเน็ตที่ทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนหนึ่ง ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า เกี่ยวกับเรื่องยอดขายซีรี่ย์การ์ตูนนั้น มันควรจะเป็นงานของผู้ดูแลเป็นหลัก , บางส่วนให้ความเห็นว่า ยอดขายหนังสือเวอร์ชั่นดิจิตอล อาจช่วยให้เรื่องนี้มียอดขายถึงเกณฑ์ รวมถึงมองว่า ยอดขายจำนวน 1,000 เล่ม ไม่ได้เป็นยอดที่สูงมากนัก หากจะจำหน่ายหนังสือไปทั่วประเทศ ซึ่งบางทีคำร้องขอของ อ.Bako ก็อาจช่วยรักษาซีรี่ย์มังงะของเขา ให้ได้รับการตีพิมพ์ต่อไป

มังงะแนวแวมไพร์เรื่องนี้ ตีพิมพ์เมื่อปี 2016 และได้เผยแพร่ตอนใหม่ล่าสุด เมื่อ 26 ก.ย. 2016 โดยมังงะเรื่องนี้เพิ่งวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 2 ไปเมื่อ 12 ก.ค. 2017

แหล่งข่าว :  Yaraon! , animenewsnetwork



อดีตหัวหน้าบก. Shonen Jump ระบุ แฟนๆ สามารถเลือกตัดจบซีรี่ย์มังงะได้ ใน 3 สัปดาห์แรก !!!!

ยังคงต่อเนื่องไปกับการตัดจบซีรี่ย์การ์ตูน.....แต่ก็เป็นข่าวน่าสนใจเพิ่มเติม สำหรับใครที่ติดตามเรตติ้งความนิยมการ์ตูน Shonen Jump อยู่บ่อยๆ ซึ่งคนที่ติดตามเรตติ้งการ์ตูน Shonen Jump มาโดยตลอด (รวมถึงรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้บางส่วน จากการ์ตูน Bakuman) คงจะทราบดีว่า ความนิยมการ์ตูนใน Jump แต่ละเรื่อง จะมากหรือน้อย อยู่ที่การโหวตของแฟนๆผ่านไปรษณียบัตรที่แนบมากับนิตยสาร (โหวตได้ 3 เรื่อง) และแฟนๆสามารถรับรู้ความนิยมของเรื่องนั้นๆแบบคร่าวๆได้ จากลำดับของเรื่องที่ติพิมพ์บนหน้าสารบัญของนิตยสาร Jump ซึ่งเรื่องที่ได้ความนิยมอย่างสูง จะได้รับการลงอยู่ต้นเล่ม ส่วนเรื่องที่มีอันดับความนิยมไม่ดี ก็จะรั้งอยู่ท้ายเล่ม (ยกเว้นกรณี ซีรี่ย์เรื่องนั้นๆ มีหน้าเปิดสี รวมถึง ซีรี่ย์บางเรื่อง ที่ถูก fix ตำแหน่งตายตัว ) ซึ่งเรื่องที่ได้รับเรตติ้งต่ำอย่างต่อเนื่องหลายเล่ม ก็จะถูกกองบก. Jump พิจารณาตัดจบ และเอาซีรี่ย์เรื่องใหม่ๆเข้ามาแทนที่

อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม จาก Nobuhiko Horie อดีตหัวหน้ากองบก. Jump ในช่วงยุคทองของนิตยสาร และเคยรับหน้าที่ดูแลซีรี่ย์การ์ตูน "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ" และ City Hunter ได้เปิดเผยถึงระบบแบบสอบถามความนิยมการ์ตูน Jump ในอีกแง่มุมหนึ่ง ในระหว่างการสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Oricon Music Store ว่า ระบบแบบสอบถามวัดความนิยมการ์ตูน สามารถทำให้ซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนั้นๆ ถูกตัดจบได้อย่างไวว่อง เพียง 3 อาทิตย์ หลังจากได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสาร!!

Horie กล่าวว่า ระบบนี้ครอบคลุมถึงมังงะซีรี่ย์ทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ผลงานการ์ตูนที่เขียนโดยนักเขียนคนดัง หากการ์ตูนเรื่องนั้นๆ ได้รับความนิยมลดน้อยลง ซึ่งทางนิตยสารสามารถตัดจบมังงะซีรี่ย์เรื่องนั้นๆได้ โดยยึดเอาผลโหวตจากแบบสอบถามเป็นหลัก อีกทั้ง ทางฝั่งบก. ยังสามารถพิจารณาถึงอนาคตของซีรี่ย์การ์ตูน ว่าจะอยู่หรือไป ภายใน 3 อาทิตย์ หลังจากได้รับการตีพิมพ์ โดยไม่สนว่ามังงะดังกล่าวจะกลายเป็นเรื่องดังหรือไม่ดังในอนาคตก็ตาม ซึ่งทางนิตยสารมีเป้าหมายที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด กับความต้องการและรสนิยมของผู้อ่านเป็นหลัก ดังนั้น ระบบนี้จะให้ความสำคัญไปกับผลสำรวจของผู้อ่าน และผู้อ่านยังสามารถตัดสินใจได้ว่า มังงะเรื่องนั้นๆ คู่ควรที่จะได้รับการตีพิมพ์ต่อไปหรือไม่ ด้วยเช่นกัน

Horie เสริมอีกว่า "แบบสอบถามนั้น มีความหมายมากกว่าสิ่งใดๆ" พร้อมกับได้อธิบายต่อ เกี่ยวกับ บก. หรือ ผู้ดูแล สามารถเข้าไปบอกนักเขียนการ์ตูน เกี่ยวกับผลงานของพวกเขา ที่ออกมาไม่น่าสนใจ และผลงานเหล่านี้ก็จะถูกตัดจบลงด้วย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ บางทีมันก็เป็นเรื่องเข้าใจยากสำหรับนักเขียนการ์ตูน จนกว่าพวกเขาจะได้เห็นผลสำรวจจากผู้อ่านออกมาอย่างจริงๆจังๆ

Horie ยอมรับว่า การตัดสินใจตัดจบการ์ตูนบางเรื่องนั้น มันก็รวดเร็วจนเกินไป โดย"มีกรณีที่ซีรี่ย์การ์ตูนบางเรื่อง ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทีล่ะเล็กล่ะน้อย ด้วยเช่นกัน" และมันก็เป็นข้อเท็จจริงที่บางครั้งมักจะมองข้ามไป เขากล่าวอีกว่า มาตรฐานของการตัดจบซีรี่ย์การ์ตูนนั้น อยู่ที่ 10 สัปดาห์ แต่บางเรื่องนั้น กว่าจะได้รับความนิยม ก็ปาไปราว 7-8 อาทิตย์ เลยทีเดียว ซึ่งเขาก็เชื่อว่า บทเรียนของการตัดสินใจตัดจบซีรีย์การ์ตูนรวดเร็วจนเกินไปของ Jump นั้น กลายเป็นข้อเสียเปรียบอย่างหนัก สำหรับผลงานที่โด่งดังช้าเกินไป อย่างเช่นเคสที่เกิดขึ้นกับมังงะเรื่อง Kenritsu Umisora Kōkō Yakyū Buin Yamashita Tarō-kun ของ อ.Kōji Koseki และ Hareluya ของ อ.Haruto Umezawa เป็นต้น


แหล่งข่าว : Otakomu ,  animenewsnetwork


Yū ผู้วาด Wolf Children ฉบับมังงะ เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น เมื่อมีรายงานว่า Yū ศิลปินผู้วาดภาพให้กับฉบับมังงะของ Wolf Children ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อ 1 ก.ค. 2017 จากอาการหัวใจล้มเหลว ในขณะกำลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโรคร้ายที่ไม่มีการเปิดเผย ซึ่งข่าวดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากสามีของเธอ ที่ได้ใช้ twitter ของเธอในการแจ้งข่าวร้ายที่เกิดขึ้น โดยสามีของเธอยังเปิดเผยอีกว่า Yū มีปัญหาสุขภาพย่ำแย่มาโดยตลอด นับตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ค. 2017 เป็นต้นมา แม้ว่าสุขภาพของเธอจะค่อยๆดีขึ้นก็ตาม ซึ่งการจากไปอย่างกระทันหันของเธอนั้น ไม่ได้มาจากอาการเจ็บป่วยเรื้อรังของเธอโดยตรง

สามีของ Yū ยังกล่าวอีกว่า เธอรักในการวาดการ์ตูนมาตลอดตั้งแต่ยังเด็ก โดยรับรู้เรื่องนี้มาจากพ่อแม่ของเธอ และเมื่อเธอได้รับการร้องขอให้วาดภาพให้กับฉบับมังงะของ Wolf Children ที่ดัดแปลงมาจากหนังอนิเมชื่อเดียวกันของ Mamoru Hosoda ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2012 ทำให้เธอได้รับรู้ถึงความฝันการเป็นนักเขียนการ์ตูนอาชีพนั้นเป็นจริงขึ้นมาแล้ว

หลังจากผลงาน ฉบับมังงะของ Wolf Children Yū ก็มีผลงานมังงะเรื่องอื่นๆ เช่น Go-Jikan-me no Sensō (The Fifth-Period War or Home, Sweet Home!) ในนิตยสาร Young Ace ช่วงปี 2014-2017 รวมถึง มังงะเรื่อง Sayonara, Mata ne" (Farewell, See You Later) อีกด้วย ซึ่งคุณสามีก็เผยว่า ในช่วงที่เธอวาดการ์ตูนนั้นดูจะเป็นช่วงเวลาอันยากลำบาก แต่เธอก็ยังคงอยากทำในสิ่งที่เป็นการเติมเต็มวันเวลาของเธออย่างสนุกสนาน

และเนื่องด้วยตารางงานอันหนักหน่วง ประกอบกับสุขภาพเริ่มย่ำแย่ ทำให้ Yū ไม่สามารถที่จะเข้าร่วมงานโดจินชิได้มากเท่าเมื่อก่อน แต่เธอก็สนุกที่จะได้พูดคุยกับแฟนๆ ซึ่งดูเหมือนว่าเธอนั้นได้รวบรวมความกล้าและความเข้มแข็งจากการได้พูดคุยกับแฟนๆ ไปใช้กับการวาดการ์ตูน

สามีของ Yū ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า Yū ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานการวาดให้มากกว่านี้ ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะเสียใจถึงเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถเสียใจได้ เขาจึงกล่าวขอบคุณแฟนๆของเธอ ที่ช่วยทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง และให้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย


แหล่งข่าว :   Otakomu , animenewsnetwork


Mobile Suit Gundam: Twilight Axis กำลังจะยลโฉม รูปแบบภาพยนตร์

เว็บไซต์หลักของ Mobile Suit Gundam: Twilight Axis ได้ประกาศว่า ONA (อนิเมออกฉายบนเน็ต)ชุดนี้ กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นหนังอนิเมฉบับตัดต่อ ที่มีการใส่ฉากใหม่เพิ่มเติม ภายใต้ชื่อ Mobile Suit Gundam: Twilight Axis - Akaki Zan-ei (Mobile Suit Gundam: Twilight Axis - Red Blur) ตัวหนังมีกำหนดออกฉายบนโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น ไปพร้อมๆกับหนังอนิเม Mobile Suit Gundam Thunderbolt: Bandit Flower ในวันที่ 18 พ.ย. 2017 และจะออกฉายบนโรง 2 อาทิตย์ด้วยกัน

ONA Mobile Suit Gundam: Twilight Axis ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลบนเว็บของ Koujirou Nakamura (แต่งเรื่อง) กับ ARK Performance (วาดภาพ) ออกวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Yatate Bunko ของสตูดิโอ Sunrise ตั้งแต่ พ.ย. 2016 เป็นต้นมา ซึ่ง ONA ชุดนี้ ออกฉายไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2017 มีจำนวนทั้งสิ้น 6 ตอน อีกทั้ง ยังมีการเขียนในรูปแบบมังงะ โดย Azusa Mashima มีกำหนดจะตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young Magazine ในเดือนต.ค. 2017 นี้


แหล่งข่าว : MAL


อนิเม One-Punch Man ซีซั่น 2 มีการเปลี่ยนแปลงผกก. และ สตูดิโอ

อัพเดตข่าวคราวล่าสุดของอนิเม One Punch Man ซีซั่น 2 ที่แฟนๆต่างกำลังรอคอยมานาน ล่าสุด มีการยืนยันว่า อนิเมซีซั่น 2 ของซีรี่ย์ฮีโร่หัวโล้นหมัดเดียวจอด จะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในส่วนของผกก. และสตูดิโอผู้สร้างอนิเม โดยจะได้ Chikara Sakurai ผู้รับหน้าที่ดูแลโปรเจ็คอนิเม Naruto มารับหน้าที่กำกับ และสตูดิโอ J.C. Staff มารับหน้าที่ผลิตอนิเมซีซั่นนี้ แทนที่ของ Shingo Natsume กับสตูดิโอ Madhouse ที่รับหน้าที่กำกับและผลิตอนิเมซีซั่นแรกของเรื่องนี้ ตามลำดับ

แม้ว่าอนิเมซีซั่น 2 ของ One Punch Man จะมีการแปลงแปลง ผกก. กับ สตูดิโอ แต่สต๊าฟรายอื่นๆนั้น ยังคงเป็นคนเดิมจากอนิเมซีซั่นแรก ทั้ง Chikashi Kubota ( character designer) , Tomohiro Suzuki (series composition) ,Makoto Miyazaki (music composer) และ Shoji Hata (sound director) รวมไปถึงนักพากย์ ยังคงชุดเดิมจากซีซั่นแรก

Saitama - Makoto Furukawa

Genos - Kaito Ishikawa

Speed-o'-Sound Sonic - Yūki Kaji

King - Hiroki Yasumoto

Fubuki - Saori Hayami

One Punch Man

แหล่งข่าว : Moca Newscrunchyroll.com




ลือสนั่น...... Index กำลังจะมีอนิเมซีซั่น 3 !!?

สำหรับใครที่กำลังรอคอยการกลับมาบนจอทีวี ของนายหัวเม่นกับยัยแม่ชีจอมเขมือบ To Aru Majutsu no Index นั้น ก็อาจเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆเรื่องนี้ เมื่อมีการลือกันสนั่นว่า Index จะมีการประกาศทำอนิเมทีวีซีซั่น 3 ในงานอีเว้นต์ประจำช่วงฤดูใบไม้ร่วงของแบรนด์ไลท์โนเวล Dengeki Bunko ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ต.ค. 2017 ซึ่งนอกจากข่าวคราวของ Index ซีซั่นใหม่แล้ว ก็มีการลือว่า จะมีการประกาศข่าวสำคัญของ Sword Art Online กันในงานดังกล่าวอีกด้วย

ซึ่งข่าวลือของ อนิเม Index ซีซั่น 3 นั้น ก็มาจากข้อมูลที่เคยระบุไว้บนเว็บไซต์ของรายการทีวี Anime Culture Club ทางช่อง Animax ที่ได้เชิญ Kohei Kawase โปรดิวเซอร์อนิเม Index กับ โปรดิวเซอร์/ผู้ดูแล Kazuma Miki มาร่วมเป็นแขกรับเชิญของรายการ ในตอนที่จะออกฉายในวันที่ 1 ต.ค. 2017 พร้อมกับมีการระบุข้อมูลเกี่ยวกับอนิเมซีซั่น 3 ของ Index บนเว็บไซต์ดังกล่าวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางเว็บไซต์ได้ลบข้อมูลดังกล่าวออกไปหมดแล้ว

Index เป็นเรื่องราวของ Kamijo นักเรียนหนุ่มแห่งนครแห่งการศึกษา สถานที่ซึ่งผู้คนต่างใช้วิทยาศาสตร์ในการสร้างพลังพิเศษเหนือธรรมชาติขึ้นมา วันหนึ่ง เขาได้พบเจอกับสาวน้อยแม่ชี นาม Index ผู้กำลังหลบหนีจากการไล่ล่าของพวกจอมเวท อันเนื่องมาจากเธอได้ล่วงรู้คัมภีร์คาถาเวทมนตร์ต้องห้าม ถึง 103,000 เล่ม ด้วยกัน ซึ่งทำให้เขาต้องพาเธอมาอยู่อาศัยที่บ้านเขาพร้อมกับคอยปกป้องเธอไปในตัว แม้ว่าตัวเขาจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในนครแห่งการศึกษา แต่เขากลับมีความสามารถพิเศษ นั่นคือ พลังในการลบล้างพลังจิต พลังเวท ต่างๆ ที่อยู่บนมือขวาของเขา

ไลท์โนเวล Index ตีพิมพ์ช่วงปี 2004-2011 ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น ออกฉายเมื่อปี 2008 กับ 2011 ตามลำดับ รวมถึง เวอร์ชั่นหนังอนิเม ออกฉายเมื่อปี 2013 อีกทั้ง เรื่องนี้ยังมีการต่อยอดเขียนไลท์โนเวลภาคแยก ชุด To Aru Kagaku no Railgun ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น ออกฉายเมื่อปี 2009 กับ 2013 ตามลำดับ




แหล่งข่าว :  Otakomu , crunchyroll.com


ดราม่าอลเวง Kemono Friends....เมื่อ ผกก.+สตูดิโอ อนิเมซีซั่นแรก ไม่มีส่วนร่วมกับโปรเจ็คอีกต่อไป

แม้ว่าอนิเมสัตว์โลกโมเอะ Kemono Friends จะมีการประกาศทำซีซั่น 2 ต่อก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า แฟนๆคงจะต้องรอคอยอนิเมซีซั่นใหม่กันอีกซักพักใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากประเด็นดราม่าอันร้อนแรง จากการที่ TATSUKI ผกก.อนิเม Kemono Friends ซีซั่นแรก ออกมายืนยันว่า เขาไม่มีส่วนร่วมกับโปรเจ็คนี้อีกต่อไป โดยเขาได้รับแจ้งถึงเรื่องนี้จาก Kadokawa ผู้ดูแลลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Kemono Friends ....ต่อจากนั้นเขาได้กล่าวขอโทษแฟนๆ พร้อมกับแสดงความรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจาก TATSUKI ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ .....ร้อนถึง Nobuo Kawakami ประธานของ Kadokawa Dwango บริษัทแม่ของ Kadokawa ที่พอได้รับทราบข่าวนี้แล้ว ก็ออกมาทวีตทันควันว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และ ได้รับรู้ถึงความพยายามส่วนตัวของ TATSUKI ที่ได้ทุ่มเทอย่างหนักให้แก่อนิเมชุดนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังมีการเจรจากัน ระหว่าง Kadokawa และ Dwango เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาไม่สามารถบอกได้ว่าผลลัพธ์จะลงเอยยังไง

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดราม่ายังไม่จบลงแค่นี้ เมื่อ Kadokawa ได้โพสต์แถลงเกี่ยวกับโปรเจ็คอนิเมซีซั่น 2 ของอนิเม Kemono Friends บนเว็บไซต์หลักของเรื่องนี้ ซึ่งก็มีใจความหลักๆ เกี่ยวกับโปรเจ็คใหม่ของอนิเมเรื่องนี้ ที่พวกเขากำลังพิจารณาถึงวิธีการจัดทำ ที่จะยังคงเดิมจากอนิเมซีซั่นแรก หรือไม่ก็ จัดทำใหม่ไปเลย พร้อมกับแจ้งว่า สตูดิโออนิเม Yaoyorozu ที่เป็นผู้ผลิตอนิเมซีซั่นแรกของเรื่องนี้ ได้ถอนตัวจากโปรเจ็คอนิเมใหม่ไปแล้ว เมื่อ ส.ค. ที่ผ่านมา จากนั้น ในแถลงการณ์ยังได้กล่าวโทษ Yaoyorozu ที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับพวกเขาเท่าที่ควร ในเรื่องของการแบ่งแชร์ข้อมูล รวมถึงนำเอาผลงานของพวกเขาไปใช้ประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง โดยไม่มีการติดต่อกลับใดๆ ซึ่งนำไปสู่การถอนตัวของ Yaoyorozu ออกจากโปรเจ็คนี้ ส่งผลให้โปรเจ็คอนิเมใหม่ของ Kemono Friends ต้องล่าช้าออกไปอีก โดยพวกเขาจะอัพเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับโปรเจ็คต่างๆของเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม้ว่าทาง Kadokawa จะออกแถลงการณ์ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Kemono Friends แต่ดูเหมือนว่า แฟนๆกลับรู้สึกไม่พอใจในคำแถลงการณ์ของพวกเขา โดยมองว่าพวกเขากำลังจะชุบมือเปิบ เอาทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องนี้ไปเป็นของตัวเองหมด ทั้งๆที่แรกเริ่มเดิมที พวกเขาแทบจะไม่สนใจใยดีกับโปรเจ็คนี้เลย (จากการที่ตัวเกมมือถือต้นตำหรับของเรื่องนี้ มียอดขายน้อยมาก) แต่พอมีคนมาชุบชีวิตแฟรนไชส์นี้ให้เปรี้ยงปร้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉบับอนิเมทีวี ก็เลยพยายามที่จะหาทางเอา Kemono Friends มาเป็นของตัวเองหมด พร้อมกับเฉดหัวสต๊าฟกับสตูดิโอที่มีส่วนสำคัญในการทำให้แฟรนไชส์นี้บูมนั้น ออกไป

แต่เรื่องราวนั้นยังไม่จบลงเท่านี้ เมื่อล่าสุด บรรดานักพากย์สาวจากอนิเมเรื่องนี้ ทั้ง Yuka Ozaki, Saki Ono, Aina Aiba, Ikuko Chikuta, Kana Motomiya, Mikoi Sasaki, Ruka Nemoto, และ Kyōka Tamura ได้ออกมาขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านทางรายการ "Kemono Friends Nico Family Special #13: Kemono Friends ที่ออกฉายสตรีมไปเมื่อ 26 ก.ย. 2017 ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น Kadokawa ก็ถูกแฟนๆวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยมองว่า Kadokawa พยายามที่จะใช้นักพากย์สาวเป็นเกราะกำบังให้ตนเอง เพื่อลดกระแสดราม่าอันร้อนแรงที่เกิดขึ้นกับพวกเขา

และจากดราม่า + กระแสความไม่พอใจในการกระทำของ Kadokawa อย่างรุนแรงในหมู่แฟนๆของ Kemono Friends เลยทำให้มีแฟนอนิเมเรื่องนี้จำนวนหนึ่ง พากันลงชื่อบนเว็บไซต์ change.org เพื่อเรียกร้องให้ Kadokawa พา TATSUKI กลับมากำกับอนิเมเรื่องนี้เหมือนเดิม

Kemono Friends ปรากฏขึ้นครั้งแรก ในรูปแบบเกมมือถือ โดยเปิดบริการให้เล่น ช่วงต้นปี 2016 จนถึง 14 ธ.ค. ปีเดียวกัน ก่อนจะถูกนำมาดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 12 ตอน ออกฉายทางช่อง TV Tokyo กับ TV Osaka เมื่อ 10 ม.ค. 2017 - 28 มี.ค. 2017 จากนั้น อนิเมเรื่องนี้มีการจัดทำตอนพิเศษ ตอนที่ 12.1 พร้อมกับโปรเจ็คอื่นๆตามมา ทั้ง เกมชุดใหม่ , ละครเวที , โปรเจ็คอนิเมซีซั่น 2 เป็นต้น


แหล่งข่าว :  nlab , animenewsnetwork


ยอดขายวีดีโออนิเมในญี่ปุ่น ลดลง 16.6% ช่วงครึ่งปีแรก 2017

สมาคมวีดีโอซอฟต์แวร์ญี่ปุ่น (JVA) ได้เผยรายงานยอดขายแผ่นวีดีโอในญี่ปุ่น ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 ที่ได้รวบรวมสถิติกันในช่วง ม.ค. - มิ.ย. 2017

ตลาดวีดีโอในญี่ปุ่นในช่วง ม.ค. - มิ.ย. 2017 มีรายได้จากยอดขายแผ่นรวมกันราว 91,685,000,000 เยน ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดลงจากเมื่อช่วงเวลาเดียวกันจากปี 2016 ถึง 10.6% โดยตลาด Blu-ray Disc มีรายได้ลดลง 6.6% และ จำนวนยอดขายลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ ตลาด DVD มีรายได้ลดลง 13.6% และ จำนวนยอดขายลดลง 13.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตลาด DVD ครองรายได้ในตลาดวีดีโอในญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็น 55.4% ขณะที่ Blu-ray Discs คิดเป็น44.7%

ยอดขายแผ่นวีดีโอเชิงพาณิชย์สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งถือครองตลาดวีดีโอซะส่วนใหญ่ ก็ลดลงจากปีก่อน 10.5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 เช่นเดียวกับ ยอดเช่าวีดีโอ ที่ลดลง 11.8%.

ในส่วนของยอดขายแผ่นวีดีโออนิเมญี่ปุ่นแนวทั่วไป (รวมถึง อนิเมที่จัดทำสำหรับผู้ชมวัยรุ่น-ผู้ใหญ่) สามารถทำยอดขายได้ 26.4% ของยอดขายแผ่นวีดีโอทั้งหมด โดยมียอดขายที่ลดลงจากปีก่อน 16.6% โดยแผ่นอนิเมแบบ Blu-ray Disc ยังคงครองตลาดแผ่นอนิเมแนวทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ ถึง 77.6% คิดเป็น 37.1% ของตลาด Bu-ray Disc ทั้งหมด ถึงกระนั้น ยอดขายแผ่นอนิเมแบบ Blu-ray Disc นั้น กลับลดลงถึง 14.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ ยอดขายแผ่น DVD อนิเมทั่วไปในญี่ปุ่นนั้น ลดลงจากปีก่อน 23.3% คิดเป็น 13.2% ของตลาด DVD รวมในญี่ปุ่น

โดยแหล่งข่าวจากเว็บไซต์ Animation Business Journal ได้คาดการณ์ว่า ยอดขายแผ่นอนิเมในช่วงครึ่งหลังของปี 2017 จะเพิ่มสูงขึ้น จากการวางจำหน่ายหนังอนิเมเรื่องฮิต เช่น your name (วางจำหน่าย 26 ก.ค. 2017) และ In This Corner of the World (วางจำหน่าย 15 ก.ย. 2017)

ก่อนหน้านี้ บริษัทวิจัยด้านการตลาด GfK Japan ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับตลาดวิดีโอในญี่ปุ่น ช่วง ม.ค. - มิ.ย. 2017 ของพวกเขา ซึ่งก็มีข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน คือ มียอดขายที่ลดลงจากปีก่อนหน้า เช่นกัน (แม้ว่า รายงานของ GfK จะไม่ได้นับยอดซื้อจากร้านเช่าวีดีโอ ก็ตาม)

รายได้จากยอดขายวิดีโอในญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา หลังจากเคยทำยอดขายสูงสุด เมื่อปี 2004 ด้วยรายได้ 375.3 พันล้านเยน

รายงานการขายวิดีโอภายในประเทศของญี่ปุ่น (JVA) 12 เดือนรายงานว่ายอดขายในญี่ปุ่นในปี 2016 ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับปี 2015 แต่มียอดขายเพิ่มขึ้น 0.7% ตลาดวิดีโออะนิเมะโดยเฉพาะมีการลดลง 15.8% ในช่วง 2015-2016 ผลการวิจัยของ JVA รวมถึงยอดขายจากการซื้อสินค้าโดยบุคคลร้านเช่าและธุรกิจตลอดจนดีวีดีโบนัสและแผ่น Blu-ray พร้อมกับนิตยสารหรือหนังสือการ์ตูน

ก่อนหน้านี้ JVA เคยรายงานยอดขายวีดีโอในญี่ปุ่น ประจำปี 2016 ปรากฏว่า ตลาดวีดีโอญี่ปุ่นในปี 2016 มีรายได้ตลาดสุทธิลดลงจากปีก่อนหน้า 6.1% แต่กลับมีจำนวนยอดขายแผ่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% หากนับเฉพาะตลาดวีดีโออนิเมปี 2016 พบว่า มีรายได้ลดลง 15.8% เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งการวิจัยของ JVA นั้น จะนับรวมข้อมูลการซื้อแผ่นจากบุคคลทั่วไป , ร้านเช่า และ ภาคธุรกิจ รวมถึง แผ่น Blu-ray Discs กับ DVD พิเศษที่มากับนิตยสาร และ หนังสือการ์ตูน เข้าไปด้วย

แหล่งข่าว :  Animation Business Journal , animenewsnetwork



Toei จดทะเบียนการค้า 'Keisatsu Sentai Patoranger' และ 'Kaitō Sentai Lupinranger'

Toei ได้ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ Keisatsu Sentai Patoranger และ Kaitō Sentai Lupinranger ไปเมื่อ 11 ก.ย. 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าทั้งสองเรื่องนี้จะเป็นซีรี่ย์ Super Sentai หรือ ขบวนการนักสู้หลากสี ขบวนการใหม่ ที่จะมาฉายต่อจาก Uchū Sentai Kyūranger ซีรี่ย์ Super Sentai ชุดที่ 41 ที่กำลังออกฉายอยู่ ณ ขณะนี้ เพียงแต่คราวนี้ Toei เล่นจดทีถึง 2 ขบวนการรวดเลย!!! ซึ่งไม่รู้ว่า ทั้ง 2 ขบวนการนี้ จะออกฉายภายในปีเดียวกัน , คนละปี หรือ พร้อมๆกัน (และนับรวมเป็น Super Sentai เรื่องที่ 42 ) กันแน่ !!? (ฟังจากชื่อขบวนการ มาในคอนเซ็ปต์ ตำรวจ กับ โจร คาดว่า ทั้ง 2 ขบวนการจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกัน)

โดย Kyūranger มีหนังใหญ่ชุด Uchū Sentai Kyūranger The Movie: Gase Indabay no Gyakushū ออกฉายไปเมื่อ 5 ส.ค. 2017 ที่ผ่านมา

แหล่งข่าว : The Tokusatsu Network , animenewsnetwork

 


Your Name เตรียมหลับตาฝัน-สลับร่างอีกรอบ กับรูปแบบหนังคนแสดงฮอลลิวู้ด

Your Name / Kimi no Nawa หรือ หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ หนังอนิเมดังรายได้มหาศาลของผกก. Makoto Shinkai เตรียมจะถูกดัดแปลงกลายเป็นหนังคนแสดงระดับ Hollywood โดย Paramount Pictures กับ J.J. Abrams แห่ง Bad Robot (Alias, Lost, Star Trek, Star Wars) ซึ่ง HollyWood Reporter ยังได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า โปรเจ็คหนังคนแสดงฮอลลิวู้ดของ Your Name จะได้ Eric Heisserer (Arrival) มาเป็นผู้เขียนบทหนัง อีกทั้งยังได้ Genki Kawamura โปรดิวเซอร์ของหนังอนิเมต้นฉบับ รวมไปถึง Toho มาร่วมด้วยช่วยทำโปรเจ็คนี้ ซึ่ง Toho จะเป็นผู้จัดจำหน่ายตัวหนัง Your Name ฉบับคนแสดง ในญี่ปุ่น

ทาง ผกก. Shinkai ได้แสดงความรู้สึก หลังรับทราบข่าวที่ผลงานของเขาได้รับการทำในรูปแบบคนแสดงฮอลลิวู้ด "Your Name เป็นหนังที่สร้างขึ้นมาด้วยจินตนาการของทีมผู้สร้างชาวญี่ปุ่น และเมื่องานนี้ได้รับการดัดแปลงในรูปแบบหนังฮอลลิวู้ด เราอาจได้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อน ผมจะตั้งหน้าตั้งตาติดตามหนังคนแสดงด้วยความคาดหวังเป็นอย่างสูงครับ"

Your Name เป็นเรื่องราวของ Taki กับ Mitsuha หนุ่มสาวผู้มีไลฟ์สไตล์ ความปรารถนาที่แตกต่างกัน แถมไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนกระทั่ง ทั้งคู่ได้มาสลับร่างกัน ในขณะที่กำลังนอนหลับไหลอยู่ และจากเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งคู่พยายามที่จะสื่อสารกัน พร้อมกับแนะนำซึ่งกันและกัน ในขณะที่กำลังสลับร่างกัน และแล้วเรื่องราวก็ดำเนินต่อไป จนกระทั่ง Taki ล่วงรู้ความจริงที่เกิดขึ้น และพยายามที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของ Mitsuha ให้จงได้

Your Name ออกฉายครั้งแรกเมื่อ ส.ค. 2016 ทำสถิติเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุด เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น รวมถึง เป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงที่สุด เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น และ หนังอนิเมที่ทำรายได้สูงที่สุด เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ตามลำดับ


Your Name

แหล่งข่าว : Hollywood Reporter , crunchyroll.com


 "อ.วัว" Hiromu Arakawa โผล่บนจอทีวีครั้งแรก โปรโมทนิทรรศการภาพศิลปะ Fullmetal Alchemist

อ.Hiromu Arakawa ผู้แต่งมังงะ Fullmetal Alchemist , Silver Spoon ผู้เป็นที่รู้จักคุ้นหน้าคุ้นตาในหมู่แฟนๆ ในฐานะของมาสค็อตวัวสวมแว่นตา (จนถูกเรียกเป็น "อ.วัว" ในหมู่แฟนๆ) ได้เดบิวบนหน้าจอทีวีเป็นครั้งแรก กับรายการพิเศษ 30 นาที ที่เป็นการโปรโมทงานนิทรรศการภาพศิลปะของมังงะ Fullmetal Alchemist ที่ออกฉายไปเมื่อช่วงดึกของวันที่ 27 ก.ย. 2017 ทางช่อง Tokyo MX และ MBS โดย อ.วัว ได้มาปรากฏตัวในรายการร่วมกับ Tsubasa Honda นักแสดงสาวผู้รับบทเป็น Winry Rockbell ใน FMA ฉบับคนแสดง ซึ่งจะเป็นการแนะนำไฮไลต์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในนิทรรศการดังกล่าว

งานนิทรรศการภาพศิลปะ FMA กำลังจัด ณ Tokyo Dome City Gallery AaMo โตเกียว ช่วงวันที่ 16 ก.ย. - 29 ต.ค. 2017 จากนั้น จะย้ายไปจัดที่พิพิธภัณฑ์ Osaka Bay Area ATC โอซาก้า ในช่วงวันที่ 3-30 พ.ย. 2017



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , crunchyroll.com


เพิ่มอรรถรสบนโรง......คนแสดง Fullmetal Alchemist เตรียมเข้าฉายโรง IMAX, 4DX ในญี่ปุ่น

เว็บไซต์หลักของหนังคนแสดง Fullmetal Alchemist ได้แจ้งมาว่า ตัวหนัง นอกจากจะเข้าฉายบนโรงในญี่ปุ่น แบบปกติ จำนวนราว 400 โรงแล้ว ก็จะเข้าฉายบนโรงหนังในระบบ IMAX และ 4DX เพื่อเพิ่มอรรถรสการรับชมหนังให้สมจริง สนุกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งโรงหนังในระบบ 4DX นั้น จะติดตั้งเก้าอี้ที่สามารถเคลื่อนไหวไปกับฉากแอ็คชั่นในหนัง พร้อมกับแสดงเอฟเฟ็ค ลม , หมอก , กลิ่น ให้เข้ากับฉากในหนังเช่นกัน

ตัวหนัง FMA จะยัดเรื่องราวจากการ์ตูนต้นฉบับให้กลายเป็นหนังคนแสดงชุดเดียวจบ โดยมีการเปลี่ยนแปลงอายุของ Ed/Edward ตัวเอกของเรื่อง ให้กลายเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปี จากเดิมเป็นเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ตามต้นฉบับการ์ตูน ส่วน Al/Alphonse น้องชายของ Ed เป็น CG ล้วนๆ โดยหนังคนแสดง FMA มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ + World Premiere ในวันที่ 25 ต.ค. 2017 ณ งานเทศกาลหนังนานาชาติโตเกียว และมีกำหนดออกฉายทั่วญี่ปุ่น ในวันที่ 1 ธ.ค. 2017 ซึ่งใครที่เข้าชมหนังเรื่องนี้บนโรง จะได้รับของแถมเป็นมังงะชุดพิเศษที่วาดโดย อ.Hiromu Arakawa ผู้แต่ง FMA ฉบับการ์ตูน

แหล่งข่าว : Comic Natalie , animenewsnetwork


I"s ถูกปัดฝุ่นใหม่ รูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดง

I"s ผลงานการ์ตูนแนวรักโรแมนติควัยรุ่น รักสามเส้า เรื่องดังของ อ.Masakazu Katsura กำลังจะได้รับการปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดงทางทีวี ที่มีกำหนดออกฉายทางช่อง SKY PerfecTV! ในปี 2018 โดยได้ Amane Okayama มาเป็นนักแสดงนำ และกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ ช่วง ก.ย.-ธ.ค. 2017

I"s ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shōnen Jump ช่วงปี 1997-2000 เป็นเรื่องราวของ Ichitaka เด็กหนุ่มผู้ตกอยู่ในวังวนรักสามเส้า จากการที่เขากำลังแอบหลงรัก Iori อยู่ข้างเดียว รวมถึง หวั่นไหวไปกับ Itsuka เพื่อนสาวสมัยเด็ก ที่กลับมาจากอเมริกา แล้วมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเขา


แหล่งข่าว :  Livedoor News , Otakomu , crunchyroll.com


ผกก. Yamakan ออกมาขอโทษ จากประเด็นหมิ่นโอตาคุเป็นคนพิการ

ยังคงสร้างประเด็นขี้ปากให้ชาวบ้านชาวช่องได้หัวร้อนกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ Yutaka "Yamakan" Yamamoto ผกก.อนิเม จาก Lucky Star , Kannagi และ Wake Up, Girls! ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นขาแซะ จิกกัด พวกโอตาคุ รวมถึง คนวงการอนิเมญี่ปุ่น มาหลายต่อหลายคน
.....ล่าสุด เขาได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บรรดาโอตาคุ คอการ์ตูน ในเชิงดูถูกดูหมิ่น บน twitter ส่วนตัว ที่เขาได้โพสต์ไปเมื่อ 23 ก.ย. 2017 ที่ผ่านมา โดยทวีตข้อความของเขา ที่ระบุว่า "ใช่แล้ว คนที่ยังรับชมอนิเม ทั้งๆที่ล่วงเลยวัยที่เหมาะสมไปแล้วนั้น เป็นพวกพิการทั้งนั้น" ได้สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาชาวเน็ต เลยพากันเข้ามารุมถล่ม twitter ของเขาซะยับเยิน ร้อนถึง Yamakan ต้องออกมากล่าวขอโทษบนบลอกส่วนตัว เมื่อ 27 ก.ย. 2017

Yamakan ได้กล่าวขอโทษบนบลอก โดยสารภาพว่าเขาผิดเองที่นำเอาพวกโอตาคุไปเปรียบเทียบกับคนพิการ จากนั้น เขาก็เขียนต่ออีกว่า หลายคนอาจวิพากษ์วิจารณ์พวกโอตาคุ โดยใช้คำถ้อยคำต่างๆนานา เรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็นพวก "สมองนก" , "สุนัขของ Pavlov" , "หมูสกปรก" หรือ "หนอนโสโครก" เป็นต้น ซึ่งทวีตดังกล่าว เขาเพียงต้องการบอกเป็นนัยๆว่า คนที่ยังเอาแต่ดูอนิเม ทั้งๆที่ล่วงเลยวัยไปแล้วนั้น มันช่างไม่เหมือนกับมนุษย์ปกติเลย

* "สุนัขของ Pavlov" เป็นคำแสลง สื่อถึงพฤติกรรมที่สร้างขึ้นมาโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง มาจากสุนัขที่ใช้ในการทดลองเรื่องปฏิกิริยาสะท้อน ของ Ivan Pavlov นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย*

เขายังได้กล่าวเน้นย้ำขอโทษ ในแง่ที่เขาเอาความคิดเห็นส่วนตัวมาเปรียบเทียบกับคนพิการ ซึ่งเขาจะทบทวนการกระทำของเขาอีกครั้ง


ทวีตอันก่อดราม่าของ Yamakan นั้น ได้มีผู้ใช้ twitter จำนวนมาก ได้เข้าไปแสดงความเห็นในเชิงประชดประชันเขากันอย่างหลากหลาย ทั้ง "อายุเท่าไหร่ ถึงจะ OK ล่ะ?" , "มันคงจะดีกว่านี้ หากเราไม่ดูอนิเมมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราเกิดมา" เป็นต้น ขณะที่ชาวเน็ตส่วนหนึ่ง ได้แสดงความเห็นว่า หากโอตาคุหายไป คนที่รับชมอนิเมของ Yamamoto ก็ต้องหายไปด้วย เช่นกัน

ในขณะที่หลายคนได้ชื่นชมสปิริตของ Yamakan ที่ออกมาขอโทษ แต่ก็ยังคงมีคนคอยตั้งคำถามว่า เขาได้ขอโทษอย่างจริงใจหรือเปล่า? ซึ่งชาวเน็ตบางคนเชื่อว่า คำขอโทษของ Yamakan นั้น ค่อนข้างไม่มีน้ำหนักมากพอ และการที่เขานำเอาสัตว์ต่างๆ มาอ้างอิงด้วยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าที่ควร


แหล่งข่าว : Otakomu , animenewsnetwork



My Hero Academia ปราบเหล่าวายร้ายกันต่อกับอนิเมซีซั่น 3

ข่าวหลุดมาจากนิตยสาร Shonen Jump เล่ม 44 ที่จะวางขายในวันที่ 2 ต.ค. 2017 ได้แจ้งข่าวดีแก่บรรดาสาวกมังงะฮีโร่ฝึกหัด My Hero Academia ว่า เรื่องนี้กำลังจะมีการทำอนิเมต่อในซีซั่นที่ 3 แล้ว โดยตอนสุดท้ายของอนิเมซีซั่น 2 มีกำหนดออกฉาย 30 ก.ย. 2017 นะ (และคาดว่า จะมีการแจ้งข่าวนี้ให้ทราบ หลังอนิเมออกฉายจบ)


แหล่งข่าวและรูปภาพ :  YonkouProd , crunchyroll.com



2 โปรดิวเซอร์จาก Friday Night Lights เซ็นสัญญา ร่วมผลิตละครซีรี่ย์ "Sword Art Online"

อัพเดตข่าวคราวล่าสุด บางคนที่อาจ(ตั้งใจ)ลืมกันแล้ว สำหรับ โปรเจ็ค Sword Art Online ฉบับละครซีรี่ย์อเมริกัน ที่ได้มีการประกาศกันไปเมื่อฤดูร้อน 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจัดทำร่วมกันระหว่าง Skydance Television กับ Kadowawa Corp นั้น ล่าสุดมีรายงานจาก Hollywood Reporter ระบุว่า ทาง Skydance Television ได้มีการเซ็นสัญญากับ Patrick Massett กับ John Zinman คนเขียนบท/โปรดิวเซอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังละครซีรี่ย์ Friday Night Lights, The Blacklist และหนัง Lara Croft: Tomb Raider ให้มารับหน้าที่เขียนบท , ควบคุมรายการ และ executive producer ให้กับละครดัดแปลงจากนิยายเกมออนไลน์ดังชุดนี้ โดยทั้งคู่จะได้ร่วมงานกับ Laeta Kalogridis (Avatar, Altered Carbon) ที่มารับหน้าที่เขียนบทให้กับ pilot episode และรับหน้าที่ executive producer ร่วมกับ David Ellison, Dana Goldberg และ Marcy Ross

"Patrick กับ John ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเล่าเรื่องอันน่าเหลือเชื่อ ตั้งแต่ ละคร ยัน หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ระดับโลก และ เรารู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทั้งคู่มาร่วมงานกับครอบครัว Skydance ของเรา" Marcy Ross ประธานของ Skydance Television เป็นผู้กล่าว "เรา ร่วมกับ Patrick, John และ Laeta ได้ดำเนินการพัฒนาละครซีรี่ย์ SAO ของ Skydance ให้ออกมาอย่างยิ่งใหญ่ ชนิดที่ไม่เพียงแค่ทำออกมาให้พึงพอใจแฟนๆไซไฟกับอนิเมแล้ว แต่ยังต้องทำออกมาให้ดึงดูดผู้ชมทางทีวีกลุ่มใหม่ๆ ทั่วโลกอีกด้วย"

ขณะที่ Massett กับ Zinman กล่าวว่า " โลกแฟนตาซีของ SAO ได้นำเสนอโอกาสในการเล่าเรื่องราวที่สะท้อนไปทั้งความเป็นมหากาพย์แล้วก็สเกลในแบบมนุษย์ อย่างเทียบเคียงยาก เราไม่สามารถถามหาพาร์ทเนอร์ที่ดีเยี่ยมไปกว่า Skydance อีกแล้ว รวมถึง Laetaได้ช่วยพวกเราในการนำสื่อที่เป็นปรากฏการณ์ป๊อปคัลเจอร์ทั่วโลก ให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง บนจอโทรทัศน์"

แหล่งข่าว : Hollywood Reporter , crunchyroll.com


Chihayafuru ผุดมังงะสปินออฟ บอกเล่าเรื่องราวตัวเอกสมัยมัธยมต้น

นิตยสาร Be-Love ฉบับที่ 20 ที่วางขายไปเมื่อ 30 ก.ย. 2017 ได้แจ้งว่า มังงะ Chihayafuru (จิฮายะ) กำลังจะมีมังงะภาคแยกออกมาชุด Chihayafuru Chūgakusei-hen (Chihayafuru Middle School Arc) ลงตีพิมพ์ในฉบับถัดไปของนิตยสารดังกล่าว ที่จะออกวางขายในวันที่ 13 ต.ค. 2017 ซึ่งมังงะดังกล่าว ได้ อ.Oto Tōda รับหน้าที่วาดภาพ

มังงะชุดดังกล่าว ดัดแปลงเรื่องราวมาจากฉบับนิยายของมังงะเกมการ์ดคารุตะเรื่องดังเรื่องนี้ ซึ่งรับหน้าที่แต่งโดย Yui Tokiumi ที่ออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2012-2015 มีฉบับรวมเล่มทั้งหมด 4 เล่ม โดยจะเล่าเรื่องราวของบรรดาตัวละครหลักในเรื่อง สมัยตอนเรียนมัธยมต้นเป็นหลัก (ต่างจากมังงะภาคหลัก ที่จะเริ่มต้นเรื่องราวสมัยประถม ก่อนจะข้ามไปเล่าเนื้อหาตอนม.ปลาย ยาวๆ )

มังงะต้นฉบับของ Chihayafuru เขียนโดย อ.Yuki Suetsugu ตีพิมพ์ในนิตยสาร Be-Love ตั้งแต่ ธ.ค. 2007 เป็นต้นมา และมีกำหนดวางขายฉบับรวมเล่มที่ 36 ในวันที่ 13 พ.ย. 2017 โดยเรื่องนี้ติดอันดับ 7 หนังสือแห่งปี ของนิตยสาร Da Vinci เมื่อปี 2016 ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น และ หนังคนแสดงอีก 3 ชุด ซึ่งหนังคนแสดงชุดที่ 3 ของเรื่องนี้ มีกำหนดออกฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ในปี 2018


แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , animenewsnetwork


นักพากย์หนุ่ม Daisuke Ono ได้รับแต่งตั้งเป็นทูตท่องเที่ยว จ.บ้านเกิด

Daisuke Ono หนุ่มนักพากย์อนิเมคนดัง ได้รับเกียรติสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตการท่องเที่ยวประจำเมือง ซากาวะ จ.โคจิ บ้านเกิดของเขา ที่ตั้งอยู่ ณ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้บนเกาะชิโกกุ โดยเขาได้รับมอบจดหมาย ที่กระดาษทำมาจาก Japanese cypress ต้นไม้อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง แล้วก็ นามบัตร จากท่านนายกเทศมนตรีของเมืองซากาวะ

จากการที่เขาได้รับการแต่งตั้งในฐานะทูตการท่องเที่ยวประจำเมืองซากาวะ นั้น ทำให้ Ono จะต้องไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเมืองนี้เพิ่มเติม รวมถึง จะต้องไปบันทึกเสียงเป็นเสียงไกด์ที่คอยแนะนำนักท่องเที่ยวที่จะตระเวนไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆของเมือง

Ono กล่าวถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่า "ผมรู้สึกภูมิใจ ที่ได้เกิดที่เมืองนี้" เขากล่าวต่อว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจให้รับหน้าที่ในการเผยแพร่ข้อมูลของเมืองนี้ไปทั่วญี่ปุ่น จากนั้นเขาได้เสริมอีกว่า "มันเป็นหน้าที่ของคนรุ่นเราที่จะต้องช่วยกันพัฒนาเมือง ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"

Ono มีผลงานการพากย์อนิเมมากมาย โดยโด่งดังมาจากการพากย์เสียงเป็น Itsuki Koizumi จากอนิเม Haruhi Suzumiya เมื่อปี 2006 นอกนั้นก็มีบทบาทการพากย์เสียงตัวละครอื่นๆ อาทิ Erwin จาก Attack on Titan, Jōtarō Kūjō จาก JoJo's Bizarre Adventure: Stardust Crusaders, Jūshimatsu จาก Mr. Osomatsu, Lucio จาก Altair: A Record of Battles, และ Sebastian Michaelis จาก Black Butler อีกทั้งเขายังพากย์เสียงเป็น Eliott Leland ในหนังอนิเมไตรภาคของ Godzilla ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้

แหล่งข่าวและรูปภาพ : The Kochi Shimbun , Nijimen , animenewsnetwork


10 อันดับ ตัวละครต่างชาติจากอนิเมญี่ปุ่น น่าดึงดูด น่าหลงใหล ที่สุด

ช่วงกลางเดือน ก.ย.2017 Charapedia ได้จัดทำโพลสำรวจแฟนอนิเม เกี่ยวกับตัวละครชาวต่างชาติในอนิเมเรื่องต่างๆ ที่มีความรู้สึก น่าดึงดูด น่าหลงไหล มากที่สุด โดยได้ผลโหวตออกมาดังนี้

10. Kuroko's Basketball's Alexandra Garcia - 128 votes

9. Black Butler's Ciel Phantomhive - 135 votes

8. Case Closed's Jodie Starling - 151 votes

7. Yuri!!! on Ice's Yuri Plisetsky - 172 votes

6. Monogatari's Kiss-Shot Acerola-Orion Heart-Under-Blade - 185 votes

5. Case Closed's Vermouth - 217 votes

4. Uta no Prince-sama's Camus - 255

3. Assassination Classroom's Irina Jelavić - 294 votes

2. Yuri!!! on Ice's Victor Nikiforov - 400 votes

1. Kinmoza's Alice Cartelet - 453 votes

กลุ่มผู้โหวตโพลดังกล่าว เป็นชาย 53% และ ผู้โหวตส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยรุ่น-20 ปี ขึ้นไป 69.5%

แหล่งข่าว : crunchyroll.com

 


 

10 อันดับ มังงะ - ไลท์โนเวล ขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 18-24 ก.ย. 2017

มังงะ

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 147,537 *,147,806 JoJo no Kimyou na Bouken / โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ Part 8: JoJolion เล่ม 16
*2. 124,745 *,124,745 Saint☆Onii-san เล่ม 14
*3. 111,155 *,111,155 Kinou Nani Tabeta เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? เล่ม 13
*4. 106,705 *,207,246 Diamond no Ace / Ace of Diamond Act II เล่ม 9
*5. 102,396 *,201,842 Fairy Tail ศึกจอมเวทอภินิหาร เล่ม 62
*6. *89,155 *,212,050 Cardcaptor Sakura: Clear Card-hen เล่ม 3
*7. *87,732 *,*87,732 Ookiku Furikabutte เล่ม 28
*8. *86,466 *,*86,466 Hoozuki no Reitetsu ยุ่งนักหนา เลขาพญายม เล่ม 25
*9. *71,074 *,*71,074 Fruits Basket: Another เล่ม 2
10. *69,983 *,*69,983 Himouto! Umaru-chan ตัวแสบแอบเกรียน อุมารุจัง เล่ม 11

 

ไลท์โนเวล

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 112,840 112,840 Yahari Ore no Seishun Love Comedy wa Machigatteiru. กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมมันต้องไม่สดใสเลยสักนิด เล่ม 12
*2. *29,221 172,791 Sword Art Online เล่ม 20
*3. *18,668 *18,668 Re:Zero kara Hajimeru Isekai Seikatsu รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก เล่ม 14
*4. *18,157 *18,157 Imouto sae Ireba Ii. คงจะดีถ้ามีน้องสาวซักคน เล่ม 8
*5. *15,955 *15,955 Tokyo Ravens เล่ม 15
*6. *14,577 *14,577 Hidan no Aria อาเรีย กระสุนแดงเดือด เล่ม 26
*7. *13,688 *13,688 Gamers! DLC
*8. *10,992 *10,992 Oda Nobuna no Yabou จอมนางอหังการ โอดะ โนบุนะ เล่ม 19
*9. *10,901 *10,901 Isekai wa Smartphone to Tomo ni. เล่ม 10
10. *10,755 *10,755 Only Sense Online เล่ม 13


แหล่งข่าว : Oricon , MAL

 


 

 
free hit counter javascript